ข่าวช่องวัน รายงานสถานการณ์ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ยของจีน ซึ่งก็เป็นสถานที่แรกที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ทวีความน่าวิตกกังวลมากขึ้น หลังทางการได้ประกาศปิดเมือง เพื่อสกัดการแพร่ระบาด ทำให้ประชาชนแห่ไปซื้ออาหารมาเพื่อกักตุน เพราะกลัวว่าจะเกิดภาวะขาดแคลน ซุปเปอรมาเก็ตหลายแห่งแออัดด้วยผู้คนที่มารอซิ้อของ หลายคนยื้อแย่งสินค้ากันจนถึงขั้นใช้กำลังทำร้ายกัน ขณะที่ในโลกออนไลน์มีการแชร์วีดีโอคลิป เผยให้เห็นสถานการณ์ภายในโรงพยาบาลหลายแห่งของเมืองอูฮั่นที่เต็มไปด้วยคนไข้ที่กำังรอผลตรวจร่างกายว่าตัวเองป่วยติดเชื้อไวรัสดังกล่าวหรือไม่ ขณะที่แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขทำงานกันอย่างหนักในการเข้าช่วยเหลือผู้ป่วย หลังพบว่ามีรายงานผู้ติดเชื้อหมดสติและล้มลง พบเห็นได้ทั่วเมือง จนถึงขณะนี้ มีอย่างน้อย 5 เมือง ในมณฑลหูเป่ยปิดระบบขนส่ง ซึ่งมีขึ้นขณะที่ประชาชนชาวจีนหลายร้อยล้าน เดินทางทั่วประเทศเพื่อไปฉลองเทศกาลตรุษจีน แต่ประชาชนนับล้านได้รับคำเตือนห้ามเดินทางออกนอกเมือง ขณะที่กรุงปักกิ่งและมาเก๊ายกเลิกการจัดการฉลองเทศกาลตรุษจีนขนาดใหญ่ทั้งหมด ล่าสุด...
ในตอนนี้ทั่วโลกต่างพากันวิตกกังงวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาด ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับ ซาร์ส (SARS) ซึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน โดยคาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสัมผัสกับสัตว์ป่าที่ซื้อ-ขาย กันอย่างผิดกฎหมายในตลาด โดยพบว่ามีการติดต่อจากคนสู่คน ผ่านระบทางเดินหายใจ และเมื่อล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า17 ราย รายงานจาก Mirror เผยว่า ในขณะที่ผู้คนตื่นกลัว ในโลกโซเชียลมีเดียมีความกังวลว่าหนึ่งในต้นเหตุของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ อาจจะมาจากการกินซุปค้างคาวด้วย ภายหลังจากที่มีการแชร์ภาพและคลิปวีดีโอการเปิปพิศดารของชาวจีน เผยแพร่ในสื่อออนไลน์อย่างมากมาย มีทั้งค้างคาวต้มอยู่ในหม้อน้ำซุปอันน่าสะพรึง และหญิงสาวใช้ตะเกียบคีบค้างคาวเข้าปาก รายงานเผยว่า...
เด็กๆเป็นวัยที่กำลังเรียนรู้ อยากรู้อยากเห็นไปหมด และโลกนี้ก็เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นของพวกเขา แต่ในทำนองเดียวกันโลกก็เต็มไปด้วยภัยอันตรายรอบตัว ที่สามารถทำให้เด็กๆเสียงต่อการบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่างเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ที่ประมาทคนนี้ ที่ซึ่งต้องประสบกับเหตุการณ์ความน่าสะพรึงกลัวในการปล่อยลูกไว้ลำพังแค่เพียงไม่นาน เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 World of buzz รายงานข่าวอุหาหรณ์เตือนภัยพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกหลานอยู่ในวัยกำลังซน โดยเด็กหญิงชาวจีนวัย 2 ขวบ ถูกทิ้งให้เล่นตามลำพัง จนเธอถูกไฟฟ้าช็อตอย่างรุนแรง หลังจากไปเล่นกับปลั๊กไฟ จนเกิดเป็นแผลำไหม้อย่างรุนแรง สร้างความเจ็บปวดแสนทรมานแก่หนูน้อย และทำให้แม่ใจสลาย เหตุการณ์สะเทือนใจดังกล่าวเกิดขึ้นที่มณฑลเหลียวเหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน...
จากคดีสะเทือนขวัญเหตุคนร้ายบุกปล้นร้านทองออโรร่า ภายในห้างดัง อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยใช้อาวุธปืนเก็บเสียงยิงเปิดทางใส่ชาวบ้านและพนักงานร้านทอง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ศพ ในจำนวนนี้มีเด็กชายวัย 2 ขวบ โดนลูกหลงเสียชีวิตด้วย ท่ามกลางความแตกตื่นของชาวบ้านที่เดินซื้อของในห้าง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 22 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการอนุมัติหมายจับ ครูกอล์ฟ ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ สิงห์บุรี...
สำนักงานข่าวต่างประเทศ BBC รายงานว่า สวนสนุก Meixin Red Wine Town ในประเทศจีน นครฉงฉิ่ง กำลังถูกสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก หลังจากที่พวกเขาเปิดตัวเครื่องเล่นบันจี้จั๊มพ์ใหม่ด้วยวิธีที่สุดแสนจะพิเรนทร์ โดยการนำน้องฟมูตัวเป็นๆที่มีน้ำหนักว่า 75 กิโลกรัม มาผูกเชือกสลิง และทิ่งดิ่งลงจากหอคอยสูงสุด ตามรายงานจากสำนักข่าว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 18 มค. 63 ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของพิธีเปิดตัวเครื่องเล่นบันจี้จั๊มพ์ใหม่ของสวนสนุกนี้นั้น โดยมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอบนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นว่า หมูตัวหนึ่งซึ่งถูกผูดมัดเอาไว้กับเชือกบันจี้จั๊มพ์...
วันที่ 17 มกราคม 2563 Thestar รายงานกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ในประเทศญี่ปุ่น หลังมีการเปิดเผยเรื่องราวของ นางยูโกะ โอกาซาวาระ คุณยายวัย 84 ปี ที่ตัดสินใจเดินทางเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่ หรือ เอวี แม้คุณยายยูโกะจะไม่ใช่ผู้สูงวัยคนแรกที่เล่นหนังโป็ แต่ถือเป็นหนึ่งในดาราเอวีไม่กี่คนที่เริ่มอาชีพหลังอายุเลยเลขแปด ส่งผลให้ชาวเน็ตแก่แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง หลายคนกล่าวว่าคุณยายมีสิทธิที่จะทำตามความต้องการของตัวเอง และนักแสดงเอวีก็เป็นอาชีพสุจริตในญี่ปุ่น ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าไม่เหมาะสม เพราะคุณยายควรที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีของหญิงชาวญี่ปุ่น และบางส่วนก็ว่าเป็นห่วงสุขภาพของคุณยาย คุณยายยูโกะให้สัมภาษณ์ว่าชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตราบเรียบมาโดยตลอด ครอบครัวเข้มงวดเรื่องการศึกษาพอเป็นสาวก็แต่งงานกับสามีและมีลูกชาย 2...
เฟชบุ๊ก Chiaranai Charoensai โพสต์อุหาหรณ์เตือนภัยหลังโดนลูกค้าสั่งอาหารเล่นว่า ลูกค้าสั่งอาหารตอนเที่ยงคืนครึ่ง ไปถึงที่ลูกค้าปักหมุด เวลา 01.19 น. ระยะทาง 17 กิโลเมตร แต่จู่ๆลูกค้ากลับปืดหมุดบอกให้ไปส่งอีกที่ไปเรื่อย ในตอนนั้นไม่เอ่ะใจเลยเพราะคิดว่าลูกค้าคงหิวจริง แต่สิ่งที่ได้รับคือให้ไปส่งในทางดินลูกรัง เลยปฎิเสธที่จะเข้าไป ขอให้ลูกค้าออกมารับแทน แต่ลูกค้ากลับเงียบไม่ตอบแชท โทรไปไม่รับสาย สักพักให้เบอร์ใหม่มา บอกให้โทรไปเรื่อยๆ แต่เมื่อโทรไปแล้วกลับตัดสายทิ้ง เหมือนให้เสียค่าโทรศัพท์เล่นๆ ตอนนั้นทั้งเสียเวลา เสียความรู้สึก สถานที่มันเปลี่ยว...
เรื่องราวนี้กำลังถูกกระแสทางโซเชียลวิจารณ์อย่างหนัก โดยเป็นเรื่องของชายที่แต่งตัวคล้ายพระ เอาจีวรมาห่มเป็นกระโปรงสั้น เกาะอก พร้อมโพสต์ท่าต่างๆ ดูแล้วไม่มีความสำรวมอย่างยิ่ง ซึ่งเรื่องนี้ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ Red Skull News ซึ่งได้แชร์ภาพชายผมเกรียนสวมชุดสีคล้ายจีวร ดัดแปลงให้กลายเป็นเกาะอก กางเกง กระโปรงสั้นรัดรูปแนบเนื้อ โชว์เรือนร่าง อีกทั้งยังมีการโพสต์ท่าถ่ายรูปในอิริยาบทต่างๆ ไม่ว่าจะนั่ง ยืน เดิน นอนราวกับว่าตัวเองเป็นนางแบบแฟชั่นยังไงยังงั้น ทั้งนี้ภายหลังจากการที่มีการเผยแพร่ภาพดังกล่าว ก็ได้มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก...
หนุ่มสาวเวลาคบหาดูใจกัน การออกเดท ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นโอกาสที่ทำให้คนทั้งสองคนได้รู้จักกันมากขึ้นถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข แต่หลายๆ คู่กลับเคยเจอปัญหาที่น่าปวดหัวว่า ออกเดท ใครจ่ายตังค์? จนบางคู่ถึงขั้นทำให้ความสัมพันธ์สั่นคลอน เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่พูดยากนะคะว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ ควรเป็นหน้าที่ของใคร คราวนี้เราลองไปดูความเห็นของชาวญี่ปุ่นกันดีกว่า ว่าหนุ่มสาวคนญี่ปุ่นเขามีความเห็นอย่างไรบ้างเกี่ยวกับหน้าที่ในการใช้จ่ายในการออกเดท แล้วเขาจัดการกับปัญหานี้อย่างไรกันนะ 1. เดททั่วไปผู้ชายจะออกเยอะกว่า หากเป็นการออกเดททั่วๆไป ก็จะไม่เน้นว่าให้ฝ่ายชายเป็นคนออกทั้งหมด หรือการกันครึ่งๆ แต่ฝ่ายชายก็จะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าฝ่ายหญิงออก ที่เป็นเช่นนั้นเพราะหนุ่มญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเห็นว่าการจะให้หารกันครึ่งๆ ก็ดูน่าเกลียดไปหน่อย แต่ถ้าต้องออกเองทั้งหมดมันก็เป็นภาระที่หนักเกินไป หนุ่มๆส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะออกเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าฝ่ายหญิง ตามสัดส่วนเช่น 6:4...
วันที่ 15 มกราคม 2563 Dailymail รายงานว่า เกิดเหตุสลดขึ้นในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศอินเดีย เมื่อเด็กทารกที่เพิ่งคลอดได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมง มีอันต้องจบชีวิตด้วยความสยดสยอง ถูกสุนัขจรจัดบุกเข้าไปรุมขย้ำจนเสียชีวิตภายในห้องคลอด เหตุเพราะเจ้าหน้าที่ปล่อยให้ทารกอยู่ในห้องอย่างไม่ใส่ใจ และได้เปิดหน้าต่างห้องทิ้งไว้ เหตุการณ์สลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มกราคม ภายในโรงพยาบาลอคาช แกนกา ของเมืองฟารุกาหบาท โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะทารกถูกทิ้งไว้ในห้องคลอดโดยไม่มีใครให้ความสนใจ แถมทางโรงพยาบาลยังพยายามที่จะปกปิดเรื่องนี้ โดยอ้างกับทางครอบครัวว่าเด็กได้เสียชีวิตระหว่างคลอด อย่างไรก็ตาม เมื่อทางครอบครัวไม่เชื่อและพยายามเค้นถามความจริง...