ยังมีปัญหาเรื่องค่าสินสอดมาให้เห็นกันไม่จบไม่สิ้นสักที ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้ หนุ่มฝรั่งบางคนก็เคารพวัฒนธรรมไทย คิดว่าการแต่งงานกับสาวไทย ก็เป็นเหมือนการแต่งงานกับครอบครัวของสาวไทยด้วย ดั้งนั้นค่าสินสอดพวกเขาเหล่านั้นก็คิดว่าถูกต้องแล้ว แต่ก็มีฝรั่งอีกส่วนมากที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับค่าสินสอด หนุ่มบางคนก็อยากจะฝากให้สาวๆคุยตั้งแต่เนิ่นๆในเวลาที่คบกันว่าธรรมเนียมไทยเป็นอย่างไรบ้าง เกี่ยวกับสินสอดนี้เป็นแบบไหน หนุ่มฝรั่งหลายคน ไม่เห็นด้วย มันดูเหมือนเป็นการเห็นแก่ตัวมากเกินไป ที่จะต้องจ่ายค่าสินสอดให้กับครอบครัวสาวไทย หนุ่มๆฝรั่งหลายๆคนค่อนข้างยอมรับกันในวัฒนธรรมนี้ และเข้าใจดี แต่จะมากจะน้อยอันนี้ก็แล้วแต่คน พวกเขายังฝากมาบอกอีกว่าถ้ารักมากพอก็ยอมรับสาวไทยในจุดนี้ใด้ แต่ในขณะเช่นเดียวกันหนุ่มฝรั่งหลายคน ไม่เห็นด้วยเพราะว่าบ้านและวัฒนธรรมของพวกเขาไม่มีธรรมเนียมแบบนี้ ก็จะดูเหมือนเป็นการเห็นแก่ตัวมากเกินไป ที่จะต้องจ่ายค่าสินสอดให้กับครอบครัวสาวไทย เพราะว่าส่วนมากฝรั่งเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นมา พวกเขาก็จะต้องดิ้นรนทำงานเองตั้งแต่เด็กไม่รบกวนพ่อแม่ของพวกเขาเลย ก็จะมีหนุ่มฝรั่งหลายคนไม่เห็นด้วยและจะไม่มีค่าสินสอดเมื่อแต่งงาน ตามธรรมเนียมของฝรั่ง ผู้หญิงจะต้องเป็นฝ่ายออกเงินค่าจัดงาน...
ขึ้นชื่อว่าเรื่องของความรักแล้ว มีสุขก็ต้องมีทุกข์ ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น มาอ่านเรื่องราวของความรักของหนุ่มๆเหล่านี้ที่มาแชร์ประสบการณ์ความสัมพันธ์แย่ๆที่พวกเขาไม่มีวันที่จะลืมมันได้ลง เรื่องราวเจ็บๆ จากสาวๆที่พวกเขาเรียกว่าเป็นแฟน จะแย่ขนาดไหน เริ่มกันที่…. 1. แฟนใหม่เธอ หน้าตาคุ้นๆ คบกับมา 4 ปี มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ดีและราบรื่นมาตลอดนะ พอเข้าปีที่ 4 เธอขอไปทำงานคู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ด้วยความที่ผมเชื่อใจเธอ ผมจึงไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ยอมให้เธอไป จนบางครั้งเราก้มีทะเลาะกันเรื่องนี้บ้าง เธอก็ขอให้เราเชื่อใจ บอกว่าไม่มีอะไรกับผู้ชายคนนี้ ก็เป็นแค่เพื่อนรวมงามกัน...
มาดูกันว่าหนุ่มๆชาวมาเลเซียเขาติดใจอะไรในตัวสาวๆไทยกันนักนะ ทำไมทุกวันนี้ไปไหนมาไหนเราก็จะเห็นได้เลยว่านอกจากสาวไทยจะเดทกับฝรั่งแล้ว ทางฝั่งหนุ่มเอเชียก็มีความนิยมสาวไทยเช่นกัน โดยเฉพาะฝั่งประเพื่อนบ้านเราอย่างหนุ่มๆมาเลเซีย ต่างก็ต้องเปลี่ยนไปจากสาวๆในประเทศของพวกเขา มาเทใจให้กับสาวไทย เพราะอะไรพวกเขาถึงเลือกที่จะเดทกับสาวไทย มาฟังความเห็นจากปากของหนุ่มๆมาเลเซียทั้ง 5 กันเถอะ 1. ผู้หญิงไทยดีกว่าสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาว หลังจากประสบการณ์ออกเดทกับผู้หญิงไทยและผู้หญิงมาเลเซีย ฉันคิดว่าผู้หญิงไทยดีกว่าสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาว ในขณะที่ผู้หญิงมาเลเซียเหมาะสำหรับการออกเดทแบบสบาย ๆ และความสัมพันธ์แบบระยะสั้น ซึ่งฉันชอบแบบระยะยาวมากกว่า เพราะเมื่อเราถึงจุดนั้น จุดที่รู้สึกเบื่อกับการที่จะต้องมาทำความรู้จักกันและคุ้นเคยกับใครใหม่ๆ ผู้หญิงไทยจะตอบโจทย์มากกว่า เมื่อเวลาคุณมาถึงจุดนั้น Jason – 28 ปี 2. ฉันชอบสไตล์ของผู้หญิงไทยมากกว่า ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่มักจะขี้อายและเป็นผู้หญิงที่สงวนท่าทีซึ่งเมื่อพวกเขาได้รู้จักดีใครมากขึ้น เมื่อได้รับความไว้วางใจจากพวกเขา พวกเขาจะชอบอยู่ใกล้ ๆ ตลก ร่าเริง และทำให้ฉันรู้สึกสนุกราวกับว่าเป็นเด็กๆเลยล่ะ ในขณะที่ผู้หญิงมาเลเซียพวกเขามักจะจริงจังตลอดเวลา แต่ก็ไม่ใชว่าผู้หญิงมาเลเซียจะไม่ดีไปซะหมดนะ เพียงแค่ว่าสำหรับฉัน ฉันชอบสไตล์ของผู้หญิงไทยมากกว่า Max- 32 ปี 3. ผู้หญิงไทยมีความซื่อสัตย์และอ่อนน้อมถ่อมตน สาวไทยส่วนใหญ่นักถือศาสนาพุทธ และยึดหลักทำตามศีลข้อที่ 4 และโดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงไทยมีความเคารพในตัวผู้ชายมากกว่า และเป็นคนที่ซื่อสัตว์รักเดียวใจเดียว ในขณะที่ผู้หญิงมาเลเซียพวกเขาจะไม่ค่อยเปิดอกคุยหรือพูดอะไรตรงๆ ต่างจากผู้หญิงไทยที่พวกเขามักจะพูดทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในใจเพราะพวกเขารู้ว่าเขาต้องการอะไร...
ชั่วโมงนี้ต้องบอกก่อนว่าสาวๆไทยเรายังฮ็อทกันไม่หยุดหย่อน สาวไทยกำลังเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ จนทุกวันนี้เราจะเห็นกันได้เลยว่าคนรอบๆตัวเรา ก็มีแฟนต่างชาติกันไปหมด อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่หนุ่มฝรั่งจะชอบสาวไทยนะ เพราะที่แอดมินไปสำรวจมานั้น หนุ่มๆเกาหลีก็คลั่งไคล้สาวไทยพอๆกับหนุ่มฝรั่งด้วยเช่นกัน เราจึงได้ทำการสอบถามหนุ่มโอปป้าทั้ง 5 คนนี้มาว่าเพราะอะไร ทำไมพวกเขาถึงชอบเดทกับสาวไทยมากกว่าสาวเกาหลีซะงั้น ไปเริ่มกันที่หนุ่มคนแรกเลย…. 1. ผู้หญิงไทยขี้หึง แต่น้อยกว่าผู้หญิงเกาหลี ผู้หญิงไทยจะพูดค่อนข้างตรง โดยเฉพาะเรื่องหึงผู้หญิงไทยจะพูดชัดเจน อยากให้ฝ่ายชายรู้ว่าหึงนะ แต่จะไม่ท่าทางประชดอะไรมากมายเท่าผู้หญิงเกาหลีนัก ต้องบอกเลยว่าส่วนใหญ่ผู้หญิงเกาหลีจะขี้หึงมากๆ ใครมองแฟนของเธอ เธอก็จะแสดงท่าทางความเป็นเจ้าของและเหวี่ยงวีนฝ่ายชายตรงนั้นทันที...
ช่วงนี้เราทุกคนต่างเครียดกับสถานการณ์ของโควิดกันมามากพอแล้ว Thejoi ก็ไม่อยากให้ทุกคนต้องอ่านอะไรที่มันซีเรียส เลยได้มีโอกาสไปสอบถามคู่รักที่แสนหวานถึงเรื่องราวการมาพบกันของทั้ง 2 คู่ ว่าพวกเขาพบรักกันได้อย่างไร ? เจอกันผ่านแอพฯแลกเปลี่ยนภาษา เขาอยากเรียนภาษาไทย เราก็อยากเรียนภาษาอังกฤษ เราเจอกันผ่านแอพฯเรียนภาษาแอพฯนึง ชื่อ “HelloTalk” ปกติแล้ว เราไม่ค่อยเล่นแอพฯพวกนี้ แต่ด้วยความที่เหงาเพราะเพิ่งอกหัก และเบื่อมากๆ เลยตัดสินใจลองเปิดใจเล่นแอพฯนี้ดู ซึ่งแอพฯนี้จะเป็นแอพฯสำหรับแลกเปลี่ยนภาษากันมากกว่า ไม่ใช่แอพฯเพื่อหาคู่ เราเล่นได้ 3 วัน ก็ได้เจอกับฝรั่งคนนี้ ต้องบอกก่อนว่าเดิมที...
ทั่วโลกกำลังอยู่ในสถานการณ์ของโควิด ในแต่ละประเทศก็จะมีกฎในการควบคุมเชื้อไวรัสที่แตกต่างกันออกไป อย่างประเทศไทยเราเองก็มีช่วงของพรก. ฉุกเฉิน อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งจะมีเวลากำหนดว่ากี่โมงถึงกี่โมงที่ห้ามออกนอกสถานที่พักอาศัย แต่เราซึ่งเป็นคนไทยที่ยังติดอยู่ในประเทศมาเลเซีย ที่กำลังอยู่ในช่วงของการควบคุมสถานการณ์โควิดด้วยเช่นกัน โดยที่นี่จะมีกฎว่า แต่ละโต๊ะนั่งได้ไม่เกิน 4 คน และบาร์เปิดได้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับ RM1000 หรือเป็นเงินไทยประมาณ 7 พันกว่าบาท ตำรวจบุกจับปิดทางเข้า-ออก และทุกคนในคลับถูกจับ คืนนั้นเป็นวันศุกร์ เราออกไปHangoutกับเพื่อนๆชาวมาเลเซียตามปกติ ที่บาร์และร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง KL พวกเราก็ได้ดื่มเบียร์สังสรรค์กันนิดหน่อย จนถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ทางบาร์ก็เริ่มปิดและทยอยเรียกเช็คบิล ปกติคือเราจะตรงดิ่งกลับบ้านเลยนะ แต่คืนนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งชวนไปดื่มต่อที่คลับ ซึ่งจริงๆแล้วที่มาเลเซียคลับยังเปิดไม่ได้ เปิดได้แค่บาร์และร้านอาหารเท่านั้น ด้วยความที่เราติดลม เราจึงตกลงไปต่อกับเพื่อนๆที่คลับนี้ กะว่าแวะไปแป๊ปเดียวก็จะกลับ เมื่อเข้าไปถึงในคลับ พบว่าข้างในคนเยอะมากๆ เรียกได้ว่าแน่นเลยล่ะ เราก็ปาร์ตี้กันกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนานโดยไม่คิดไม่ฝันเลยว่า กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง อยู่ๆก็มีชายชุดดำสวมเสื้อกั๊กนีออนสีเขียววิ่งเข้ามาและทุกคนในคลับหยุดชะงักดีเจหยุดเล่นเพลง และต่างคนต่างพากันพยายามวิ่งไปที่ประตูเพื่อหาทางออก เราตกใจมาก และงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนพยายามดันกันไปที่ประตูทางออก พอมองออกไปก็ถึงบางอ้อ…… คิดในใจว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เดี๋ยวคลับคงจะเคลียร์ได้แหละ แต่เราก็คิดผิด เสียงตำรวจตะโกนบอกให้แยกชาย-หญิง ชายไปฝั่งชวา หญิงไปฝั่งซ้าย และเรียกเก็บพาสปอทของเรา และบัตรประจำตัวประชาชนของทุกคนในคลับนั้น วินาทีที่ต้องเดินขึ้นรถตำรวจคันใหญ่ๆนั้น เรารู้ชะตาตัวเองแล้วล่ะว่ายังไงก็ต้องไม่รอดแน่ๆ เราจึงส่งข้อความบอกครอบครัวเราไว้ก่อนเลยว่า ถ้าเราหายไปไม่ต้องตกใจ ตอนนี้กำลังไปสถานีตำรวจ ชาวต่างชาติต้องแยกจากกัน และพวกเขาปฏิบัติต่อเราเหมือนคนชนชั้นที่สาม พอถึงสถานีตำรวจ เราก็ถูกแยกออกจากกลุ่มเพื่อนชาวมาเลเซียของเรา โดยเราก็ได้เข้าไปอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีเฉพาะต่างชาติทั้งนั้น และมีเพื่อนในกลุ่มเราที่เป็นฝรั่งด้วย 2 คน ทุกคนอยู่ในสถานีตำรวจตั้งแต่เวลาประมาณ ตี3กว่าๆ จนถึง 7 โมงเช้า เราถูกใส่กุญแจมือ และตำรวจพูดว่าเราและเพื่อนๆต่างชาติ จะต้องถูกพาตัวไปห้องขังนะ เพราะเราทำผิดกฎควบคุมสถานการณ์โควิด และด้วยความที่วีซ่าของเราหมดแล้วด้วย แต่ตามกฎเขาอนุโลมให้ต่างชาติที่ยังติดค้างอยู่ในมาเลเซียอยู่ต่อได้จนกว่าจะหมดช่วง MCO หรือ Movement Control Order 7 โมงเช้า บรรดานักท่องราตรีคนอื่นๆที่เป็นชาวมาเลเซียก็ได้รับใบค่าปรับและแยกย้ายกันกลับบ้านในที่สุด แต่ตำรวจเข้ามาและพาตัวเรากับชาวต่างชาติคนอื่นๆไปยังห้องขังที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง โดยมือของเราก็ยังถูกใส่กุญแจมืออยู่ วินาทีนั้น เราน้ำตาไหลออกมาเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเรากำลังจะเจอกับอะไร เราไม่เคยต้องมาเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อถึงห้องขัง ก็ทำการเปลี่ยนชุดจากชุดเดิมของเราเป็นชุดสีส้ม หรือเรียกง่ายๆว่าชุดนักโทษนั่นแหละ และเจ้าหน้าที่ก็ยึดโทรศัพท์ของเราไป โดยที่ไม่ทันให้เราได้ติดต่อกับใครเลย คือโดนสั่งห้ามติดต่อใคร วันแรกของการใช้ชีวิตครั้งแรกในชีวิตในห้องขังเล็กๆ ที่ข้างในเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะอินโด จีน พม่า เวียดนาม ข้างในนั้นมีคนที่ถูกขังอยู่ประมาณ 20 คนได้ และเป็นห้องที่มีพื้นปูนซีเมนต์ ใช่ค่ะ เราต้องนอนกันบนพื้นแบบนั้นแหละ ...
สำหรับหญิงไทยหรือหนุ่มไทยหลายคน ที่มีแฟนหรือสามี/ภรรยาเป็นคนต่างชาติ โควิด-19 เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาและเธอต้องห่างเหิน ไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้ตามปกติเหมือนเช่นเคย มาดูกันว่า เขาและเธอรักษาความรัก ความมั่นคงระหว่างกันไว้ได้อย่างไรกับสถานการณ์ที่ต้องพลัดพรากจากกันในขณะนี้ 1. ผมไม่ได้อยู่กับภรรยาในวันที่เธอคลอดลูกสาวของเรา จนกระทั่งตอนนี้ลูกสาวของเราอายุได้ 5 เดือนแล้ว ฟรีส (ไทย) & Mae (ฟิลิปปินส์) และลูกสาวของพวกเขา คบกัน 2 ปี ตอนนี้ผมอยู่ที่ฟิลิปปินส์นั้นเป็นช่วงเดือนมกราคมของปี 2020 ข่าวการระบาดของโควิด...
สำหรับคนที่ชอบปาร์ตี้ เคยสังเกตไหมคะ ว่าเวลาเราไปงานปาร์ตี้ในวงเหล้า จะต้องมีกลุ่มเพื่อนๆ ที่มีสกิล แตกต่างกันออกไป บางคนคอแข็ง บางคนคออ่อน บางคนไม่ดื่มแอล เอาเป็นว่า วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเช็คกันดีกว่า ว่าคุณกับเพื่อนของคุณเป็นสายไหนในวงเหล้ากันนะ!!! ขอบอกเลยว่า มีครบทุกสายแน่นอน 1. สายแทงค์ สายคอแข็งไม่พูดเยอะ กินเงียบๆ เรื่อยๆ อย่าง STRONG ไม่สะทกสะท้านใดๆ คนประเภทนี้มักยืนหยัดอยู่ในวงเหล้าได้นานที่สุด แม้ว่าปาร์ตี้จะจบลงแล้ว แต่เขาคนนี้จะไม่ยอมกลับบ้านอย่างเด็ดขาด...
ในยุค 2020 ที่มีสมาร์ทโฟนและแอพริเคชั่นอำนวยความสะดวกเยอะแยะมากมายผุดขึ้นมาทุกๆวันยิ่งกว่ากอไผ่ ไม่ว่าจะเป็นแอพสั่งอาหาร ธนาคาร ช็อปปิ้งออนไลน์ ต่างๆนาๆ รวมไปถึงทุกวันนี้ก็ยังมีแอพหาเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว ด้วยเช่นกันนะ ต้องบอกเลยว่าเป็นแอพที่กำลังมาแรงมากๆในหมู่คนไทย และสาวๆส่วนมากก็ใช้แอพนี้กันทั้งนั้น หรือแม้กระทั้งตามเว็ปไซต์หรือตามกลุ่มเฟชบุ๊กต่างๆ ก็ยังมีการโพสต์หาเพื่อนที่รับจ้างเที่ยวกันอย่างเปิดเผย ต้องบอกเลยว่าถูกใจสาวโสดเป็นอย่างมาก เพราะบางทีการออกไปเดินหาใครสักคนมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆใช่ไหมล่ะ มันก็ต้องมีการหากันตามเว็ปไขต์นี่แหละ ง่ายและสะดวกปลอดภัยดี แถมยังได้ความพึงพอใจ เพราะเราก็สามารถเลือกหน้าตา เลือกเพื่อนเที่ยวได้ตามสเปคที่เราต้องการ วันนี้เราจึงไปสำรวจประสบการณ์จาการจากสาวๆที่เคยใช้บริการนี้กันมา ว่าเพราะอะไรทำไมพวกเธอจึงต้องยอมเสียเงินซื้อบริการเพื่อนเที่ยว แทนที่จะออกไปหาแบบฟรีๆเหมือนคนอื่นๆทั่วไป 1....
คู่รักส่วนใหญ่ เมื่อเลิกกันก็มักจะจบลงด้วยการเลิกติดต่อกัน บล็อกเฟชบุ๊ก ลบเบอร์โทร ลบรูปภาพ และต่างคนต่างหายไปมีชีวิตใหม่ของตัวเอง โดยไม่เจอกันอีกตัดความสัมพันธ์ไปเลย เพราะคิดว่ามันแปลกๆนะ ถ้าจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า ทำไม่ได้หรอกใครเขาเป็นเพื่อนกันกับแฟนเก่า แต่เชื่อไหมว่า ยังมีนะ คนที่สามารถเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ โดยไม่มีปัญหาอะไร เพราะอะไรทำไมพวกเขาถึงทำได้นะ ไปอ่าน 4 เหตุผลจากคนที่เราได้ไปทำการสอบถามและสำรวจมากันค่ะ 1. ทำธุรกิจร่วมกัน “ผมและแฟนเก่าของผม เราสองคนก่อนที่จะเลิกกันเราเปิดบริษัทด้วยกัน ซึ่งธุรกิจของพวกเรากำลังไปได้ดีมากๆ เราเริ่มทำมันแล้วก็ต้องทำต่อให้ ผมหยุดทำไม่ได้...