ทุกคนอาจคิดว่า มีแต่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือโน้ตบุ๊กที่ไวรัสสามารถโจมตีจนใช้งานไม่ได้ หรือถูกโจรกรรมข้อมูลได้เท่านั้น แต่ที่จริงแล้ว “มือถือ” ของเรา ก็สามารถถูกไวรัสโจมตีได้เช่นกัน!
The Joi เลยรวบรวม “9 สัญญาณบ่งบอกว่ามือถือถูกไวรัสโจมตี” มาฝากทุกคน เอาไปสังเกตมือถือตัวเองกันดู!
1. แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติ
นี่เป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกคุณได้ว่า “มือถือถูกไวรัสโจมตี” เพราะมือถือ (สมาร์ทโฟน) รุ่นใหม่ ๆโดยทั่วไปเเล้วเเบตเตอรี่จะ “มีความอึดกว่า” มือถือรุ่นก่อน ๆ มาก มือถือบางรุ่นสามารถใช้งานได้นานถึง 2 วัน จากการชาร์จเต็มในครั้งเดียว เเต่หากอยู่ดี ๆ เเบตเตอรี่หมดเร็วเป็นพิเศษ ทั้ง ๆ ที่เเบตเตอรี่ก็ไม่ได้เสื่อม นั่นอาจหมายความว่า ไวรัสกำลังเล่นงานมือถือคุณอยู่! เพราะเมื่อไวรัสได้เข้าไปโจมตีมือถือแล้ว มันจะสั่งการให้ภายในมือถือของคุณทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้กินเเบตเตอรี่มากเป็นพิเศษ
2. อยู่ดี ๆ ก็ดับ
หากมือถือมีอาการสายหลุดบ่อย หรืออยู่ ๆ เครื่องก็ดับไปเองบ่อย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ก็มีเเนวโน้มว่า “มือถือถูกไวรัสโจมตี” เข้าซะแล้ว เเม้ว่าสาเหตุของการสายหลุดจะเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ หรือสัญญาณมือถือ หรือไวไฟขัดข้อง เเต่หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยจนผิดสังเกต นั่นเเหล่ะ ฝีมือของไวรัส
3. โทรออกเอง
บางคนอาจคิดว่า ผิวอวัยวะสักส่วนหนึ่งของร่างกายเราไปสัมผัสเข้ากับปุ่มโทรออก หรือแอปฯ ส่งข้อความโดยบังเอิญ แต่ก็มีข้อข้องใจว่า ก็ไม่ได้สัมผัสมันเลย รวมถึงไม่มีคนใกล้ชิดมาใช้โทรศัพท์ของคุณอย่างเเน่นอน นี่ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า มือถือคุณถูกไวรัสโจมตีแล้ว เพราะพวกมันจะใช้การโทรออกเเละส่งข้อความออกในการเเพร่กระจายไวรัส เเละจะยิ่งยืนยันได้ชัดเจนไปอีก หากเพื่อนของคุณได้รับข้อความสเเปม (Spam) เเละลิงก์ที่น่าสงสัยที่ถูกส่งออกไปจากมือถือคุณ!
4. มีแอปฯ ที่ไม่รู้จักอยู่ในเครื่อง
การมีแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จักและคุณไม่ได้ดาวน์โหลดมาปรากฏในเครื่อง สันนิษฐานง่าย ๆ เลยว่า นี่เป็นเเหล่งของไวรัส ที่ตั้งใจจะมาลงหลักปักฐานในมือถือของคุณ เพื่อปล่อยมัลเเวร์ให้พวกมันทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เเละไม่สามารถถูกกำจัดได้โดยง่าย ที่เลวร้ายกว่า หากมีไวรัสแรนซัมแวร์ (Ransomware) อยู่ในเครื่อง มันสามารถปิดการใช้งานอุปกรณ์และบังคับให้เจ้าของจ่ายค่าไถ่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อีกครั้งได้
5. มือถือร้อนผิดปกติ
สัญญาณนี้หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพราะแบตเตอรี่มือถือเสื่อม แต่อีกสาเหตุหนึ่งคือ มีไวรัสเข้าไปอยู่ในเครื่องของคุณ และเข้าไปใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ในเครื่อง ทำให้เครื่องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา เเม้กระทั่งเวลาที่คุณไม่ได้ใช้งานมันเลยก็ตาม หากคุณพบว่า มือถือร้อนผิดสังเกต เเถมยังทำงานอืดขึ้นด้วย นั่นมีความเป็นไปได้สูงว่า เครื่องของคุณถูกไวรัสโจมตีเข้าเเล้วไง
6. มีการใช้ข้อมูลดาต้ามากกว่าปกติ
หากสมาร์ทโฟนของคุณติดไวรัส คุณจะสังเกตเห็นการใช้ข้อมูลดาต้าของเครื่องมากจนผิดสังเกต เพราะไวรัสสามารถใช้ดาต้าที่เป็นเเหล่งข้อมูลของเครื่อง เพื่อส่งข้อมูลออกไป เเล้วปรากฏเป็นป๊อบอัพโฆษณาที่เเสนน่ารำคาญ เเต่ปัญหานี้ คุณสามารถจัดการได้ไม่ยาก สำหรับคนที่ใช้มือถือระบบปฏิบัติการเเอนดรอยด์ สามารถเข้าไปตั้งค่าจัดการการใช้ข้อมูลอย่างเหมาะสมได้
7. มีค่าใช้จ่ายมือถือมากขึ้นผิดปกติ
ค่าโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า มือถือคุณโดนไวรัสเข้าแล้ว เพราะมัลเเวร์บางตัวจะทำให้มือถือส่งข้อความออกไปเองเป็นจำนวนมาก และกว่าคุณจะรู้ตัวอีกที ก็ตอนที่ได้รับบิลค่าโทรศัพท์ เเต่ก็มีไวรัสบางตัวเช่นกัน ที่ทำงานอย่างเเนบเนียน ด้วยการส่งข้อความเพียง 1-3 ข้อความต่อเดือน เพื่อไม่ให้คุณสงสัย บางตัวมีความสามารถในการลบตัวเองทิ้ง หลังจากที่ได้สร้างรายจ่ายให้คุณไม่รู้ตัวแล้ว ดังนั้น ทุกครั้งที่ได้รับบิลค่าโทรศัพท์จึงต้องตรวจสอบบิลอย่างละเอียด หากโดนไวรัสเล่นงานจะได้รู้ตัว
8. โปรแกรมหรือแอปฯ ต่าง ๆ ขัดข้อง หรือเปิดแล้วดับเองบ่อยครั้ง
ไวรัสที่เข้าจู่โจมมือถือจะทำให้โปรเเกรมในเครื่องทำงานรวน เช่น เกมที่คุณเล่นเป็นประจำอาจดับไปดื้อ ๆ ซึ่งเป็นเเบบนี้อยู่บ่อยครั้ง เเละไอคอลที่เคยขึ้นเป็นประจำบนหน้าจอ อาจหายไปเฉย ๆ เเถมการทำงานของเเอปฯ ต่าง ๆ ที่คุณเคยใช้งานประจำก็ขัดข้องบ่อยจนผิดสังเกต ถ้าเจอแบบนี้มั่นใจได้เลย ไวรัสโจมตีคุณอยู่
9. มีป๊อปอัปโฆษณาปรากฏขึ้นตลอดเวลา
โดยโฆษณาป๊อปอัปที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอมือถือเอง โดยที่เราไม่ได้คลิกอะไรบนหน้าจอเลย จะสร้างความน่ารำคาญให้กับคุณ นั่นก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า มือถือของคุณโดนไวรัสโจมตีเช่นกัน
เเละนี่ก็คือ 9 ข้อสังเกตว่าเครื่องของคุณโดนไวรัสหรือไม่ เมื่อรู้เเล้ว The Joi ก็หวังว่าผู้ใช้งานมือถือทุกคนจะหมั่นสังเกตสัญญาณเหล่านี้ ว่าพบบ่อยบนมือถือรึเปล่า? เพราะนอกจากทำให้มือถือใช้งานไม่ได้แล้ว ยังทำให้เจ้าของมือถือมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น บางครั้งข้อมูลที่เราเก็บไว้ในเครื่องอาจรั่วไหลสู่มิจฉาชีพ ที่ต้องการจะเรียกค่าไถ่เราก็ได้ และต้องรีบกำจัดมันให้ไวที่สุด!
ส่วนวิธีการล้างไวรัสออกจากมือถือเราง่าย ๆ คือ เข้าไปที่ “ตั้งค่า” และกดที่เมนู “การบำรุงรักษาอุปกรณ์” เมื่อเข้าไปที่หน้าการบำรุงรักษาอุปกรณ์แล้ว ให้กดที่ “สถานะความปลอดภัย” แล้วกดปุ่ม “สแกนโทรศัพท์” เพียงเท่านี้ระบบจะทำการล้างไวรัสให้กับมือถือของเรา
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เผย 5 ประเภทแอปพลิเคชันต้องลบทิ้ง! เพราะเปลืองหน่วยความจำและแบตเตอรี่
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ลงรูปครั้งต่อไป หน้าหุ่นสวยแน่! ด้วย 5 แอปพลิเคชันแต่งรูปฟรีสุดปังบนมือถือปี 2021
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ระวัง! คุณแม่แชร์ภาพลูกสาวเลือดออกตาจนต้องผ่าตัด เพราะจ้องมือถือนาน
ที่มาข้อมูล Sanook และ Knights Fall App