featured
ที่ประชุม ศบค. ด่วน! โดยมี “พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมศบค. ครั้งที่ 9/2564 (ผ่านระบบ Video Conference) เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมา มีผลสรุปจากการประชุมว่า ให้ “ล็อกดาวน์ 14 วัน” ในพื้นที่เสี่ยงสูง 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรีและเชียงใหม่ หลังตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันทะลุ 6-7 พันคน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในวันนี้ ทุบสถิติใหม่! มีจำนวนทั้งหมด 9,276 คน เสียชีวิต 72 ราย ทำให้สถานกาณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเข้าขั้นโคม่า
โดยเน้นเรื่องจำกัดการเดินทางออกนอกบ้านและไปในสถานที่เสี่ยง ไม่ออกนอกเคหะสถานช่วงเวลา 22:00-04:00 น. อาจจะให้เริ่มมีผล ตั้งแต่พรุ่งนี้ (10 กรกฎาคม 2564) เป็นต้นไป พร้อมกำหนดเป้าหมายลดผู้ป่วยภายใน 2-4 สัปดาห์ และขยายพรก. ฉุกเฉินต่อไปอีก 2 เดือน รวมถึงขอให้กลับไปทบทวนแผนทั้งหมดต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ทันสถานการณ์ ส่วนรายละเอียดมาตรการจะรายงานให้ทราบต่อไป
ห้างสรรพสินค้าจะ “อนุญาตให้เปิดได้” เฉพาะส่วนซุปเปอร์มาเก็ต แผนกขายยา แผนกอาหาร แผนกสินค้าเบ็ดเตล็ด ส่วนร้านสะดวกซื้อจะ “มีกำหนดเวลาเปิด–ปิด”
โรงพยายาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านอาหารในส่วนที่ไม่ใช่สถานบันเทิงหรือสถานบริการ และแผงจำหน่ายอาหาร ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ร้านค้าทั่วไป ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ตลาดและตลาดนัดส่วนอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงรส อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ และสินค้าเบ็ดเตล็ด แก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส การให้บริการขนส่งผู้โดยสาร และขนส่งสินค้ำ รวมทั้งบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง “เปิดได้ตามปกติ”
ด้าน ศบค. ขอให้ประชาชน “เวิร์คฟอร์มโฮม (WFH) 100%” ยกเว้นงานบริการที่จำเป็น และงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค และงดการเดินทางโดยไม่จำเป็น ยกเว้นเดินทางไปซื้ออาหาร ไปโรงพยาบาล และฉีดวัคซีนป้องกันโควิด “มาตรการป้องกันส่วนบุคคล” ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย งดการคลุกคลีใกล้ชิดกัน หรือรับประทานอาหารร่วมกัน ทั้งในที่บ้านและสถานที่ทำงาน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชาประกาศ ไม่รับเงินเดือนเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์สำหรับช่วยเหลือในการแก้ไขสถานการณ์โควิด รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 376,770 บาท (อัตราเงินเดือนของนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ 75,590 บาท บวกกับเงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 50,000 บาท รวมรายได้นายกรัฐมนตรีต่อเดือน คิดเป็นเงินทั้งหมด 125,590 บาท)
ขอบคุณข้อมูลจาก: กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสดออนไลน์, ไทยรัฐออนไลน์
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “อั๋น ภูวนาท” โพสต์ภาพร้านก๋วยเตี๋ยวเรือไต้หวัน พร้อมสายไฟพันรุงรัง ทวงสัญญา “ลุงตู่” เอาสายไฟลงดิน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: 2 ดาววัดสร้อยทอง “พระมหาไพรวัลย์-พระมหาสมปอง” อินการเมืองแรงไม่ตก “ด่าไทยโพสต์หน้าหนา-โพสต์ท่าริมทะเลแซะลุงตู่”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “ลุงตู่” จัดเยียวยาชุดใหญ่ไฟกระพริบให้ประชาชนในพื้นที่ 10 จังหวัดล็อกดาวน์
