ชาวเน็ตแห่ค้นหาภาพโพลารอยด์จริงของ “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer)” ที่ฆาตกรต่อเนื่องกินคนถ่ายรูปเหยื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกหลังพวกเขาสิ้นใจ เพื่ออัดคลิปทำ “Polaroid Challenge” ลงบน TikTok ซึ่งกลายเป็นชาเลนจ์ไวรัลทั่วโลก แต่ขณะเดียวกัน TikTok ก็ทยอยลบคลิปชาเลนจ์ดังกล่าวออกจากแพลตฟอร์ม เนื่องจากมีเนื้อหาอันตราย อันเป็นการละเมิดแนวทางปฏิบัติของชุมชน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ซีรีส์ Netflix สร้างจากเรื่องจริง “Monster The Jeffrey Story เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ฆาตกรรมอำมหิต” เป็นซีรีส์ฮอตมาแรงอันดับหนึ่งในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะเปิดโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มไหนก็ตาม ก็ต้องเจอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับฆาตกรโหดคนนี้เสมอ เรื่องราวของเขาผู้เสียชีวิตไปแล้ว คงไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หากบางฉากในเรื่อง (ที่สร้างจากเรื่องจริง) มีการเผยภาพโพลารอยด์สุดสะอิดสะเอียนให้ผู้ชมได้เห็นกันจะ ๆ
(*มีสปอย*) จากบทความเกี่ยวกับซีรีส์ “Monster The Jeffrey Dahmer Story” ซึ่งเผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ของนิตยสาร “Woman’s Health” เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้เผยคำสัมภาษณ์ของนักสืบนิติเวช “เชอร์ลีย์ เกย์นส์ ( Shirley Gaines)” ซึ่งบรรยายภาพในโพลารอยด์จริงของ “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” ไว้อย่างน่าสยดสยองว่า “รูปโพลารอยด์หลายรูปเผยให้เห็นร่างของชายหนุ่ม (เหยื่อ) อยู่ในชุดต่าง ๆ, ทำท่าทางมากมาย และพวกเขาก็ถูกตัดตอน แล้วเขาก็เก็บรูปโพลารอยด์เหล่านี้ไว้ในไดอารี่ของตัวเอง”
ขณะที่ “วารสารด้านนิติเวชศาสตร์และพยาธิวิทยาของชาวอเมริกัน” ได้ระบุไว้ในรายงานในทำนองเดียวกันว่า “เขา (เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์) ได้จัดร่างกายของเหยื่อให้อยู่ในท่าทางที่ส่อไปในทางเพศ เพื่อเก็บภาพดังกล่าวไว้เป็นที่ระลึกและอยู่เป็นเพื่อนเขา”
เพื่อน ๆ อ่านถึงตรงนี้แล้ว ใครที่เคยเห็นภาพโพลารอยด์ในซีรีส์ดังกล่าวมาก่อนอ่านบทความนี้ ก็คงเกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วน หรือพะอืดพะอมกันแล้ว แต่ในทางกลับกัน มีคนจำนวนไม่น้อยบนโลกออนไลน์ที่ยังไม่เคยเห็นชุดภาพโพลารอยด์ดังกล่าว และเกิดความอยากรู้อยากเห็นรูปโพลารอยด์ที่ถ่ายร่างไร้ชีวิตของเหยื่อจริง ๆ ที่สังหารโดย “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” และนั่นนำพวกเขาไปสู่การค้นหาคำว่า “Jeffrey Dahmer Polaroid” หรือไม่ก็คำว่า “Jeffrey Dahmer Autopsy Photo” บนเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลยอดฮิตอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Google ก่อนบอกช่องทางดูภาพดังกล่าวกันสนั่นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Twitter และ TikTok และบังเกิดเทรนด์ใหม่ที่เรียกว่า “Polaroid Challenge” ขึ้น!
Polaroid Challenge คืออะไร?
“Polaroid Challenge” หรือชื่อเต็ม ๆ ของชาเลนจ์นี้คือ “Jeffrey Dahmer Polaroid Challenge” คือการที่ผู้ใช้บัญชี TikTok หาดูภาพโพลารอยด์เหยื่อที่สิ้นใจแล้วของ “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” ของจริงบนออนไลน์ แล้วถ่ายคลิปรีแอคตัวก่อน-หลังดูภาพโพลารอยด์นั้น แล้วติด #polaroidchallenge
ความดังของไวรัลนี้มากขนาดมีคนค้นหาคำว่า “Jeffrey Dahmer Victim Polaroids” บน TikTok มากกว่า 531.2 ล้านครั้ง และนั่นก็ยิ่งจุดประกายให้คนที่ไม่เคยเห็นภาพโพลารอยด์ของจริงของ “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” ไปหาชมภาพรุนแรงดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
TikTok ไล่ลบคลิป “Polaroid Challenge”
หลังเกิดกระแสฮิตทำ “Polaroid Challenge” ในหมู่ชาวโซเชียลบน TikTok จำนวนมาก ซึ่งมาพร้อมกับการแชร์ภาพโป๊เปลือยและมีความรุนแรง อันเป็นการละเมิดระเบียบปฏิบัติของชุมชนบนแพลตฟอร์มดังกล่าว (แน่นอนว่า เป็นการไม่ให้เกียรติเหยื่อผู้เสียชีวิตด้วย) ทาง TikTok ไม่รอช้า รีบทยอยไล่ลบคลิปชาเลนจ์ดังกล่าว
@doctor.vile EDITED REPOST!! bc tiktok took down the unedited one with 130k Views. #jeffreydahmer #crime #jeffrey #truecrime #polaroid #serialkiller #fyp #sad #scary
อย่างไรก็ตาม ชาวโซเชียล TikTok ก็ไหวตัวทัน และมีการทำคลิปเตือนบอกต่อ ๆ กันว่า TikTok กำลังไล่ลบคลิปที่โชว์รูปโพลารอยด์ของ “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” อย่างเช่นคลิปด้านบน ชาวเน็ตคนนี้ได้เขียนแคปชั่นเตือนว่า “EDITED REPOST!! [Because] TikTok took down the unedited one with 130k views.” แปลได้ว่า “รีโพสต์คลิปที่ตัดต่อแล้ว!! (เพราะ) TikTok ได้ลบคลิปที่ไม่มีการตัดต่อเบลอภาพ (โพลารอยด์ของ “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์”) ของผมที่มียอดวิว 130K แล้ว” ส่วนคลิปเตือนนี้ ก็มียอดวิวแล้วมากกว่า 2.8 ล้านครั้ง ภายในเวลา 2 วัน
แต่เมื่อมีคนอินกับ “Polaroid Challenge” ก็ย่อมมีคนไม่อินไม่ปลื้มด้วยเหมือนกัน คนกลุ่มนี้ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งในเชิงตำหนิและเตือนกันดี ๆ เช่น “อย่าปล่อยให้ความอยากรู้อยากเห็นของคุณพาตัวเองไปดูรูปโพลารอยด์จริง ๆ ของ “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” เข้าล่ะ เพราะมันรบกวนจิตใจและสายตามาก” และ “ทุกคน ได้โปรดอย่าค้นหาภาพดังกล่าวเลย ช่วยให้เกียรติและความเคารพกับครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิตด้วย” เป็นต้น
ทำไม “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” ต้องถ่ายรูปโพลารอยด์เหยื่อ?
คำถามที่ว่า “ทำไม “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” ต้องถ่ายรูปโพลารอยด์เหยื่อที่เสียชีวิตไปแล้ว?” คงเกิดขึ้นในใจเพื่อน ๆ ทุกคน ซึ่ง The Joi ก็มีคำตอบมาไขข้อข้องใจนี้ ตัวฆาตกรต่อเนื่องคนนี้อธิบายว่า เขาถ่ายรูปเหยื่อในท่าทางและในภาวะต่าง ๆ (เช่น ก่อนผ่า, ระหว่างผ่าดูอวัยวะภายใน และหลังการผ่า เป็นต้น) เพื่อที่เขาจะได้หวนระลึกถึงประสบการณ์ ณ วันที่ลงมือสังหารเหยื่อได้อีกครั้ง
“มันเป็นวิธีการที่ผมจะจดจำรูปร่างหน้าตาและความหล่อเหลาของพวกเขา (เหยื่อ) ไว้ได้ ผมยังอยากจะเก็บ… แต่ผมไม่สามารถเก็บพวกเขาไว้ได้ทั้งหมด เลยรู้สึกว่าอย่างน้อยก็เก็บกะโหลกของพวกเขาไว้ก็ได้”
รูปโพลารอยด์ของ “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” ที่พบในลิ้นชักเกือบ 80 รูป ช่วยให้ตำรวจจับกุมและระบุร่างของผู้เสียชีวิตได้ และหนึ่งในเหยื่อของ “มนุษย์กินคนแห่งมิลวอกี” ที่ตำรวจไม่เคยพบร่างหรือแม้แต่ชิ้นส่วนร่างกายสักชิ้นเลยก็คือ เหยื่อคนที่ 9 ที่ชื่อว่า “เดวิด โธมัส (David Thomas)” เขายังถูกระบุว่า เป็นบุคคลสูญหายจนถึงบัดนี้
ที่มาข้อมูล: Indy100 , Buzzfeed และ The Sun
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เผยภาพเปรียบเทียบนักแสดงกับบุคคลจริงในซีรีส์ “Monster the Jeffrey Dahmer Story” ทาง Netflix
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: 10 เรื่องจริงที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ “Monster The Jeffrey Dahmer Story (ปิศาจ เจฟฟรี่ย์ ดาห์เมอร์)” ทาง Netflix
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เปิดเพลย์ลิสต์ 5 เพลงฮิตของนักร้องดังระดับโลก ที่มีชื่อฆาตกรต่อเนื่อง “Jeffrey Dahmer” อยู่ในเนื้อเพลง