ชื่นชมคุณพ่อสมัยใหม่ มีแนวคิดและทัศนคติที่ดี ถึงแม้ว่าลูกจะโดนครูที่โรงเรียนและเพื่อนๆล้อว่าลูกเป็นตุ๊ด แต่ก็มีความภมูิใจในตัวลูก เพราะคิดว่าคนมีบุญเท่านั้นเเหละได้ลูกเป็นตุ๊ด เป็นเพศที่มีไรพิเศษกว่าเพศอื่น โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Rangsee Saransiriborriruk ได้เผยแพร่ข้อความพร้อมระบุว่า”ลูกชายผมมาฟ้องว่าครูเเละเพื่อนที่โรงเรียนชอบล้อว่าเป็นตุ๊ด ใช่ครับลูกผมเป็นตุ๊ด เเละผมก็ภูมิใจที่ได้ลูกเป็นตุ๊ด คนมีบุญเท่านั้นเเหละได้ลูกเป็นตุ๊ด ตุ๊ด กระเทย เกย์ เป็นเพศที่มีไรพิเศษกว่าเพศอื่นๆนะ ไม่ได้เป็นกันทุกคน” ซึ่งข้อความดังกล่าวก็ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวโซเชียล ในความใจกว้างและเปิดกว้างของคุณพ่อที่ยอมรับในเพศสภาพและจิตใจของลูกชาย เพราะในสังคมปัจจุบัน แม้จะมีการยอมรับเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น แต่บางครอบครัวก็ยังไม่สามารถรับกับเรื่องนี้ได้ รวมถึงคนในสังคมบางคนก็ยังมีพฤติกรรมเหยียดเพศ และล้อเลียนกันอยู่ ซึ่งชาวเน็ตต่างตำหนิพฤติกรรมของ “ครู” ที่ล้อเรื่องนี้ ทั้งที่คนเป็นครูควรจะยอมรับและช่วยเหลือเมื่อเด็กถูกเพื่อนๆ...
บางครั้ง สิ่งของที่ดูแสนจะธรรมดาในสายตาคนอื่น แต่กลับเป็นสิ่งของที่มีค่ามากมายทางจิตใจ สำหรับคนๆนึงก็เป็นได้ อย่างเช่นเดียวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้ ที่เมื่อชายหนุ่มคนนี้ได้กระโดนสะพานลงไปในทะเลโคลน ทำเอาชาวบ้านแถวนั้นตกใจแตกตื่นกันไปหมด จากรายงานเพจเฟชบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เกาะติดสถานการณ์และอุบัติเหตุ ได้โพสต์เรื่องราวของชายหนุ่มใหญ่ข่างเหล็กวัย 41 ปีคนนี้ ที่กระโดดลงสะพานทะเลโคลน ไปในเวลาประมาณ 8.00 น. เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณภัยเทศบาลเมืองบ้านสวนและกู้ภัยไตรคุณธรรมได้รับแจ้งมีคนตกลงไปในทะเลสะพานใหม่จมอยู่ในโคลน ต.บ้านสวน อ.บ้านสวน จ.ชลบุรี จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกับนายนพพร...
คนเราไม่สามารถได้สิ่งของที่เราต้องการดังที่ใจเราหวังไว้ได้เสมอไป แต่เมื่อเขามอบสิ่งๆนั้นให้เราแล้ว เราก็ควรรับและขอบคุณ ถึงแม้ว่าของสิ่งนั้นที่เขาให้มา มันอาจจะไม่ใช่ของขวัญที่เราตื่นเต้นเป็นพิเศษก็ตาม เพราะถึงยังไงมันก็คือของขวัญ มันมีค่าเสมอ แต่ดันไม่ใช่สำหรับหนุ่มคนนี้ ชายหนุ่มชาวอินเดีย อายุ 22 ปี ที่ว่านี้ ขับรถ BMW คันใหม่เอี่ยมที่พ่อเพิ่งจะถอยให้เป็นของขวัญวันเกิด ไปทิ้งลงที่แม่น้ำสายหนึ่งในรัฐหรยาณา ประเทศอินเดีย ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชอบรถยี่ห้อนี้ เพราะทั้งหัวใจมีให้แค่รถจากัวร์เท่านั้น หนุ่มคนนี้ก็ถูกตำรวจตั้งข้อกล่าวหา เนื่องจากการผลักรถลงสู่แม่น้ำเพราะถือว่าเป็นสัญญาณของการประท้วง จากนั้นเขาก็ทำการถ่ายวีดีโอเก็บภาพเอาไว้ ไม่พอแค่นั้น ยังส่งวีดีโอนี้ไปให้ผู้ปกครองของเขาดู และยังโพสต์ลงโซเชี่ยลอีกด้วย...
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาของวันแม่แห่งชาติ หลายๆคน หลายๆ โรงเรียนก็มักจัดกิจกรรมให้นักเรียนกราบแม่เพื่อสำนึกในพระคุณที่เลี้ยงดูมา ซึ่งแต่ละคนก็จะพาแม่ของตัวเองมาที่โรงเรียน แต่บางคนแม่ไม่ว่างมา หรือติดงานติดปัญหาบางอย่าง แม้กระทั่งบางคนนั้นไม่มีแม้แต่แม่ให้กราบไหว้หรือแสดงความรัก เมื่อถึงเวลาก็จะเห็นภาพเด็กๆ เหล่านั้นนั่งร้องให้ หรือซึมอยู่กับที่ เป็นภาพที่ไม่มีใครอยากเห็นและไม่อยากให้เกิดขึ้น อย่างเช่นภาพของเด็กชายผู้น่าสงสารคนนี้ ที่กำลังยืนเกาะรั้ว พร้อมกับร้องไห้และดูเหมือนกำลังพยายามชะเง้อมองหาแม่ของตัวเอง แต่ก็ไม่เจอ ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าแม่ของน้อง อาจจะมีเหตุผลไม่ว่างมาไม่ได้ หรือว่าน้องอาจจะไม่มีแม่ก็เป็นได้ เมื่อล่าสุดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้มีสมาชิกเฟชบุ๊ค ที่ใช้ชื่อว่า อาตู่...
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2562 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ นพรัตน์ เจริญผล ครูโรงเรียนบนดอย โรงเรียนบ้านนาเกวียน อำเภออมก๋อย ได้โพสต์ภาพถนนที่เต็มไปด้วยโคลน ขณะที่ชาวบ้านกำลังใช้เชือกเพื่อช่วยกันดึงรถที่ติดโคลน ท่ามกลางฝนที่ตกลงมา ในภาพมีทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ติดโคลน เพราะเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องสัญจรเส้นทางนี้ ในกล่องพลาสติกใสๆนั่นคาดว่าน่าจะเป็นหนังสือที่เอาไว้สอนเด็กๆ ดินถล่มมาจนเละเลย แต่ไม่ว่าทางจะยากลำบากขนาดไหนครูก็จะต้องไปให้ความรู้แก่เด็กๆที่อยู่ข้างบนให้ได้ ครูนพรัตน์ จากภาพที่แสดงให้เห็นที่ครูโพสต์ เห็นว่าครูกำลังเดินทางขึ้นไปสอนที่โรงเรียนวันแรก ตอนขึ้นไปดินยังไม่สไลด์ เดินทางได้ปกติ แต่อีกวัน ฝนตกหนักมาก...
จากกรณีของลุงขายโจ๊ก อายุ 78 ปี ที่มีชีวิตสุดรันทด จนโลกโซเชียลต่างช่วยกันบริจาคเงินไปให้ลุง และต่อมามีการจับผิดลุงในหลายๆ ประเด็น ตามที่รายงานไปแล้วก่อนหน้านี้ (อ่านข่าว : เรื่องราวของ ลุงขายโจ๊ก แท้จริงแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือไม่? หลังชาวเน็ตจับพิรุธได้ ลุงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย) ล่าสุดผู้อำนวยการเขตราชเทวี เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ว่า ล่าสุดพบตัวลุงขายโจ๊กแล้ว ซึ่งลุงได้เดินทางกลับมายังที่พักในเวลา 5 ทุ่ม ตนและเจ้าหน้าที่ จึงเข้าไปพูดคุยสอบถามว่า ลุงหายไปไหนมา...
พี่สาวสุดเศร้า แชร์เรื่องราวของน้องเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ ผลมาจากปวดหัวแล้วซื้อยามากินเองติดต่อกันมาเป็นปี ก่อนเกิดอาการช็อก หมอยื้อ 12 ชั่วโมง ไม่เป็นผล ระบุ ได้ยาแรงมากจนร่างกายรับไม่ไหว ค่าหัวใจที่พุ่งสูงปรี๊ด กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวเตือนใจสำหรับคนที่ชอบซื้อยามารับประทานเอง โดยไม่ยอมไปหาหมอเพราะคิดว่าไม่ได้ป่วยร้ายแรงอะไร เช่นเดียวกับเคสล่าสุด (6 สิงหาคม 2562) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chudapa Pornngam ได้แชร์อุทาหรณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับน้องสาวตัวเอง และกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุดท้ายแล้วน้องของเธอเสียชีวิต โดยเธอเล่าว่า ค่าหัวใจคนปกติอยู่ที่ 0-14 แต่ของน้องมีค่าหัวใจสูงถึง 9931...
เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆที่เด็กๆ จะต้องรับประทานอาหารที่มีสมดุลและมีสุขภาพดีเพราะพวกเขายังต้องการที่จะเจริญเติบโต และต้องการสารอาหารอีกมากมาย บางครั้งก็ต้องตามใจบ้างในสิ่งที่พวกเขาขออย่างเช่นพวก ขนม ของหวาน หรือของขบเคี้ยวต่างๆที่เขาชื่นชอบ แต่ถ้าหากว่าตามใจเขาจนเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ อย่างเช่น พ่อของเด็กหญิง 8 ขวบชาวจีนคนนี้ ที่เขาต้องหัวใจแทบสลายกับการที่ต้องเสียลูกสาวสุดรักเพราะกินขนมหวานทุกวัน วันที่ 6 ส.ค. Seehua รายงานข่าวความสูญเสียที่เป็นอุทาหรณ์ในประเทศจีน เมื่อเด็กหญิงวัย 8 ขวบ เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งไต โดยแพทย์วินิจฉัยว่ามีสาเหตุจากการกินขนมหวาน และดื่มชานมไข่มุกเป็นประจำทุกวันตั้งแต่อายุ 2 ขวบ รายงานระบุว่าพ่อของเด็กหญิงเป็นเชฟขนมหวาน...
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่พูดถึงกันมากบนโลกโซเชียล สำหรับกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Max Udomsak ได้โพสต์เรื่องราวของคุณลุงท่านหนึ่งวัย 78 ปี ที่ตามองไม่ค่อยชัด ทำอาชีพขายโจ๊กในมุมมืดบริเวณร้านสะดวกซื้อเซเว่น ตึกแมนชั่น KJS ซอยหมอเหล็ง ดินแดง กรุงเทพฯ ซึ่งไม่ค่อยได้รับความสนใจ จนมีบางวันขายได้แค่ถ้วยเดียว ก่อนจะได้มีการโพสต์เลขบัญชีให้คนเข้ามาบริจาคเพื่อเป็นค่าหอพักใหม่ และเป็นค่ารักษาดวงตา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการไปหาหมอ ต่อมาหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตแห่มาอุดหนุนเป็นจำนวนมาก จนคุณตายยิ้มออก เพราะขายหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว แถมยังบริจาคเงินให้คุณตา จนได้ห้องพักใหม่ ที่ไม่ต้องโดนไล่ที่อีกต่อไป...
จนกว่าความตายจะทำให้เราแยกจากกัน…. เมื่อเร็วๆมานี้ เป็นเรื่องราวของคู่รักวัยชราจากเซินเจิ้น ประเทศจีน ที่ได้เรียกน้ำตาของบรรดาชาวเน็ตกันเป็นอย่างมาก หลังจากที่คุณตาและคุณยายทั้งคู่ที่ได้แต่งงาน กันมากว่า 57 ปี และนี่ก็อาจเป็นช่วงเวลาสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้อยู่ด้วยกัน สื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2019 ที่ผ่านมา คุณยาย Peng วัย 77 ปี ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในทันที หลังพบว่ามีอาการเลือดออกในสมอง คุณตา Gao ผู้เป็นสามีวัย 84...