ข่าวช็อก! ขาช้อป ขาเที่ยว ขากิน และขาถ่ายชาวไทยทั่วประเทศ เมื่อ “ตลาดนัดรถไฟรัชดา” ประกาศปิดกิจการถาวร เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 หลังแบกภาระต่าง ๆ ไม่ไหว คาดจากผลพวงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นต้นเหตุ ขณะที่เจ้าของตลาดนัดสั่งร้านค้ารื้อออกจากพื้นที่ภายใน 14 วัน
The Joi เลยรวบรวม 6 สิ่งที่ทุกคนต้องคิดถึง ทุกครั้งที่เอ่ยถึง “ตลาดนัดรถไฟรัชดา” แห่งนี้
1. ช้อปปิ้งของวินเทจเก๋ ๆ
นี่คือจุดเด่นของ “ตลาดนัดรถไฟรัชดา” เลย เพราะเป็นแหล่งรวมของสไตล์วินเทจทุกแนว ไว้ในใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีสัดส่วนมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ของสินค้าที่จำหน่ายทั้งหมดในตลาดแห่งนี้ รูปแบบการตั้งร้านซื้อ-ขาย เป็นแบบถนนคนเดิน ที่ขาช้อปสามารถเลือกเดินดูได้เพลิน ๆ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย
2. กินอาหารสตรีทฟู้ด
ขึ้นชื่อว่าเป็น “ตลาดนัดรถไฟ” แล้ว จะขาดไฮไลต์เด็ดอย่าง “อาหารสตรีทฟู้ด” ไปไม่ได้ อาหารก็มีให้เลือกมากมายตั้งแต่ ของปิ้ง ย่าง ทอด เสียบไม้ เดินถือกินได้รอบตลอด ยันร้านอาหารขนาดเล็กมาพร้อมเมนูอาหารที่ไม่สามารถหากินตามห้างสรรพสินค้า ที่สำคัญราคายังไม่แพงอีกต่างหาก
ร้านเด็ดต้องกิน เช่น “เตี๋ยวแม่กลอง & เล้งแซ่บ” ร้านก๋วยเตี๋ยวรสเเซ่บจากเเม่กลอง, “เตี๋ยวกุ้งรถไฟ” ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นรสเเซ่บ จี๊ดจ๊าด เสริฟร้อนๆ ด้วยเส้นหลากหลายชนิด, “โฮลี่ชีส” ร้านเบอร์เกอร์ชีสเยิ้ม ๆ สไตล์อเมริกัน, “เผาแม่มเลย” ร้านปิ้งย่างซีฟู้ดจานยักษ์ที่คออาหารทะเลต้องห้ามพลาด ด้วยความสดใหม่ของกุ้งตัวโต, “เครซี่ ชริมพ์” อาหารทะเลพร้อมน้ำซอสสุดแซ่บ สูตรเฉพาะ Crazy Shrimp ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับกุ้งได้เป็นอย่างดี, “กระต่ายขายหม้อ” หม้อไฟสไตล์เกาหลีน้ำซุปเข้มข้น ที่เสิร์ฟด้วยเส้นมาม่าเกาหลี และเครื่องเคียงแบบล้นหม้อ, “ลิตเติ้ลฟาร์ม” คิดถึงนมอร่อย ๆ ปังเย็นชื่นใจ ที่ให้เยอะไม่กลัวขาดทุน เป็นต้น ซึ่งอร่อยขนาดที่ว่า YouTuber ไทยฮิตมาทำคอนเทนต์ลงกันเกลื่อน
3. นั่งชิลล์โซนปาร์ตี้
หากใครเป็นสายชิลล์ ชอบนั่งคุยกับเพื่อนและจิบแอลกอฮอล์ “ตลาดนัดรถไฟรัชดา” ก็มีโซนปาร์ตี้ให้บริการ แถมบางร้านยังมีดนตรีสดอีกด้วย ร้านนั่งชิลล์มีชื่อของที่นี่ เช่น “Rod’s Bar” ร้านจะอยู่โซนด้านหน้า มีดนตรีสด, “90’s” บรรยากาศเหมือนร้านอาหารทองหล่อ มีให้เลือกนั่ง 2 ชั้น, “Nawa De Bar” ตัวร้านมี 2 ชั้น มีทั้ง open air และแบบห้องแอร์ เป็นต้น
4. ชมของเก่าโบราณ
ส่วนจัดแสดงของเก่า โบราณ หรือสไตล์วินเทจ สามารถพบเห็นและถ่ายรูปได้ ตั้งแต่เดินเข้ามาใน “ตลาดนัดรถไฟรัชดา” เลย เพราะตั้งอยู่ด้านหน้าสุด มีทั้งรถโบราณ ปั๊มน้ำมันโบราณ เดินเข้าไปด้านในจะมีโกดังเก็บของเก่า ของสะสม ของตกแต่งบ้านแนววินเทจทั้งหมด รวมถึงสินค้าวินเทจเกรดพรีเมี่ยม
5. ถ่ายรูปเล่น
เนื่องจาก “ตลาดนัดรถไฟรัชดา” ตั้งอยู่บนพื้นกว้างใหญ่มากถึง 12-13 ไร่ ซึ่งมีล็อกให้เช่าให้ขายของมากถึง 1,200 ล็อก ดังนั้น มุมถ่ายรูปย่อมมีมากโข เรียกว่ามากี่ร้อยกี่พันครั้ง ก็ได้รูปไม่ซ้ำมุมเดิมแน่นอน แถมบรรยากาศ แสงสีเสียง ยังทำให้องค์ประกอบภาพดูเลิศดั่งมืออาชีพถ่ายให้ แบบไม่ต้องใช้กล้อง DSLR เลย
6. เสื้อผ้าแฟชั่น
ฉันใดก็ฉันนั้น ตลาดนัดไทย ต้องมีเสื้อผ้าขาย “ตลาดนัดรถไฟรัชดา” ก็ต้องมีเช่นกัน แต่มาแนวแฟชั่นสไตล์วินเทจซะส่วนใหญ่ สายหวาน สายพาสเทลซอฟท์ อยากได้เสื้อผ้าทันสมัยตามกระแส ราคาสบายกระเป๋า ก็ต้องมาที่นี่เท่านั้น!
โครงการ “ตลาดนัดรถไฟ” หรือ “Train Night Market Ratchada” เปิดตัวครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2558 บริหารงานโดย “ไพโรจน์ ร้อยแก้ว” อดีตพ่อค้าแผงลอยขายของเก่าย่านตลาดคลองถม ผู้ชื่นชอบสะสมของเก่า สินค้าวินเทจ เรโทร
ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา “ตลาดนัดรถไฟรัชดา” เปิดให้บริการผู้คนมากมายทั้งชาวไทยและต่างชาติ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวโปรดของใครหลายคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน อีกทั้ง ยังเป็นแหล่งทำมาหากินเลี้ยงปากท้องของพ่อค้าแม่ขายอีกหลายร้อยชีวิต ในวันนี้แม้จะถึงตอน “อวสาน” แล้ว แต่ความทรงจำดี ๆ ของตลาดนัดแห่งนี้ จะอยู่กับเราทุกคนตลอดไป
ที่มาข้อมูล: wongnai, intrend.truid.net, painaidii
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ชาวบ้านแฉ! “ผักกาดดอง” ในตลาดเขาดิน จังหวัดสระแก้ว อร่อยได้ด้วย “เท้าเหยียบ”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เหล่าแฟชั่นนิสต้าต้องรู้! 10 ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ไทยมาแรงที่พร้อมตีตลาดไทยและต่างประเทศปี 2021
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “กระชายขาวและฟ้าทะลายโจร” ราคาพุ่ง-ขาดตลาด หลังพบมีฤทธิ์ในการต้านไวรัสโควิด