ก่อนหน้านี้เจอดราม่าใส่ชุดพื้นเมืองเวียดนามเที่ยวแบบเซ็กซี่เกินงาม จนคนเวียดนามโกรธไฟลุกไปแล้ว “เสียวปุยยี่” ก็กลับมาเป็นที่พูดถึงบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังประกาศหาแฟนใหม่ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องบอกฐานะและขนาดอาวุธลับ! บอกเลยว่า หนุ่ม ๆ ส่งใบสมัครเข้ามาเยอะมากจนเจ้าตัวคัดไม่หวาดไม่ไหวเลยล่ะ เรื่องนี้ไม่ได้แค่ฮือฮาทั้งโซเชียล แต่ทั้งอาเซียนเลยก็ว่าได้ เมื่อนางแบบสาวสวยสายเซ็กซี่ชาวมาเลเซีย ชื่อว่า “เสียวปุยยี่ (Siew Pui Yi)” หรือที่หลายคนเรียกน่ารักน่าชังว่า “น้องปุยยี่ (MsPuiyi)” ประกาศหาแฟนใหม่ผ่าน YouTube...
นักแสดงสาวชาวไต้หวันชื่อดัง “เฉิน เฉียวอิน” ผู้แสดงบท “ตงฟางปุ๊ป้าย” ในซีรีส์ “กระบี่เย้ยยุทธจักร” ได้แต่งงานกับทายาทเศรษฐีมาเลฯ แล้ว แม้อายุห่างกันเกือบสิบปี! แฟนละครและซีรีส์จีนและไต้หวันร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่มีชื่อเสียงอย่าง “เฉิน เฉียวเอิน (Joe Chen)” ดาราไต้หวันชื่อดัง วัย 42 ปี ที่ได้แต่งงานกับทายาทเศรษฐีชาวมาเลเซีย “อลัน เฉิน (Alan Chen)”...
หัวใจชายไทยไม่เคยว่าง เพราะล่าสุดมีเน็ตไอดอลเชื้อสายไทย-มาเลเซียเข้ามาตกหัวใจ หลงจนโงหัวไม่ขึ้นอีกหนึ่ง เธอคนนั้นก็คือ “เชรี-สุชาดา โลวิตซ์” สาวสวยน่ารัก หุ่นสะบึม ผู้ชื่นชอบกีฬาบาสเก็ตบอล “เชรี สุชาดา” นั้นเริ่มโด่งดังบนโลกโซเชียลในมาเลเซียมาตั้งแต่ปี 2563 ด้วยรูปร่างหน้าตาน่ารักตรงสเป็คหนุ่ม ๆ และยิ่งชื่นชอบเล่นกีฬาอย่างบาสเก็ตบอล ก็ยิ่งได้ใจบรรดาผู้ชายมากขึ้นไปอีก! ก่อนจะข้ามมาโด่งดังในฝั่งไทยเร็ว ๆ นี้ และในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน สำหรับประวัติส่วนตัวของ...
เพื่อน ๆ คนไหนกำลังตามประเด็นการเปลี่ยนชื่อของ “กรุงเทพมหานคร” กันอยู่บ้าง? ตอนนี้ได้ผลสรุปจากทางราชบัณฑิตยสภาแล้วนะ! “กรุงเทพมหานคร” สามารถใช้ชื่อในภาษาอังกฤษได้ทั้งสองแบบคือ “Krung Thep Maha Nakhon” และ “Bangkok” แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมว่า นอกจากชื่อเมืองหลวงของประเทศไทยที่มีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว ชื่อเมืองหลวงของประเทศอื่น ๆ ก็ถูกแก้ไขเช่นเดียวกัน วันนี้ The Joi จึงยกตัวอย่างมาฝากกับ 5 เมืองหลวงที่ราชบัณฑิตยสภา...
“พลอยชมพู” เตรียมปล่อยเพลง “Location” ให้ฟังทั่วประเทศเร็ว ๆ นี้ คุณแม่เผยลูกสาวควักเงินก้อนสุดท้าย 4 หมื่นบาทในบัญชีตัวเองทำเพลงทั้งหมด เมื่อวานนี้ (3 มกราคม 2565) “พลอยชมพู” หรือ “ญานนีน ภารวี ไวเกล” นักร้องสาวชาวไทย เผยเตรียมปล่อยเพลงซิงเกิล Location ในวันที่ 14 มกราคม 2565 นี้...
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 เว็บไซต์ Thestar รายงานกรณีของ “ซาอารี ฮัสซัน” ชายมาเลเซียวัย 60 ปี ถูกตั้งข้อหามีเซ็กซ์แบบผิดธรรมชาติ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 377 ของมาเลเซีย และมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี รวมถึงเฆี่ยนและปรับเงิน โดยเจ้าตัวปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด ต่อมา นายชาอารี ยอมรับสารภาพ ทำให้ผู้พิพากษาตัดสินใจให้เขารับโทษจำคุกเพียง 6...
วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ศิลปินและนักแสดงสาวชื่อดังอย่าง “พลอยชมพู-ญานนีน ไวเกล” หรือ “Jannine Weigel” ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงกรณีที่เธอได้ยื่นเรื่องต่อศาลประเทศมาเลเซีย เพื่อฟ้องร้องค่าย “Red Records” เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามสัญญา และเพื่อขอยุติการเป็นศิลปินในสังกัด นักร้องสาว เปิดใจทั้งน้ำตา บอกเป็นอะไรที่แย่ที่สุด ยิ่งกว่าเจอโรคระบาดโควิด-19 ตนไม่ต้องการคำขอโทษ ต้องการค่าชดเชยจากทางค่ายเท่านั้น เพราะสูญรายได้มาร่วม 2...
ความโมโหหิวนั้นไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ กลายเป็นคลิปวิดีโอไวรัลบนโลกโซเชียลของประเทศมาเลเซีย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Micheal Cheang ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์หญิงสาวรายหนึ่งกำลังยืนต่อว่าและขว้างแก้วชานมด้วยความโกรธ ใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและไรเดอร์ แล้วปาแก้วลงที่พื้น สร้างความตกใจให้กับผู้ที่ผ่านไปพบเป็นอย่างยิ่ง โดยเจ้าของโพสต์เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20:00 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หญิงสาวในคลิปเป็นชาวจีน เธอต้องการให้ไรเดอร์ขึ้นไปส่งออเดอร์ให้ถึงหน้าห้อง แต่เนื่องจากกฎระเบียบของคอนโด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงแจ้งไรเดอร์ว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ไรเดอร์จึงโทรไปอธิบายให้ลูกค้าสาวฟัง จึงทำให้หญิงสาวคนดังกล่าวเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก...
กลายเป็นคลิปที่ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียลเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ใช้ติ๊กต็อกสาวชาวมาเลเซีย @olinn21 เธอได้โพสต์วิดีโอขณะที่สามีของเธอกำลังใช้ค้อนขนาดใหญ่ทุบห้องครัวทิ้ง พร้อมบรรยายแคปชันว่า “เขาไม่ชอบที่ฉันชอบสีชมพู” โดยฝ่ายภรรยาเป็นคนที่ชื่นชอบสีชมพูเป็นชีวิตจิตใจเอามาก ๆ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ทั้งโซฟาชุดรับแขก ชั้นวาง ตู้เก็บของ รองเท้า รวมทั้งเครื่องแต่งกายอื่น ๆ ล้วนแล้วเป็นสีชมพูสุดหวานแหววทั้งหมด หรือแม้กระทั่งรถก็ยังคุมโทน เรียกได้ว่าเธอคลั่งไคล้สีชมพูมากจริง ๆ แต่ดูเหมือนว่าสามีของเธอจะไม่ชอบนัก เขาจึงลงมือทุบครัวด้วยตัวเองจนเละ เหลือแค่ซาก หลังเห็นว่ามันสีหวานเกินไป ...
เช้าวันนี้ (16 กันยายน 2564) #การก่อการร้ายแบบพลีชีพ ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ในประเทศไทย ทำเอาชาวไทยหลายคนงง แต่เมื่อกดอ่านข้อมูลที่ชาวเน็ตไทยบนโลกทวิตเตอร์กำลังพูดคุยกัน ก็ทำให้หลายคนวิตกกังวลว่าจะได้รับอันตราย และตั้งคำถามถึงการทำงานของสื่อมวลชนไทยจำนวนมาก ว่าทำไมไม่มีการแจ้งเตือน “ให้ระวังการก่อการร้ายแบบพลีชีพ” !? The Joi ไม่รอช้า รีบสรุปประเด็นฮ๊อตดังกล่าว ช่วยให้ทุกคนไขข้อสงสัยให้กระจ่างแจ้ง และคลายความกังวลให้กับทุกคน แรกเริ่มประเด็นดังกล่าว...
หลังจากที่ “มุฮ์ยิดดิน ยัซซิน” (Muhyiddin Yassin) อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียลาออกได้ไม่นาน ชาวมาเลก็ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ อย่าง “อิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ” (Ismail Sabri Yaakob) ในวัย 61 ปี ซึ่งเพิ่งก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา...
ใกล้วันสารทจีนทีไร บรรดาผู้คนที่มีเชื้อสายจีนจะต้องเตรียมของไหว้สาร์ทจีนต่าง ๆ ไว้ประกอบพิธี หนึ่งในนั้น คือ “เครื่องกระดาษกงเต๊ก” อุปกรณ์ที่สำคัญมากที่สุดในการประกอบพิธีกงเต๊ก อุทิศให้กับผู้ล่วงลับ เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญู เสมือนกับการใช้หนี้เวรหนี้กรรมให้แก่ผู้ล่วงลับ และทุกปี ทั่วโลกจะได้เห็นไอเดียการออกแบบกระดาษกงเต๊กสุดบรรเจิด รับกับเทรนด์โลก อะไรที่ฮิตตอนนั้น ก็จะถูกนำมาทำเป็นรูปทรงและลวดลายของกระดาษกงเต๊ก สำหรับปีนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “วัคซีนโควิด” และผู้ที่กล้านำไอเดียนี้มาทำให้เป็นจริงบนกระดาษกงเต๊ก ก็คือ พ่อค้าชาวมาเลเซีย เชื้อสายจีน วัย...
ท่ามกลางการต่อสู้กับการระบาดระลอกที่สองของโรคโควิด-19 ในประเทศมาเลเซีย ที่ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 9,024 ศพ และยังมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มมากขึ้นถึงวันละ 19,000 กว่าคน ด้านกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซียก็ได้ประกาศยุติการฉีดวัคซีนซีโนแวค ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์ และรุนแรงมากขึ้น มาเลเซียจึงได้หันมาใช้วัคซีนไฟเซอร์เป็นหลัก แต่กลับมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำวัคซีนโควิด-19 ปลอมหรือแม้แต่การฉีดวัคซีนด้วยเข็มเปล่าให้แก่ประชาชนที่เข้ารับวัคซีนด้วย ซึ่งเท่ากับเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์วิกฤติโควิดในมาเลเซีย World of buzz รายงานเรื่องราวของ Simon Ng ชายชาวมาเลเซีย ได้โพสต์คลิปวิดีโอของเขาไปยังกลุ่ม Facebook...
สถานการณ์ติดเชื้อโควิดในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อนบ้านของเรา ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง The Joi จึงได้รวบรวม “5 ประเทศอาเซียนที่กำลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 สาหัสที่สุด! ในครึ่งปีหลัง 2564” มาอัปเดตให้ทุกคนดูกัน 1. อินโดนีเซีย กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ในเอเชียแล้ว! หลังอินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ถึง 54,517 ราย เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ทุบสถิติยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศ...
ทั่วโลกกำลังอยู่ในสถานการณ์ของโควิด ในแต่ละประเทศก็จะมีกฎในการควบคุมเชื้อไวรัสที่แตกต่างกันออกไป อย่างประเทศไทยเราเองก็มีช่วงของพรก. ฉุกเฉิน อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งจะมีเวลากำหนดว่ากี่โมงถึงกี่โมงที่ห้ามออกนอกสถานที่พักอาศัย แต่เราซึ่งเป็นคนไทยที่ยังติดอยู่ในประเทศมาเลเซีย ที่กำลังอยู่ในช่วงของการควบคุมสถานการณ์โควิดด้วยเช่นกัน โดยที่นี่จะมีกฎว่า แต่ละโต๊ะนั่งได้ไม่เกิน 4 คน และบาร์เปิดได้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับ RM1000 หรือเป็นเงินไทยประมาณ 7 พันกว่าบาท ตำรวจบุกจับปิดทางเข้า-ออก และทุกคนในคลับถูกจับ คืนนั้นเป็นวันศุกร์ เราออกไปHangoutกับเพื่อนๆชาวมาเลเซียตามปกติ ที่บาร์และร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง KL พวกเราก็ได้ดื่มเบียร์สังสรรค์กันนิดหน่อย จนถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ทางบาร์ก็เริ่มปิดและทยอยเรียกเช็คบิล ปกติคือเราจะตรงดิ่งกลับบ้านเลยนะ แต่คืนนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งชวนไปดื่มต่อที่คลับ ซึ่งจริงๆแล้วที่มาเลเซียคลับยังเปิดไม่ได้ เปิดได้แค่บาร์และร้านอาหารเท่านั้น ด้วยความที่เราติดลม เราจึงตกลงไปต่อกับเพื่อนๆที่คลับนี้ กะว่าแวะไปแป๊ปเดียวก็จะกลับ เมื่อเข้าไปถึงในคลับ พบว่าข้างในคนเยอะมากๆ เรียกได้ว่าแน่นเลยล่ะ เราก็ปาร์ตี้กันกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนานโดยไม่คิดไม่ฝันเลยว่า กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง อยู่ๆก็มีชายชุดดำสวมเสื้อกั๊กนีออนสีเขียววิ่งเข้ามาและทุกคนในคลับหยุดชะงักดีเจหยุดเล่นเพลง และต่างคนต่างพากันพยายามวิ่งไปที่ประตูเพื่อหาทางออก เราตกใจมาก และงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนพยายามดันกันไปที่ประตูทางออก พอมองออกไปก็ถึงบางอ้อ…… คิดในใจว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เดี๋ยวคลับคงจะเคลียร์ได้แหละ แต่เราก็คิดผิด เสียงตำรวจตะโกนบอกให้แยกชาย-หญิง ชายไปฝั่งชวา หญิงไปฝั่งซ้าย และเรียกเก็บพาสปอทของเรา และบัตรประจำตัวประชาชนของทุกคนในคลับนั้น วินาทีที่ต้องเดินขึ้นรถตำรวจคันใหญ่ๆนั้น เรารู้ชะตาตัวเองแล้วล่ะว่ายังไงก็ต้องไม่รอดแน่ๆ เราจึงส่งข้อความบอกครอบครัวเราไว้ก่อนเลยว่า ถ้าเราหายไปไม่ต้องตกใจ ตอนนี้กำลังไปสถานีตำรวจ ชาวต่างชาติต้องแยกจากกัน และพวกเขาปฏิบัติต่อเราเหมือนคนชนชั้นที่สาม พอถึงสถานีตำรวจ เราก็ถูกแยกออกจากกลุ่มเพื่อนชาวมาเลเซียของเรา โดยเราก็ได้เข้าไปอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีเฉพาะต่างชาติทั้งนั้น และมีเพื่อนในกลุ่มเราที่เป็นฝรั่งด้วย 2 คน ทุกคนอยู่ในสถานีตำรวจตั้งแต่เวลาประมาณ ตี3กว่าๆ จนถึง 7 โมงเช้า เราถูกใส่กุญแจมือ และตำรวจพูดว่าเราและเพื่อนๆต่างชาติ จะต้องถูกพาตัวไปห้องขังนะ เพราะเราทำผิดกฎควบคุมสถานการณ์โควิด และด้วยความที่วีซ่าของเราหมดแล้วด้วย แต่ตามกฎเขาอนุโลมให้ต่างชาติที่ยังติดค้างอยู่ในมาเลเซียอยู่ต่อได้จนกว่าจะหมดช่วง MCO หรือ Movement Control Order 7 โมงเช้า บรรดานักท่องราตรีคนอื่นๆที่เป็นชาวมาเลเซียก็ได้รับใบค่าปรับและแยกย้ายกันกลับบ้านในที่สุด แต่ตำรวจเข้ามาและพาตัวเรากับชาวต่างชาติคนอื่นๆไปยังห้องขังที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง โดยมือของเราก็ยังถูกใส่กุญแจมืออยู่ วินาทีนั้น เราน้ำตาไหลออกมาเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเรากำลังจะเจอกับอะไร เราไม่เคยต้องมาเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อถึงห้องขัง ก็ทำการเปลี่ยนชุดจากชุดเดิมของเราเป็นชุดสีส้ม หรือเรียกง่ายๆว่าชุดนักโทษนั่นแหละ และเจ้าหน้าที่ก็ยึดโทรศัพท์ของเราไป โดยที่ไม่ทันให้เราได้ติดต่อกับใครเลย คือโดนสั่งห้ามติดต่อใคร วันแรกของการใช้ชีวิตครั้งแรกในชีวิตในห้องขังเล็กๆ ที่ข้างในเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะอินโด จีน พม่า เวียดนาม ข้างในนั้นมีคนที่ถูกขังอยู่ประมาณ 20 คนได้ และเป็นห้องที่มีพื้นปูนซีเมนต์ ใช่ค่ะ เราต้องนอนกันบนพื้นแบบนั้นแหละ ...
เรื่องราวดีๆวันนี้จากทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านของเรา ประเทศมาเลเซีย World of buzz ได้เผยเรื่องราวของหนุ่มมาเลย์ ชานเกอร์ เวลลู หนุ่มแกร็บไดร์เวอร์ชาวมาเลเซีย เขากำลังเป็นที่ได้รับการชื่นชมอย่างมากบนสังคมออนไลน์ ในความมีน้ำใจที่ล้นเหลือของเขา หลังจากที่เขาช่วยเหลือชายชราไร้บ้านที่ได้รับบาดเจ็บ และพาไปส่งโรงพยาบาล อีกทั้งยังช่วยประกาศตามหาครอบครัวของลุงผู้น่าสงสาร ชานเกอร์ พบเจอชายไร้บ้านดังกล่าวนอนแน่นิ่งไม่ได้สติอยู่บนถนน ใกล้กับสถานีรถไฟเซอกัมบุต กาตีแอม ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย โดยคุณลุงถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บหนัก มีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือเขาเลยแม้แต่คนเดียว ชานเกอร์ รู้สึกจุกอกและสงสารจับใจ คิดได้อย่างเดียวว่าต้องพาลุงไปหาหมอ“ผมได้ยินมาว่าแกนอนอยู่กับพื้นแบบนั้นมาประมาณ...