อยากมีเพื่อนและเป็นเพื่อนที่ดี ต้องไม่ทำพฤติกรรมที่เรียกว่าเป็นการกลั่นแกล้ง (Bully) ถึงแม้บางครั้งเราอาจจะคิดว่าสิ่งที่เราพูด ทำ หรือแสดงออกไปจะเป็นเพียงการหยอกล้อ ไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาร้ายแรง แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่เราได้กระทำลงไปมันจะไปกระทบจิตใจของคนอื่นมากน้อยแค่ไหน
เอาล่ะมาดูกันเลยที่กว่าว่าพฤติกรรมแบบไหนจึงจะเรียกว่าเข้าข่ายการ บูลลี่ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
1. การใช้กำลังบังคับหรือทำร้ายร่างกาย
เช่นการหยิก ผลัก ตี ต่อย เตะ แย่งหรือข่มขู่เอาสิ่งของจากเหยื่อ ทำลายข้าวของเสียหาย สั่งให้ทำเรื่องที่ไม่อยากทำ สั่งให้ไปกลั่นแกล้งคนอื่นต่อเป็นต้น
2. การเหยียดเชื้อชาติ ภูมิลำเนา
เป็นการเอาลักษณะที่ถูกตีความว่าด้อยบางส่วนของเชื้อชาติ มาแปลงเป็นข้อเสียใหญ่ และให้ความหายแบบเหมารวมว่าคนที่ทำแบบนี้ เชื้อชาตินี้อาศัยอยู่ที่นี่จะต้องมีแบบนี้ไปซะหมด เช่น ลาวจัง เจ็ก บ้านนอก แขก ไอ้มืด
3. การเหยียดลักษณะรูปร่างภายนอก สีผิว รูปร่าง
เป็นการเหยียดที่มีพื้นฐานมาจากค่านิยมที่มองว่า เช่น มองว่ารูปร่างที่ดี สีผิวที่ดีควรเป็นเช่นไร ผอม มีกล้าม มีซิคแพคคือสิ่งที่ดี ตัวเอกในหนังละครล้วนถูกนำเสนอให้เป็นแบบนี้ทั้งสิ้น ส่วนความอ้วนหรือสีผิวที่เข้มกว่าถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่ดี และถูกนำเสนอที่แสดงถึงตัวตลก เป็นต้น ตัวอย่างคำพูดเช่น อ้วนเป็นหมูแล้ว ดำขึ้นหรือเปล่า? เจ้าแว่น ผมหยิกจัง เตี้ยมาก ดำจัง
4. การกลั่นแกล้งทางโซเชียล
หรือที่เราเรียกกันว่า Cyberbullying เป็น 1 ในการ Bully ที่ในสังคมไทยปัจจุบันนี้มีแนวโน้มเพิ่มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่โซเชียลมีเดียหรือสื่อออนไลน์ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก โดยเป็นการกลั่นแกล้งที่ทำได้ง่ายและมักไม่ต้องเปิดเผยตัวตนผู้กระทำซึ่งสามารถทำร้ายผู้ถูกกระทำได้ตลอดเวลาผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่นิยม เช่น เฟชบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม อีเมล เป็นต้น
5. การกลั่นแกล้งในที่ทำงาน
เกิดขึ้นในวัยทำงาน โดยเป็นการใช้อำนาจหรือความรุนแรงในสถานที่ทำงาน ซึ่งอาจส่งผลให้เหยื่อมีประสิทธิภาพในการทำงานแย่ลง ขาดงานบ่อยขึ้นจนไม่อยากมาทำงาน และอยากลาออกจากงานนั้นๆ
6. การล้อเลียนหรือเหยียดเรื่องเพศ
เป็นการเหยียดที่มีมานานมากแล้วในสังคมไทย เห็นได้จากสำนวนสุภาษิต “ผู้ชายเป็นช้างท้าวหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง” สื่อออกมาชัดเจนเลยถึงการมองว่าเพศชายอยู่เหนือกว่าเพศหญิง ทั้งที่จริงๆแล้วผู้หญิงบางคนอาจมีความสามารถมากกว่าผู้ชาย เพียงแต่เธอไม่ได้มีโอกาสแสดงออกมา หรือถูกปิดกั้นด้วยค่านิยมนี้ อีกหนึ่งเคสที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องเพศที่สาม ซึ่งถึงแม้ว่าจะพูดกันปาวๆ ว่ามีการยอมรับมากขึ้น แต่สุดท้ายการเหยียดเพศทางเลือกก็ยังมีอยู่ให้เห็นตลอด ตัวอย่างคำพูดเช่น เอากระโปรงไปใส่ไป,สายเหลือง