เมื่อวานนี้ (29 กรกฎาคม 2564) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศเผยแพร่ข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 29) โดยมีใจความระบุถึงการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งอาจทําให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ จนเกิดความเสียหายร้ายแรงมากขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฯลฯ จึงมีมาตรการควบคุมสื่อ ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564...
ทั่วโลกกำลังอยู่ในสถานการณ์ของโควิด ในแต่ละประเทศก็จะมีกฎในการควบคุมเชื้อไวรัสที่แตกต่างกันออกไป อย่างประเทศไทยเราเองก็มีช่วงของพรก. ฉุกเฉิน อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งจะมีเวลากำหนดว่ากี่โมงถึงกี่โมงที่ห้ามออกนอกสถานที่พักอาศัย แต่เราซึ่งเป็นคนไทยที่ยังติดอยู่ในประเทศมาเลเซีย ที่กำลังอยู่ในช่วงของการควบคุมสถานการณ์โควิดด้วยเช่นกัน โดยที่นี่จะมีกฎว่า แต่ละโต๊ะนั่งได้ไม่เกิน 4 คน และบาร์เปิดได้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับ RM1000 หรือเป็นเงินไทยประมาณ 7 พันกว่าบาท ตำรวจบุกจับปิดทางเข้า-ออก และทุกคนในคลับถูกจับ คืนนั้นเป็นวันศุกร์ เราออกไปHangoutกับเพื่อนๆชาวมาเลเซียตามปกติ ที่บาร์และร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง KL พวกเราก็ได้ดื่มเบียร์สังสรรค์กันนิดหน่อย จนถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ทางบาร์ก็เริ่มปิดและทยอยเรียกเช็คบิล ปกติคือเราจะตรงดิ่งกลับบ้านเลยนะ แต่คืนนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งชวนไปดื่มต่อที่คลับ ซึ่งจริงๆแล้วที่มาเลเซียคลับยังเปิดไม่ได้ เปิดได้แค่บาร์และร้านอาหารเท่านั้น ด้วยความที่เราติดลม เราจึงตกลงไปต่อกับเพื่อนๆที่คลับนี้ กะว่าแวะไปแป๊ปเดียวก็จะกลับ เมื่อเข้าไปถึงในคลับ พบว่าข้างในคนเยอะมากๆ เรียกได้ว่าแน่นเลยล่ะ เราก็ปาร์ตี้กันกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนานโดยไม่คิดไม่ฝันเลยว่า กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง อยู่ๆก็มีชายชุดดำสวมเสื้อกั๊กนีออนสีเขียววิ่งเข้ามาและทุกคนในคลับหยุดชะงักดีเจหยุดเล่นเพลง และต่างคนต่างพากันพยายามวิ่งไปที่ประตูเพื่อหาทางออก เราตกใจมาก และงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนพยายามดันกันไปที่ประตูทางออก พอมองออกไปก็ถึงบางอ้อ…… คิดในใจว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เดี๋ยวคลับคงจะเคลียร์ได้แหละ แต่เราก็คิดผิด เสียงตำรวจตะโกนบอกให้แยกชาย-หญิง ชายไปฝั่งชวา หญิงไปฝั่งซ้าย และเรียกเก็บพาสปอทของเรา และบัตรประจำตัวประชาชนของทุกคนในคลับนั้น วินาทีที่ต้องเดินขึ้นรถตำรวจคันใหญ่ๆนั้น เรารู้ชะตาตัวเองแล้วล่ะว่ายังไงก็ต้องไม่รอดแน่ๆ เราจึงส่งข้อความบอกครอบครัวเราไว้ก่อนเลยว่า ถ้าเราหายไปไม่ต้องตกใจ ตอนนี้กำลังไปสถานีตำรวจ ชาวต่างชาติต้องแยกจากกัน และพวกเขาปฏิบัติต่อเราเหมือนคนชนชั้นที่สาม พอถึงสถานีตำรวจ เราก็ถูกแยกออกจากกลุ่มเพื่อนชาวมาเลเซียของเรา โดยเราก็ได้เข้าไปอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีเฉพาะต่างชาติทั้งนั้น และมีเพื่อนในกลุ่มเราที่เป็นฝรั่งด้วย 2 คน ทุกคนอยู่ในสถานีตำรวจตั้งแต่เวลาประมาณ ตี3กว่าๆ จนถึง 7 โมงเช้า เราถูกใส่กุญแจมือ และตำรวจพูดว่าเราและเพื่อนๆต่างชาติ จะต้องถูกพาตัวไปห้องขังนะ เพราะเราทำผิดกฎควบคุมสถานการณ์โควิด และด้วยความที่วีซ่าของเราหมดแล้วด้วย แต่ตามกฎเขาอนุโลมให้ต่างชาติที่ยังติดค้างอยู่ในมาเลเซียอยู่ต่อได้จนกว่าจะหมดช่วง MCO หรือ Movement Control Order 7 โมงเช้า บรรดานักท่องราตรีคนอื่นๆที่เป็นชาวมาเลเซียก็ได้รับใบค่าปรับและแยกย้ายกันกลับบ้านในที่สุด แต่ตำรวจเข้ามาและพาตัวเรากับชาวต่างชาติคนอื่นๆไปยังห้องขังที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง โดยมือของเราก็ยังถูกใส่กุญแจมืออยู่ วินาทีนั้น เราน้ำตาไหลออกมาเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเรากำลังจะเจอกับอะไร เราไม่เคยต้องมาเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อถึงห้องขัง ก็ทำการเปลี่ยนชุดจากชุดเดิมของเราเป็นชุดสีส้ม หรือเรียกง่ายๆว่าชุดนักโทษนั่นแหละ และเจ้าหน้าที่ก็ยึดโทรศัพท์ของเราไป โดยที่ไม่ทันให้เราได้ติดต่อกับใครเลย คือโดนสั่งห้ามติดต่อใคร วันแรกของการใช้ชีวิตครั้งแรกในชีวิตในห้องขังเล็กๆ ที่ข้างในเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะอินโด จีน พม่า เวียดนาม ข้างในนั้นมีคนที่ถูกขังอยู่ประมาณ 20 คนได้ และเป็นห้องที่มีพื้นปูนซีเมนต์ ใช่ค่ะ เราต้องนอนกันบนพื้นแบบนั้นแหละ ...
เรียกได้ว่าเป็นอารมณ์ที่สุดงง แบบนี้ก็ได้เหรอ? เมื่อชายหนุ่มคนนี้กำลังกินข้าวในบ้านของตัวเองอยู่ดีๆ เจอพี่สายตรวจบุกบ้าน เปิดประตู บอกจะจับมั่วสุมผิดพรก.ฉุกเฉิน แต่ร้อยเวรไม่รับแจ้งความ เลยกลายเป็นอีกคลิปเหตุการณ์ที่ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันบนโลกโซเชียลอย่างสนั่นถึงความมึนของพี่สายตรวจกันเลยทีเดียว วันที่ 18 พ.ค. ข่าวสด รายงานว่า โซเชียลมีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ร้านซ่อมรถจยย.แห่งหนึ่งย่านร่มเกล้า ซึ่งปรากฏภาพช่าง 2 คน กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ภายในบ้าน จู่ๆมีตำรวจสายตรวจนายหนึ่ง เปิดประตูม้วนขึ้นมา เพื่อที่จะจับกุมเอาผิดพรก.ฉุกเฉิน ในข้อหามั่วสุ่มชุมนุม จนมีการเรียกร้อยเวรสายตรวจมาเพื่อที่จะแจ้งข้อกล่าวหา แต่ปรากฏว่าร้อยเวรไม่แจ้งความเนื่องจากไม่รู้ว่าจะแจ้งเอาผิดแบบไหน เนื่องจากทั้ง2คนนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ...
วันที่ 29 เมษายน 2563 เดลินิวส์ รายงานว่า พ.ต.อ. ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ สั่งการให้ พ.ต.ท. มนัสชัย อินทร์เถื่อน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบภายในบ้านพักแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในหมู่บ้านหรูในพื้นที่ ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังมีชาวบ้านแจ้งมาว่า บ้านหลังดังกล่าวได้มีการจัดปาร์ตี้มั่วสุมดื่มสุราโดยไม่สนใจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่าในบ้านหลังดังกล่าวได้มีการเปิดเพลงส่งเสียงดังสนุกสนานเต็มที่ จึงเข้าแสดงตัวพร้อมจับกุมผู้ที่อยู่ในงานจำนวน 5 คน...
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นำไปสู่การออกมติ ครม.เลื่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ปี 2563 ช่วงวันที่ 13-15 เม.ย. ออกไปก่อน ถือเป็นครั้งแรกของไทยเลยก็ว่าได้ ที่ต้องยกเลิกกิจกรรมต่างๆ ในวันสงกรานต์ เพื่อลดการระบาดของโรค ทำให้สงกรานต์ปีนี้ เปลี่ยนไปจากทุกๆ ปี เป็นปีที่ทุกคนต้องกักตัวในบ้าน และอยู่กันอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ทว่า มีบางกลุ่มที่ไม่ปฎิบัติตามกฎแถมยังท้าทายอำนาจของรัฐบาลซะงั้น เมื่อวันที่ 12 เมษายน บนโลกโซเชียล ได้มีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งระบุสถานที่ว่าอยู่อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด...
จากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้มีการออกข้อกำหนด ตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 ฉบับ ที่ 1 โดยมีการออกข้อกำหนด 16 ข้อ โดยจะมีรายละเอียดของการ เปิดปิดสถานที่ ข้อห้ามต่างๆ ดังนี้ 1 ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง หรือสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรคโควิด-19 ตามที่กำหนดในมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 มีนาคม 2563 หรือตามที่ผู้ว่าฯ กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัด...