ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มาแรงที่สุด ณ เวลานี้ สำหรับ “Avatar: The Way of Water อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” ที่ทำเอาหลายคนอินจัด ลุกขึ้นมาแต่งตัวคอสเพลย์เป็นชาวนาวีกันเป็นแถว แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าถึงแม้จะเป็นชาวนาวี แต่ถ้าไม่เคารพกฎจราจร ชาวนาวีก็โดนรวบได้เหมือนกัน เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานี กับคลิปวิดีโอไวรัลของชาวนาวีที่แต่งตัวจัดหนักจัดเต็มขี่มอเตอร์ไซค์แต่ไม่ใส่หมวกกันน็อค จนสุดท้ายชาวนาวีคนดังกล่าวก็ถูกตำรวจเรียกซะงั้น แหมคุณตำรวจ… ก็ตอนขี่โทรุคมัคโตมันไม่ต้องใส่หมวกนี่นา! ผู้ใช้...
ทุกนาทีคือคอนเทนต์! อินฟลูเอนเซอร์สาวเกาหลีสวมบิกินี่แว๊นมอเตอร์ไซค์ในคลิป “TikTok” ดัง ล่าสุดถูกดำเนินคดีแล้ว เจ้าตัวจัดชุดใหญ่ไปรับทราบข้อกล่าวหากลายเป็นดราม่าบนโซเชียลอีกระลอก! ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อน ๆ ชาวไทยผู้ใช้ “TikTok” คงจะเคยเห็นคลิปของสาวสวยหุ่นดีคนหนึ่งนุ่งแต่บิกินี่ตัวจิ๋วซ้อนท้ายผู้บ่าวหุ่นล่ำโชว์กล้ามอกแน่น ๆ แว๊นไปตามท้องถนนในย่านกังนัมท่ามกลางสายฝนดูแล้วเฟี้ยวฟ้าวและร้อนแรงสมชื่อคลิป “Fast and Furious Gangnam” จริง ๆ ...
นี่มัน The Tinder Swindler สิบแปดมงกฎทินเดอร์เมืองไทย! ตร. รวบสาวอ้างเป็นนักศึกษาพยาบาลหลอกขอเงินหนุ่มบนแอปฯ หาคู่ดังเรียนป.โท โกยเงินได้ 30 ล้าน! เมื่อวานนี้ (10 เมษายน 2565) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกรวบตัวสาวผู้ช่วยพยาบาลชื่อว่า “นางสาวปัทมาพร” แอบอ้างเป็นนักศึกษา หลอกหนุ่มๆ บนแอปฯ “ทินเดอร์ (Tinder)” จำนวน 20...
ทั่วโลกกำลังอยู่ในสถานการณ์ของโควิด ในแต่ละประเทศก็จะมีกฎในการควบคุมเชื้อไวรัสที่แตกต่างกันออกไป อย่างประเทศไทยเราเองก็มีช่วงของพรก. ฉุกเฉิน อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งจะมีเวลากำหนดว่ากี่โมงถึงกี่โมงที่ห้ามออกนอกสถานที่พักอาศัย แต่เราซึ่งเป็นคนไทยที่ยังติดอยู่ในประเทศมาเลเซีย ที่กำลังอยู่ในช่วงของการควบคุมสถานการณ์โควิดด้วยเช่นกัน โดยที่นี่จะมีกฎว่า แต่ละโต๊ะนั่งได้ไม่เกิน 4 คน และบาร์เปิดได้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับ RM1000 หรือเป็นเงินไทยประมาณ 7 พันกว่าบาท ตำรวจบุกจับปิดทางเข้า-ออก และทุกคนในคลับถูกจับ คืนนั้นเป็นวันศุกร์ เราออกไปHangoutกับเพื่อนๆชาวมาเลเซียตามปกติ ที่บาร์และร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง KL พวกเราก็ได้ดื่มเบียร์สังสรรค์กันนิดหน่อย จนถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ทางบาร์ก็เริ่มปิดและทยอยเรียกเช็คบิล ปกติคือเราจะตรงดิ่งกลับบ้านเลยนะ แต่คืนนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งชวนไปดื่มต่อที่คลับ ซึ่งจริงๆแล้วที่มาเลเซียคลับยังเปิดไม่ได้ เปิดได้แค่บาร์และร้านอาหารเท่านั้น ด้วยความที่เราติดลม เราจึงตกลงไปต่อกับเพื่อนๆที่คลับนี้ กะว่าแวะไปแป๊ปเดียวก็จะกลับ เมื่อเข้าไปถึงในคลับ พบว่าข้างในคนเยอะมากๆ เรียกได้ว่าแน่นเลยล่ะ เราก็ปาร์ตี้กันกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนานโดยไม่คิดไม่ฝันเลยว่า กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง อยู่ๆก็มีชายชุดดำสวมเสื้อกั๊กนีออนสีเขียววิ่งเข้ามาและทุกคนในคลับหยุดชะงักดีเจหยุดเล่นเพลง และต่างคนต่างพากันพยายามวิ่งไปที่ประตูเพื่อหาทางออก เราตกใจมาก และงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนพยายามดันกันไปที่ประตูทางออก พอมองออกไปก็ถึงบางอ้อ…… คิดในใจว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เดี๋ยวคลับคงจะเคลียร์ได้แหละ แต่เราก็คิดผิด เสียงตำรวจตะโกนบอกให้แยกชาย-หญิง ชายไปฝั่งชวา หญิงไปฝั่งซ้าย และเรียกเก็บพาสปอทของเรา และบัตรประจำตัวประชาชนของทุกคนในคลับนั้น วินาทีที่ต้องเดินขึ้นรถตำรวจคันใหญ่ๆนั้น เรารู้ชะตาตัวเองแล้วล่ะว่ายังไงก็ต้องไม่รอดแน่ๆ เราจึงส่งข้อความบอกครอบครัวเราไว้ก่อนเลยว่า ถ้าเราหายไปไม่ต้องตกใจ ตอนนี้กำลังไปสถานีตำรวจ ชาวต่างชาติต้องแยกจากกัน และพวกเขาปฏิบัติต่อเราเหมือนคนชนชั้นที่สาม พอถึงสถานีตำรวจ เราก็ถูกแยกออกจากกลุ่มเพื่อนชาวมาเลเซียของเรา โดยเราก็ได้เข้าไปอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีเฉพาะต่างชาติทั้งนั้น และมีเพื่อนในกลุ่มเราที่เป็นฝรั่งด้วย 2 คน ทุกคนอยู่ในสถานีตำรวจตั้งแต่เวลาประมาณ ตี3กว่าๆ จนถึง 7 โมงเช้า เราถูกใส่กุญแจมือ และตำรวจพูดว่าเราและเพื่อนๆต่างชาติ จะต้องถูกพาตัวไปห้องขังนะ เพราะเราทำผิดกฎควบคุมสถานการณ์โควิด และด้วยความที่วีซ่าของเราหมดแล้วด้วย แต่ตามกฎเขาอนุโลมให้ต่างชาติที่ยังติดค้างอยู่ในมาเลเซียอยู่ต่อได้จนกว่าจะหมดช่วง MCO หรือ Movement Control Order 7 โมงเช้า บรรดานักท่องราตรีคนอื่นๆที่เป็นชาวมาเลเซียก็ได้รับใบค่าปรับและแยกย้ายกันกลับบ้านในที่สุด แต่ตำรวจเข้ามาและพาตัวเรากับชาวต่างชาติคนอื่นๆไปยังห้องขังที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง โดยมือของเราก็ยังถูกใส่กุญแจมืออยู่ วินาทีนั้น เราน้ำตาไหลออกมาเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเรากำลังจะเจอกับอะไร เราไม่เคยต้องมาเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อถึงห้องขัง ก็ทำการเปลี่ยนชุดจากชุดเดิมของเราเป็นชุดสีส้ม หรือเรียกง่ายๆว่าชุดนักโทษนั่นแหละ และเจ้าหน้าที่ก็ยึดโทรศัพท์ของเราไป โดยที่ไม่ทันให้เราได้ติดต่อกับใครเลย คือโดนสั่งห้ามติดต่อใคร วันแรกของการใช้ชีวิตครั้งแรกในชีวิตในห้องขังเล็กๆ ที่ข้างในเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะอินโด จีน พม่า เวียดนาม ข้างในนั้นมีคนที่ถูกขังอยู่ประมาณ 20 คนได้ และเป็นห้องที่มีพื้นปูนซีเมนต์ ใช่ค่ะ เราต้องนอนกันบนพื้นแบบนั้นแหละ ...