ปี 2020 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักนั้นหนักหน่วง และแตกแยกกันไปก็หลายคู่มากๆ เรียกได้ว่าโควิดมันเอาไปทุกอย่างจริงๆค่ะ นอกจากงานจะกระทบกระทั่งแล้วนั้น ในส่วนของความรักก็ไม่วาย ต้องมาจบลงเพราะทุกประเทศกำลังปิดและล็อกดาวน์ ทำให้ออกไปไหนกันไม่ได้ หลายๆคู่ต้องแยกกันอยู่คนละประเทศ ไปมาหาสู่กันไม่ได้ดังเดิม ทั้งคู่จะต้องใจแข็งจริงๆถึงจะรอด และหลายๆคู่ก็ไปไม่ถึงฝั่ง เช่นเดียวกันกับ คู่รักไทย ต่างชาติทั้ง 4 คู่นี้ 1. กิจกรรมมันวนๆ เพราะโควิดทำให้ออกไปไหนไม่ได้ จนกลายเป็นน่าเบื่อ เพราะตอนเจอกัน Activity มันวนๆ...
เชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนต่างก็เคยมีประสบการณ์กับความสัมพันธ์ที่แย่ที่สุด กับมาบ้างในชีวิต และการเจ็บปวดกับความรัก ต่อให้คุณจะเจอมาบ่อยแค่ไหนมันก็ไม่เคยชิน และมันจะมีอยู่ครั้งนึงที่มันแย่ที่สุด และเราจำไม่เคยลืม มาอ่านเรื่องราวของความรักของสาวๆเหล่านี้ที่มาแชร์ประสบการณ์ความสัมพันธ์แย่ๆที่พวกเขาไม่มีวันที่จะลืมมันได้ลง เรื่องราวเจ็บๆ จากผู้ชายที่พวกเขาเรียกว่าเป็นแฟน จะแย่ขนาดไหน เริ่มกันที่…. 1. ก้าวขาออกมาจากห้องทำแท้ง และได้พยายามโทรติดต่อเขา แต่เขาก็บล็อคเราทุกทางและหายไปเลย เราเป็นนักร้องกลางคืน เขาเป็นดีเจหนุ่มอาหรับ เราเจอกันในคลับ ในช่วงที่เราเจอกันแรกๆก็ยังไม่ได้คิดจะคบกัน แต่ด้วยความที่ทำความรู้จักคุ้นเคยกันไปเรื่อยๆจนผ่านได้2เดือน ถึงได้ตัดสินใจคบกัน แต่เราคบกันแบบลับๆไม่ได้เปิดเผย เนื่องจากเป็นเพราะงานของเราด้วย ก็จะมีรู้กันแค่ในกลุ่มเพื่อนสนิทของเรา จนคบกันแบบลับๆมาได้...
นักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยโดยพวกเขาก็หวังว่าจะได้มาสัมผัสกับวัฒนธรรมของกรุงเทพฯด้วยวัดวาอารามที่สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และหมู่เกาะที่สวยงามกับผู้คนที่จิตใจดี อย่างไรก็ตาม ในมุมที่ไม่ดีก็มีมากด้วยแต่พวกเขาก็สนุกที่จะมาล่าสู๋กันฟัง มาดูกันว่าฝรั่งทั้ง 5 คนที่เราได้ไปสอบถาม พวกเขาเจออะไรแย่ๆมาบ้าง 1. พยายามจะผูกมิตรกับคนแปลกหน้า เพราะคิดว่าคนไทยใจดี แต่พอตื่นเช้ามา เธอหายไปกับเงินทั้งหมดของผม จริงอยู่ที่ว่าคนไทยเป็นมิตร แต่ก็ใช่ว่าคนไทยทุกคนจะมีจิตใจที่ดีนะ ยิ่งกับคนที่น่าตาดีดูเป็นมิตร ดูเหมือนไม่มีพิษภัยอะไร ภายนอกก็แต่งตัวดูดีอินโนเซ้น ผมรู้จักเธอข้างถนนในกรุงเทพนี่แหละ ก็ทำความรู้จักกันจนไปจบที่ห้องผม แล้วเธอก็ตื่นมาและออกไปพร้อมกับเงิน 130,000 บาทในตู้เซฟของผม Jason- 25...
ยังมีปัญหาเรื่องค่าสินสอดมาให้เห็นกันไม่จบไม่สิ้นสักที ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้ หนุ่มฝรั่งบางคนก็เคารพวัฒนธรรมไทย คิดว่าการแต่งงานกับสาวไทย ก็เป็นเหมือนการแต่งงานกับครอบครัวของสาวไทยด้วย ดั้งนั้นค่าสินสอดพวกเขาเหล่านั้นก็คิดว่าถูกต้องแล้ว แต่ก็มีฝรั่งอีกส่วนมากที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับค่าสินสอด หนุ่มบางคนก็อยากจะฝากให้สาวๆคุยตั้งแต่เนิ่นๆในเวลาที่คบกันว่าธรรมเนียมไทยเป็นอย่างไรบ้าง เกี่ยวกับสินสอดนี้เป็นแบบไหน หนุ่มฝรั่งหลายคน ไม่เห็นด้วย มันดูเหมือนเป็นการเห็นแก่ตัวมากเกินไป ที่จะต้องจ่ายค่าสินสอดให้กับครอบครัวสาวไทย หนุ่มๆฝรั่งหลายๆคนค่อนข้างยอมรับกันในวัฒนธรรมนี้ และเข้าใจดี แต่จะมากจะน้อยอันนี้ก็แล้วแต่คน พวกเขายังฝากมาบอกอีกว่าถ้ารักมากพอก็ยอมรับสาวไทยในจุดนี้ใด้ แต่ในขณะเช่นเดียวกันหนุ่มฝรั่งหลายคน ไม่เห็นด้วยเพราะว่าบ้านและวัฒนธรรมของพวกเขาไม่มีธรรมเนียมแบบนี้ ก็จะดูเหมือนเป็นการเห็นแก่ตัวมากเกินไป ที่จะต้องจ่ายค่าสินสอดให้กับครอบครัวสาวไทย เพราะว่าส่วนมากฝรั่งเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นมา พวกเขาก็จะต้องดิ้นรนทำงานเองตั้งแต่เด็กไม่รบกวนพ่อแม่ของพวกเขาเลย ก็จะมีหนุ่มฝรั่งหลายคนไม่เห็นด้วยและจะไม่มีค่าสินสอดเมื่อแต่งงาน ตามธรรมเนียมของฝรั่ง ผู้หญิงจะต้องเป็นฝ่ายออกเงินค่าจัดงาน...
ขึ้นชื่อว่าเรื่องของความรักแล้ว มีสุขก็ต้องมีทุกข์ ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น มาอ่านเรื่องราวของความรักของหนุ่มๆเหล่านี้ที่มาแชร์ประสบการณ์ความสัมพันธ์แย่ๆที่พวกเขาไม่มีวันที่จะลืมมันได้ลง เรื่องราวเจ็บๆ จากสาวๆที่พวกเขาเรียกว่าเป็นแฟน จะแย่ขนาดไหน เริ่มกันที่…. 1. แฟนใหม่เธอ หน้าตาคุ้นๆ คบกับมา 4 ปี มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ดีและราบรื่นมาตลอดนะ พอเข้าปีที่ 4 เธอขอไปทำงานคู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ด้วยความที่ผมเชื่อใจเธอ ผมจึงไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ยอมให้เธอไป จนบางครั้งเราก้มีทะเลาะกันเรื่องนี้บ้าง เธอก็ขอให้เราเชื่อใจ บอกว่าไม่มีอะไรกับผู้ชายคนนี้ ก็เป็นแค่เพื่อนรวมงามกัน...
มาดูกันว่าหนุ่มๆชาวมาเลเซียเขาติดใจอะไรในตัวสาวๆไทยกันนักนะ ทำไมทุกวันนี้ไปไหนมาไหนเราก็จะเห็นได้เลยว่านอกจากสาวไทยจะเดทกับฝรั่งแล้ว ทางฝั่งหนุ่มเอเชียก็มีความนิยมสาวไทยเช่นกัน โดยเฉพาะฝั่งประเพื่อนบ้านเราอย่างหนุ่มๆมาเลเซีย ต่างก็ต้องเปลี่ยนไปจากสาวๆในประเทศของพวกเขา มาเทใจให้กับสาวไทย เพราะอะไรพวกเขาถึงเลือกที่จะเดทกับสาวไทย มาฟังความเห็นจากปากของหนุ่มๆมาเลเซียทั้ง 5 กันเถอะ 1. ผู้หญิงไทยดีกว่าสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาว หลังจากประสบการณ์ออกเดทกับผู้หญิงไทยและผู้หญิงมาเลเซีย ฉันคิดว่าผู้หญิงไทยดีกว่าสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาว ในขณะที่ผู้หญิงมาเลเซียเหมาะสำหรับการออกเดทแบบสบาย ๆ และความสัมพันธ์แบบระยะสั้น ซึ่งฉันชอบแบบระยะยาวมากกว่า เพราะเมื่อเราถึงจุดนั้น จุดที่รู้สึกเบื่อกับการที่จะต้องมาทำความรู้จักกันและคุ้นเคยกับใครใหม่ๆ ผู้หญิงไทยจะตอบโจทย์มากกว่า เมื่อเวลาคุณมาถึงจุดนั้น Jason – 28 ปี 2. ฉันชอบสไตล์ของผู้หญิงไทยมากกว่า ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่มักจะขี้อายและเป็นผู้หญิงที่สงวนท่าทีซึ่งเมื่อพวกเขาได้รู้จักดีใครมากขึ้น เมื่อได้รับความไว้วางใจจากพวกเขา พวกเขาจะชอบอยู่ใกล้ ๆ ตลก ร่าเริง และทำให้ฉันรู้สึกสนุกราวกับว่าเป็นเด็กๆเลยล่ะ ในขณะที่ผู้หญิงมาเลเซียพวกเขามักจะจริงจังตลอดเวลา แต่ก็ไม่ใชว่าผู้หญิงมาเลเซียจะไม่ดีไปซะหมดนะ เพียงแค่ว่าสำหรับฉัน ฉันชอบสไตล์ของผู้หญิงไทยมากกว่า Max- 32 ปี 3. ผู้หญิงไทยมีความซื่อสัตย์และอ่อนน้อมถ่อมตน สาวไทยส่วนใหญ่นักถือศาสนาพุทธ และยึดหลักทำตามศีลข้อที่ 4 และโดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงไทยมีความเคารพในตัวผู้ชายมากกว่า และเป็นคนที่ซื่อสัตว์รักเดียวใจเดียว ในขณะที่ผู้หญิงมาเลเซียพวกเขาจะไม่ค่อยเปิดอกคุยหรือพูดอะไรตรงๆ ต่างจากผู้หญิงไทยที่พวกเขามักจะพูดทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในใจเพราะพวกเขารู้ว่าเขาต้องการอะไร...
ชั่วโมงนี้ต้องบอกก่อนว่าสาวๆไทยเรายังฮ็อทกันไม่หยุดหย่อน สาวไทยกำลังเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ จนทุกวันนี้เราจะเห็นกันได้เลยว่าคนรอบๆตัวเรา ก็มีแฟนต่างชาติกันไปหมด อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่หนุ่มฝรั่งจะชอบสาวไทยนะ เพราะที่แอดมินไปสำรวจมานั้น หนุ่มๆเกาหลีก็คลั่งไคล้สาวไทยพอๆกับหนุ่มฝรั่งด้วยเช่นกัน เราจึงได้ทำการสอบถามหนุ่มโอปป้าทั้ง 5 คนนี้มาว่าเพราะอะไร ทำไมพวกเขาถึงชอบเดทกับสาวไทยมากกว่าสาวเกาหลีซะงั้น ไปเริ่มกันที่หนุ่มคนแรกเลย…. 1. ผู้หญิงไทยขี้หึง แต่น้อยกว่าผู้หญิงเกาหลี ผู้หญิงไทยจะพูดค่อนข้างตรง โดยเฉพาะเรื่องหึงผู้หญิงไทยจะพูดชัดเจน อยากให้ฝ่ายชายรู้ว่าหึงนะ แต่จะไม่ท่าทางประชดอะไรมากมายเท่าผู้หญิงเกาหลีนัก ต้องบอกเลยว่าส่วนใหญ่ผู้หญิงเกาหลีจะขี้หึงมากๆ ใครมองแฟนของเธอ เธอก็จะแสดงท่าทางความเป็นเจ้าของและเหวี่ยงวีนฝ่ายชายตรงนั้นทันที...
ช่วงนี้เราทุกคนต่างเครียดกับสถานการณ์ของโควิดกันมามากพอแล้ว Thejoi ก็ไม่อยากให้ทุกคนต้องอ่านอะไรที่มันซีเรียส เลยได้มีโอกาสไปสอบถามคู่รักที่แสนหวานถึงเรื่องราวการมาพบกันของทั้ง 2 คู่ ว่าพวกเขาพบรักกันได้อย่างไร ? เจอกันผ่านแอพฯแลกเปลี่ยนภาษา เขาอยากเรียนภาษาไทย เราก็อยากเรียนภาษาอังกฤษ เราเจอกันผ่านแอพฯเรียนภาษาแอพฯนึง ชื่อ “HelloTalk” ปกติแล้ว เราไม่ค่อยเล่นแอพฯพวกนี้ แต่ด้วยความที่เหงาเพราะเพิ่งอกหัก และเบื่อมากๆ เลยตัดสินใจลองเปิดใจเล่นแอพฯนี้ดู ซึ่งแอพฯนี้จะเป็นแอพฯสำหรับแลกเปลี่ยนภาษากันมากกว่า ไม่ใช่แอพฯเพื่อหาคู่ เราเล่นได้ 3 วัน ก็ได้เจอกับฝรั่งคนนี้ ต้องบอกก่อนว่าเดิมที...
ทั่วโลกกำลังอยู่ในสถานการณ์ของโควิด ในแต่ละประเทศก็จะมีกฎในการควบคุมเชื้อไวรัสที่แตกต่างกันออกไป อย่างประเทศไทยเราเองก็มีช่วงของพรก. ฉุกเฉิน อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งจะมีเวลากำหนดว่ากี่โมงถึงกี่โมงที่ห้ามออกนอกสถานที่พักอาศัย แต่เราซึ่งเป็นคนไทยที่ยังติดอยู่ในประเทศมาเลเซีย ที่กำลังอยู่ในช่วงของการควบคุมสถานการณ์โควิดด้วยเช่นกัน โดยที่นี่จะมีกฎว่า แต่ละโต๊ะนั่งได้ไม่เกิน 4 คน และบาร์เปิดได้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับ RM1000 หรือเป็นเงินไทยประมาณ 7 พันกว่าบาท ตำรวจบุกจับปิดทางเข้า-ออก และทุกคนในคลับถูกจับ คืนนั้นเป็นวันศุกร์ เราออกไปHangoutกับเพื่อนๆชาวมาเลเซียตามปกติ ที่บาร์และร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง KL พวกเราก็ได้ดื่มเบียร์สังสรรค์กันนิดหน่อย จนถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ทางบาร์ก็เริ่มปิดและทยอยเรียกเช็คบิล ปกติคือเราจะตรงดิ่งกลับบ้านเลยนะ แต่คืนนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งชวนไปดื่มต่อที่คลับ ซึ่งจริงๆแล้วที่มาเลเซียคลับยังเปิดไม่ได้ เปิดได้แค่บาร์และร้านอาหารเท่านั้น ด้วยความที่เราติดลม เราจึงตกลงไปต่อกับเพื่อนๆที่คลับนี้ กะว่าแวะไปแป๊ปเดียวก็จะกลับ เมื่อเข้าไปถึงในคลับ พบว่าข้างในคนเยอะมากๆ เรียกได้ว่าแน่นเลยล่ะ เราก็ปาร์ตี้กันกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนานโดยไม่คิดไม่ฝันเลยว่า กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง อยู่ๆก็มีชายชุดดำสวมเสื้อกั๊กนีออนสีเขียววิ่งเข้ามาและทุกคนในคลับหยุดชะงักดีเจหยุดเล่นเพลง และต่างคนต่างพากันพยายามวิ่งไปที่ประตูเพื่อหาทางออก เราตกใจมาก และงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนพยายามดันกันไปที่ประตูทางออก พอมองออกไปก็ถึงบางอ้อ…… คิดในใจว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เดี๋ยวคลับคงจะเคลียร์ได้แหละ แต่เราก็คิดผิด เสียงตำรวจตะโกนบอกให้แยกชาย-หญิง ชายไปฝั่งชวา หญิงไปฝั่งซ้าย และเรียกเก็บพาสปอทของเรา และบัตรประจำตัวประชาชนของทุกคนในคลับนั้น วินาทีที่ต้องเดินขึ้นรถตำรวจคันใหญ่ๆนั้น เรารู้ชะตาตัวเองแล้วล่ะว่ายังไงก็ต้องไม่รอดแน่ๆ เราจึงส่งข้อความบอกครอบครัวเราไว้ก่อนเลยว่า ถ้าเราหายไปไม่ต้องตกใจ ตอนนี้กำลังไปสถานีตำรวจ ชาวต่างชาติต้องแยกจากกัน และพวกเขาปฏิบัติต่อเราเหมือนคนชนชั้นที่สาม พอถึงสถานีตำรวจ เราก็ถูกแยกออกจากกลุ่มเพื่อนชาวมาเลเซียของเรา โดยเราก็ได้เข้าไปอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีเฉพาะต่างชาติทั้งนั้น และมีเพื่อนในกลุ่มเราที่เป็นฝรั่งด้วย 2 คน ทุกคนอยู่ในสถานีตำรวจตั้งแต่เวลาประมาณ ตี3กว่าๆ จนถึง 7 โมงเช้า เราถูกใส่กุญแจมือ และตำรวจพูดว่าเราและเพื่อนๆต่างชาติ จะต้องถูกพาตัวไปห้องขังนะ เพราะเราทำผิดกฎควบคุมสถานการณ์โควิด และด้วยความที่วีซ่าของเราหมดแล้วด้วย แต่ตามกฎเขาอนุโลมให้ต่างชาติที่ยังติดค้างอยู่ในมาเลเซียอยู่ต่อได้จนกว่าจะหมดช่วง MCO หรือ Movement Control Order 7 โมงเช้า บรรดานักท่องราตรีคนอื่นๆที่เป็นชาวมาเลเซียก็ได้รับใบค่าปรับและแยกย้ายกันกลับบ้านในที่สุด แต่ตำรวจเข้ามาและพาตัวเรากับชาวต่างชาติคนอื่นๆไปยังห้องขังที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง โดยมือของเราก็ยังถูกใส่กุญแจมืออยู่ วินาทีนั้น เราน้ำตาไหลออกมาเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเรากำลังจะเจอกับอะไร เราไม่เคยต้องมาเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อถึงห้องขัง ก็ทำการเปลี่ยนชุดจากชุดเดิมของเราเป็นชุดสีส้ม หรือเรียกง่ายๆว่าชุดนักโทษนั่นแหละ และเจ้าหน้าที่ก็ยึดโทรศัพท์ของเราไป โดยที่ไม่ทันให้เราได้ติดต่อกับใครเลย คือโดนสั่งห้ามติดต่อใคร วันแรกของการใช้ชีวิตครั้งแรกในชีวิตในห้องขังเล็กๆ ที่ข้างในเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะอินโด จีน พม่า เวียดนาม ข้างในนั้นมีคนที่ถูกขังอยู่ประมาณ 20 คนได้ และเป็นห้องที่มีพื้นปูนซีเมนต์ ใช่ค่ะ เราต้องนอนกันบนพื้นแบบนั้นแหละ ...
สำหรับหญิงไทยหรือหนุ่มไทยหลายคน ที่มีแฟนหรือสามี/ภรรยาเป็นคนต่างชาติ โควิด-19 เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาและเธอต้องห่างเหิน ไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้ตามปกติเหมือนเช่นเคย มาดูกันว่า เขาและเธอรักษาความรัก ความมั่นคงระหว่างกันไว้ได้อย่างไรกับสถานการณ์ที่ต้องพลัดพรากจากกันในขณะนี้ 1. ผมไม่ได้อยู่กับภรรยาในวันที่เธอคลอดลูกสาวของเรา จนกระทั่งตอนนี้ลูกสาวของเราอายุได้ 5 เดือนแล้ว ฟรีส (ไทย) & Mae (ฟิลิปปินส์) และลูกสาวของพวกเขา คบกัน 2 ปี ตอนนี้ผมอยู่ที่ฟิลิปปินส์นั้นเป็นช่วงเดือนมกราคมของปี 2020 ข่าวการระบาดของโควิด...