ซีรีส์สุดโด่งดังจาก “Netflix” อย่าง “Squid Game” ไม่เพียงแค่ตราตรึงผู้ชมด้วยความดาร์กและการเสียดสีสังคมทุนนิยมเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ชมทั่วโลกต้องลุ้นระทึกกับ “เกมมรณะ” ที่เหล่าผู้เล่นต้องเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อชิงเงินรางวัลมหาศาล
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ “Business Insider” เขาได้จัดอันดับ 11 เกมที่ปรากฏในซีรีส์ “Squid Game” ทั้ง 3 ซีซั่น โดยเรียงลำดับจากง่ายไปหายากที่สุด เกมใด “เอาตัวรอดได้ง่าย” และเกมใดคือ “กับดักมัจจุราช” ที่แทบไม่มีทางรอด ไปดูพร้อม ๆ กันเลยยยยยยยยยยยยยยย!
อันดับที่ 11 Squid Game เกมปลาหมึก

Netflix/Squid Game
เกมสุดท้ายในซีซั่นแรก — เกมปลาหมึก
แม้จะเป็นชื่อของซีรีส์ แต่เกมนี้เล่นเพียง 2 คนเท่านั้น เป็นการประลองดวลเดี่ยวที่ผู้เล่นต้องใช้มีดต่อสู้กันเพื่อเข้าเขตปลอดภัย ใครชนะก็รอดตาย เกมนี้จึงขึ้นอยู่กับแรง ความเร็ว และกลยุทธ์ของตัวเองล้วน ๆ โอกาสรอดอยู่ที่ 50/50 จึงจัดว่า “ง่ายที่สุด” เมื่อเทียบกับเกมอื่น
อันดับที่ 10 Sky Squid Game เกมปลาหมึกลอยฟ้า

Netflix/Squid Game 3
เกมสุดท้ายของซีซั่น 3
ผู้เล่นต้องผลักคนอื่นตกจากแท่นหินสูงให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด มีทั้งหมด 3 รอบ โดยแต่ละรอบมีผู้เล่นตกรอบน้อยที่สุด 1 คน หากรวมกลุ่มดี ๆ หรือหลีกเลี่ยงการเป็นเป้าหมาย ก็มีโอกาสรอดสูงกว่าหลายเกม
อันดับที่ 9 Marbles เกมลูกแก้ว

Netflix/Squid Game
เกมลูกแก้วสุดโหดทางใจจากซีซั่น 1
ต้องจับคู่กับเพื่อนหรือคนที่ไว้ใจ แล้วแข่งขันกันเอง ผู้แพ้จะตาย จุดที่โหดคือการบีบบังคับให้ทรยศคนใกล้ตัวเอง แม้เกมจะไม่ยากทางเทคนิค แต่ยากในเชิงจิตใจ
อันดับที่ 8 Mingle เกมม้าหมุน

Netflix/Squid Game 2
เกมม้าหมุนจากซีซั่น 2
ผู้เล่นจะหมุนอยู่บนม้าหมุน แล้วต้องรีบวิ่งเข้าห้องที่มีจำนวนคนตามที่กำหนด หากเข้าไม่ทันหรือตัวคนเดียวก็จะถูกคัดออก เกมนี้จึงต้องพึ่งพาทักษะการเข้าสังคมและการหาพันธมิตร
อันดับที่ 7 Dalgona (Sugar Honeycombs) เกมน้ำตาลแผ่น

Netflix/Squid Game
เกมแกะขนมยอดฮิตจากซีซั่นแรก
ต้องใช้ความระมัดระวังในการตัดขนมตามรูปแบบให้สมบูรณ์โดยไม่แตกภายใน 10 นาที ใครพลาดนิดเดียวก็ถูกยิงตาย ความยากอยู่ที่ความเครียดและเสียงปืนรอบข้างที่บั่นทอนสมาธิ
อันดับที่ 6 Red Light, Green Light เกมเออีไอโอยู หยุด

Netflix/Squid Game
เกมเปิดตัวสุดสะพรึงของซีซั่น 1 และ 2
แม้ดูเหมือนจะง่าย แต่ผู้เล่นต้องหยุดนิ่งทันทีที่ตุ๊กตาหันมา ไม่เช่นนั้นจะถูกยิง แถมยังมีเวลาจำกัดในการวิ่งไปถึงเส้นชัย เกมนี้จึงเล่นกับ “ความนิ่ง” ภายใต้แรงกดดันขั้นสุด
อันดับที่ 5 Jump Rope เกมกระโดดเชือก

Netflix/Squid Game 3
เกมกระโดดเชือกสุดโหดในซีซั่น 3
แทนที่จะเป็นเชือกธรรมดา ที่นี่คือแท่งเหล็กหมุนขนาดยักษ์ ผู้เล่นต้องกระโดดข้ามในขณะที่เดินข้ามสะพานและไม่ให้โดนเหล็กเหวี่ยงตกลงไปตาย ด่านนี้ยากทั้งกายภาพและการรักษาจังหวะ
อันดับที่ 4 Tug of War เกมชักเย่อ

Netflix/Squid Game
ชักเย่อกลางอากาศจากซีซั่น 1
เล่นเป็นทีม หากดึงไม่ไหวก็จะตกจากแพลตฟอร์มสูงและตายทันที แม้จะมีเทคนิคแอบใช้ชั้นเชิงเหมือนในเรื่อง แต่สุดท้ายก็ยังวัดกันที่พละกำลังและความร่วมมือ
อันดับที่ 3 Six-Legged Pentathlon เกมวิ่งผลัด

Netflix/Squid Game 2
เกมวิ่งผลัดแบบติดโซ่ในซีซั่น 2
ผู้เล่นจะถูกแบ่งเป็นทีมละ 5 คน แล้วถูกล่ามโซ่ที่ขาและต้องแข่งกันวิ่งพร้อมทำมินิเกม 5 ด่านกลางสนาม ใครแพ้หรือหมดเวลา = ตาย ท้าทายทั้งความเร็ว ความสามารถของสมาชิกแต่ละคน และการวางแผนเป็นอย่างมาก
อันดับที่ 2 Hide and Seek เกมซ่อนแอบ

Netflix/Squid Game 3
ซ่อนแอบมรณะในซีซั่น 3
ผู้เล่นจะสุ่มเป็นฝ่าย “ซ่อน” หรือ “หา” ฝ่ายซ่อนต้องรวบรวมกุญแจ 3 ดอกเพื่อออกจากพื้นที่ หรืออยู่ให้รอด 30 นาที ฝ่ายหามีมีด ต้องฆ่าให้ได้ 1 คนเพื่อผ่านด่าน เกมนี้ทั้งซับซ้อน โกลาหล และใช้ทั้งไหวพริบ ความกล้า และโชคอย่างมาก
อันดับที่ 1 Glass Bridge เกมกระโดดข้ามสะพานกระจก

Netflix/Squid Game
เกมกระโดดข้ามสะพานกระจก – โหดสุดในซีรีส์
ผู้เล่นต้องเดินข้ามสะพานที่เรียงด้วยกระจกสองแถว โดยมีแค่แถวเดียวที่รับน้ำหนักได้ อีกแถวจะพาไปสู่ความตาย ไม่มีเบาะแส ไม่มีตรรกะ มีแต่ “ดวง” ล้วน ๆ ยิ่งได้ลำดับต้น ๆ โอกาสตายนั้นแทบจะ 100% ถือเป็นเกมที่โหดที่สุดของทั้งซีรีส์ชุดนี้เลยก็ว่าได้
และนี่คือ 11 อันดับเกมที่โหดที่สุดในซีรีส์ชุด “Squid Game” เรียงจากง่ายไปหายากที่สุด โดยเว็บไซต์ “Business Insider” จากเกมเด็กสุดคลาสสิคถูกพลิกโฉมให้กลายเป็นฝันร้ายในเวอร์ชั่น “Squid Game” แต่ละเกมทดสอบทั้งความสามารถด้านร่างกาย จิตใจ กลยุทธ์ และบางครั้งก็แค่…โชคชะตาล้วน ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่แข็งแรง มีไหวพริบ หรือเข้าสังคมเก่งแค่ไหน ในจักรวาลนี้ ทุกย่างก้าวคือการเดิมพันด้วยชีวิต หากเพื่อน ๆ ต้องเลือกเกมหนึ่งที่คิดว่าตัวเอง “พอจะรอดได้” จะเลือกเกมไหน?
ที่มาข้อมูล: Business Insider
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: “พัคซองฮุน (Park Sung-Hoon)” เผยความรู้สึกหลังรับบท “ออนนี่ฮยอนจู (Hyun-Ju)” ใน “Squid Game 2” รู้สึกโล่งอกที่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากผู้ชมชาว LGBTQ+
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เผย 8 อันดับตัวละครที่ยอดเยี่ยมที่สุดในซีรีส์ “Squid Game ซีซั่น 3” โดย “Game Rant”
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เผย 12 อันดับการเสียชีวิตที่น่าเศร้าที่สุดในซีรีส์ชุด “Squid Game” เพราะบางความตาย… ไม่ใช่แค่การสิ้นลมหายใจ แต่คือบาดแผลในหัวใจของคนดู