กลายมาเป็นไวรัลที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์อีกครั้ง สำหรับเทรนด์สุดแปลกที่เคยเป็นกระแสในหมู่ TikToker ต่างชาติเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กับการอัดคลิปวิดีโอพร้อมวางโทรศัพท์มือถือไว้บนจานซูชิสายพาน เพื่อส่องปฏิกิริยาของเหล่าลูกค้าเมื่อได้เห็นมัน
หากเพื่อน ๆ ยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เคยมีเทรนด์สุดอี๋ที่ทำเอาสั่นสะเทือนวงการซูชิสายพาน สำหรับเทรนด์ “การก่อการร้ายทางซูชิ” หลังชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งได้อัดคลิปขณะเลียขวดใส่โชยุบนซูชิสายพาน รวมถึงใช้มือสัมผัสซูชิที่อยู่บนสายพาน จนวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นไวรัล และสร้างความไม่พอใจเป็นวงกว้างในสังคมญี่ปุ่น แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีลูกค้าหลายต่อหลายคนที่ทำตามจนกลายเป็นกระแส และทางร้านต้องออกมาดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจัง สำหรับผู้ที่กระทำการเช่นนี้
อย่างไรก็ตามนอกจากเทรนด์ดังกล่าวนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปี 2022 ก็ได้มีอีกหนึ่งกระแสที่เกิดขึ้นทางฝั่งตะวันตก สำหรับเทรนด์การวางมือถือไว้บนสายพานร้านซูชิ โดยเปิดกล้องหน้าและทำการบันทึกภาพ เพื่อเป็นการ Prank และแอบส่องปฏิกิริยาของลูกค้าแต่ละคนเมื่อได้เห็นโทรศัพท์ดังกล่าวไหลไปตามสายพาน
โดยทางด้านปฏิกิริยาของลูกค้านั้นก็มีหลากหลาย มีทั้งคนที่ขำ ๆ และเล่นตลกไปตามน้ำ รวมไปถึงคนที่ไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าวเพราะมองว่าเป็นการรบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัว จนสุดท้ายเมื่อพนักงานที่ร้านเห็น จึงได้ทำการหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวออกจากสายพาน
คลิปวิดีโอนี้กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ และมีชาวเน็ตจำนวนมากที่แห่ทำตามจนกลายเป็นกระแส จนถึงขั้นที่เคยมีเคสที่ทางพนักงานต้องเชิญให้ลูกค้าที่ก่อความวุ่นวายออกไปจากร้าน จนเทรนด์ดังกล่าวเริ่มหมดไปหลังร้าน Nippon Sushi ร้านซูชิสายพานแห่งหนึ่งได้ออกมาติดป้ายเตือน ห้ามไม่ให้ลูกค้าวางโทรศัพท์ไว้บนสายพาน พร้อมระบุว่าหากพวกเขาทำแบบนั้น แล้วพนักงานไม่สามารถหยิบมือถือของพวกเขาออกมาได้ทัน สุดท้ายแล้วจุดจบจะเป็นอย่างไร
“โปรดงดวางโทรศัพท์ไว้บนสายพานเพื่อสร้างคอนเทนต์ TikTok นี่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้าคนอื่น ๆ และเมื่อโทรศัพท์ของคุณถูกลำเลียงไปจนถึงสุดปลายสายพาน มันจะหล่นลงไปในเครื่องล้างจานพร้อมกับจานเปล่า โดยในเครื่องล้างจานนั้นเต็มไปด้วยสารฆ่าเชื้อ รวมไปถึงแรงดันและความร้อนถึง 180 องศาฟาเรนไฮต์”
ทั้งนี้ทั้งนั้น ล่าสุดคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกนำกลับมาแชร์อีกครั้งบนโลกออนไลน์ โดยมีชาวเน็ตจำนวนมากที่ได้แสดงความคิดเห็นวิจารณ์การกระทำนี้ บ้างก็มองว่าเป็นเรื่องขำ ๆ และชอบรีแอคชั่นของเหล่าลูกค้าที่เฮฮาไปกับการ Prank ดังกล่าว ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่าถึงอย่างไร การกระทำนี้ก็ไม่สมควรเพราะเป็นการรบกวนและละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของลูกค้าคนอื่น
ที่มาข้อมูล: Newsweek, Distractify, The Daily Dot
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “Sushiro” ฟ้องเรียกค่าเสียหายหนุ่มญี่ปุ่นเลียขวดซอสโชยุในร้านซูชิสายพานเป็นเงิน 16.6 ล้านบาท!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: (มีคลิป) ไวรัลคลิปสาวไต้หวันกินซูชิ 5 วิ ยอดวิวทะลุ 25 ล้าน จนได้ฉายา “ผู้กอบกู้ซูชิสายพาน”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ความลื่นล้มทางอาหาร?! ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพ “ซูชิมาร์ชเมลโล่” ซูชิแบบใหม่แบบสับ วางขายในไต้หวัน