“แจ็คสัน หวัง (Jackson Wang)” มาไทยทั้งที ไม่ได้มามอบความสุขบนเวทีคอนเสิร์ตในศึกแดงเดือดที่จัดขึ้นในไทยเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดกระแส “ข้าวผัดอเมริกันฟีเวอร์” จนคนทั้งประเทศต่างแห่กินตามถึง “Foodland” เพื่อสัมผัสความอร่อยแบบที่ “พี่แจ็ค” ให้สัมภาษณ์กับ “EFM94” เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา
และอีกไม่กี่วันต่อมา “แจ็คสัน หวัง” ก็ทำให้เกิดกระแส “ทุเรียนฟีเวอร์” ตามมาติด ๆ หลังเผยในรายการ “Woody Talk” ทาง “Woody FM” เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ระบุว่า “ทุเรียน” คือผลไม้ที่เขาชอบมากที่สุด! และในวันสุดท้ายที่อยู่ไทย “ผมจะกินทุเรียนทั้งวันเลย ผมจะไม่กินอย่างอื่นเลย”
วันนี้ The Joi เลยจะพาทุกคนไปส่อง “9 สายพันธุ์ทุเรียนอร่อยที่สุดในไทย” ถูกปากคนไทยและต่างชาติตลอดกาล พร้อมราคาและวิธีเลือกกินราชาผลไม้ช่วงไหนดีที่สุด
1. สายพันธุ์ก้านยาว
“ก้านยาว” เป็นสายพันธุ์ทุเรียนที่มีราคาแพงมากที่สุด! และหากินยากอีกต่างหาก ส่วนรสชาติก็สมราคา เพราะหวานมันกลมกล่อม นิยมปลูกในจังหวัดนนทบุรี ลักษณะเด่นของพันธุ์นี้คือ ก้านจะยาวกว่าทุเรียนพันธุ์อื่น เปลือกค่อนข้างหนา ผลมีขนาดปานกลาง เนื้อมีลักษณะเนียนละเอียด สีเหลืองปานกลาง เมล็ดค่อนข้างกลมใหญ่ ทุเรียนก้านยาวที่ดีจะต้องมีก้านที่แข็งอวบใหญ่ไม่แตก และมีหนามที่เรียงเป็นระเบียบ
ราคากิโลกรัมละ 5,000 บาทขึ้นไป
2. สายพันธุ์หมอนทอง
“หมอนทอง” เป็นสายพันธุ์ทุเรียนที่มีกลิ่นไม่แรงมาก รสชาติอร่อย หวานมันกำลังดี และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วยนะจะบอกให้ ถ้าหากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็งได้ “ทุเรียนหมอนทอง” ที่ดีจะต้องมีผลขนาดใหญ่ รูปร่างหนามแหลมตรง น้ำหนักผลประมาณ 3-4 กิโลกรัม เนื้อละเอียดและแห้ง ไม่แฉะติดมือ มีสีเหลืองอ่อน เมล็ดเล็กและลีบ ที่สำคัญต้องมีรสชาติที่ไม่หวานจนเกินไป
ราคากิโลกรัมละ 150-180 บาท
3. สายพันธุ์ชะนี
“ทุเรียนสายพันธุ์ชะนี” นิยมปลูกนำไปแปรรูปเป็นอาหารหรือขนม เช่น ข้าวเหนียวทุเรียน, ไอศกรีมทุเรียน และสมูทตี้ทุเรียน เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่มีกลิ่นแรงและรสจัด ลักษณะผลคือ มีขนาดปานกลางถึงใหญ่ หนามมีขนาดใหญ่ และสั้น ระยะหนามห่างกัน เนื้อละเอียดสีเหลืองจัด รสชาติหวาน เมล็ดค่อนข้างเล็ก และมีจำนวนเมล็ดน้อย
ราคากิโลกรัมละ 95 บาท
4. สายพันธุ์ทองย้อยฉัตร
“สายพันธุ์ทองย้อยฉัตร” เป็นทุเรียนพันธุ์โบราณ นิยมปลูกมาช้านานในแถบตำบลบางกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี มีน้ำหนักผลประมาณ 2 กิโลกรัม เมล็ดเล็กให้เนื้อเยอะ เนื้อสุกสีเหลืองนวล มีกลิ่นไม่ฉุน รสชาติหวานปนมันไม่หวานจัด และเนื้อละเอียด
ราคากิโลกรัมละ 260 บาท
5. สายพันธุ์กระดุมทอง
“กระดุมทอง” เป็นสายพันธุ์ทุเรียนที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดและมีราคาถูกกว่าพันธุ์อื่น เพราะเป็นพันธุ์ที่ปลูกง่าย ได้ผลผลิตเร็ว มีลักษณะเป็นผลค่อนข้างเล็ก น้ำหนักผลประมาณ 1 กิโลกรัม มีเนื้อละเอียดอ่อนนุ่ม สีเหลืองอ่อน แต่มีเนื้อค่อนข้างบาง และมีเมล็ดขนาดใหญ่ มีกลิ่นอ่อน รสชาติหวานไม่มันเหมือนทุเรียนสายพันธุ์อื่น ๆ
ราคากิโลกรัมละ 70-150 บาท
6. สายพันธุ์หลงลับแล
“หลงลับแล” เป็นพันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีการผสมข้ามสายพันธุ์กันไปมาจนได้ทุเรียนพันธุ์ดีนีออกมา ลักษณะของผลมีขนาดเล็ก ทรงกลมรี มีรสชาติหวานมัน เนื้อเหนียวละเอียด มีเมล็ดเล็กลีบ และมีกลิ่นที่ไม่แรงมาก จึงทำให้ “ทุเรียนหลงลับแล” เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ทุเรียนที่คนนิยมกินกันมาก
ราคากิโลกรัมละ 500-600 บาท
7. สายพันธุ์พวงมณี
“พวงมณี” เป็นสายพันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองของภาคตะวันออก มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ใคร ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือ มีผลที่เล็กกว่าพันธุ์อื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด มีรสชาติหวานจัด เนื้อละเอียด สีเหลืองเข้ม แต่ข้อเสียของพวงมณีคือ มีเนื้อที่ค่อนข้างน้อยและหาซื้อยากกว่าทุเรียนพันธุ์อื่น ๆ
ราคากิโลกรัมละ 110-120 บาท
8. สายพันธุ์นกหยิบ
ทุเรียนชนิดนี้ เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดนนทบุรี ต่อมามีผู้นำเอาพันธุ์ไปปลูกเพื่อเก็บผลขายในพื้นที่จังหวัดตราด, จังหวัดระยอง และจังหวัดจันทบุรี ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อไปรับประทานอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีรสชาติความอร่อย ใกล้เคียงกับทุเรียนหมอนทองมาก แต่จะมีความหวานมันจัดกว่า เนื้อค่อนข้างละเอียด เป็นสีเหลืองเข้ม เมล็ดลีบ ทรงผลเหมือนกับผลของทุเรียนหมอนทอง แต่หนามจะละเอียดและถี่คล้ายผลทุเรียนพันธุ์พวงมณี จนทำให้พูดกันว่า “ทุเรียนนกหยิบ” เป็นลูกผสมระหว่างทุเรียนหมอนทองกับทุเรียนพวงมณี
ราคากิโลกรัมละ 180 บาท
9. สายพันธุ์กบชายน้ำ
มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมที่จังหวัดนนทบุรี ต่อมาได้มีผู้นำเอากิ่งพันธุ์ไปปลูกที่จังหวัดปราจีนบุรีอย่างแพร่หลาย มีผลสวย มีพูเต็ม เปลือกผลบาง เมล็ดลีบ เนื้อเยอะ เนื้อแน่นหนาเป็นสีเหลืองเข้ม รสชาติหวานมันหอมนุ่มละเอียด มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ น้ำหนักผลประมาณ 2-4 กิโลกรัม นับเป็นทุเรียนสายพันธุ์เบา มีดอกและติดผลง่ายและดก ออกผลตามฤดูกาลปีละครั้ง
ราคากิโลกรัมละ 5,000 บาทขึ้นไป
ตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วว่า สายพันธุ์ทุเรียนใดที่อร่อยที่สุดในไทย จากบรรดาทั้งหมดกว่า 30 สายพันธุ์ในปัจจุบันนี้ ครั้งหน้าที่หา “ทุเรียน” ซื้อกิน หรือคิดจะซื้อเอาไปฝากคนที่ชอบหรือห่วงใยก็รู้แล้วว่า ควรเลือกซื้อทุเรียนสายพันธุ์ไหนไปฝาก รับรองว่าถูกปากผู้รับจนพวกเขาอยากจะกลืนกินทั้งเปลือกลงท้องไปเลยทีเดียว!
ที่มาข้อมูล: กรุงเทพธุรกิจ, Okdentang และ The Standard
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “แจ็คสัน หวัง” เผยชอบกินทุเรียนมาก วันสุดท้ายที่อยู่ไทย “ผมจะกินทุเรียนทั้งวันเลย”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ร้านทุเรียนในมาเลเซียขาย “เปลือกทุเรียน” ทำโทษผัว พร้อมคำแนะนำ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เกินไปแล้วมั้ย? ชาวเน็ตแห่ Save “ป้ารัตนา” หลัง “หมอปลา” เททุเรียนทอดราดตัว