จากกระแสข่าวไวรัลของ “มินท์ I Roam Alone” ยูทูปเบอร์ชื่อดังที่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตไทยตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ออกมาเผยว่าตนเองได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็น “ประเทศที่คนมีความสุขน้อยที่สุดในโลก” ก็ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า แล้วถ้า “มิ้นท์” ไม่ไปประเทศอัฟกานิสถานที่กำลังเกิดสงครามในขณะนี้ด้วย เธอจะไปประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลกที่ไหนได้อีก?
The Joi เลยนำข้อมูลจาก “รายงานความสุขโลก” หรือ “World Happiness Record” ประจำช่วงปี 2018-2020 จากการสำรวจทั้งหมด 149 ประเทศ มาเผยให้ทุกคนคลายความสงสัยกัน ว่า 10 ประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลกตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีประเทศใดบ้าง และเพราะเหตุใด?
ซึ่งเกณฑ์ที่ใช้วัดว่าประเทศมีความสุขมากน้อยแค่ไหน มีทั้งหมด 6 ข้อด้วยกัน ประกอบด้วย
1. GDP ต่อหัว
2. สุขภาพและอายุขัยเฉลี่ย
3. การสนับสนุนทางสังคม
4. อิสระในการเลือกชีวิต
5. การได้รับความไว้วางใจ
6. การรับรู้เรื่องคอร์รัปชันในสังคม
1. อัฟกานิสถาน
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 2.523
World Happiness Record พบว่า “อัฟกานิสถาน” เป็นประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลก และยังเป็นประเทศเดียวที่ประชาชน “มีอิสระในการเลือกชีวิต” และ “การสนับสนุนทางสังคม” เป็น “ศูนย์” อันเนื่องมาจาก “ปัญหาสงครามที่ยืดเยื้อ” ในประเทศ ล่าสุด กลุ่มติดอาวุธตาลีบันฟื้นคืนชีพ หลังการถอนกำลังทหารของกองทัพสหรัฐฯ และบุกยึดพื้นที่ในอัฟกานิสถานคืนจากรัฐบาลได้เกือบครึ่งแล้ว ณ เวลานี้
ซึ่งการ “มีอิสระในการเลือกชีวิตและการสนับสนุนทางสังคมที่เป็นศูนย์” นี้ ก็มาจากการที่อัฟกานิสถานยังกีดกันไม่ให้ “ผู้หญิง” จำนวนมากเข้าถึงสถานบริการด้านสุขภาพ ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนคนเดียว ต้องแต่งกายให้มิดชิด ไม่เปิดเผยอวัยวะในร่างกายให้คนอื่นได้เห็น
“ผู้หญิงไม่มีตัวตนในสังคม” ไม่สามารถเปิดเผยชื่อของตัวเองในที่สาธารณะได้ เอกสารทางราชการต่าง ๆ บัตรประชาชน จะไม่มีชื่อของผู้หญิงปรากฏ มีเพียงการบอกว่า เป็นบุตรของใคร หรือหากแต่งงานแล้วก็จะระบุว่าเป็นภรรยาของใคร และสุดท้ายเมื่อเสียชีวิต ที่ป้ายหลุมศพก็ไม่มีแม้แต่การระบุชื่อ ทำได้เพียงระบุว่าเป็นบุตรสาวของใคร เป็นภรรยาของใคร หรือเป็นมารดาของใครเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ก็นำไปสู่โครงการ “Where Is My Name ?”
2. ซิมบับเว
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 3.145
สาเหตุมาจาก “ปัญหาเศรษฐกิจ” หลายอย่าง เช่น มาจากการบริหารที่ล้มเหลวและการคอร์รัปชันของรัฐบาลมูกาเบ, การขับไล่ชาวไร่ผิวขาวกว่า 4,000 คนในระหว่างการจัดสรรที่ดินที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งในปี 2000, ปัญหาการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ, อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสูงมาก และการขาดแคลนอุปทานของสินค้าต่าง ๆ และจากการที่ซิมบับเว มีส่วนร่วมกับสงครามในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ระหว่างปี 1998 ถึง 2002 ทำให้ต้องสูญเสียหลายร้อยล้านดอลลาร์ออกจากระบบเศรษฐกิจ
ในเดือนพฤศจิกายน 2008 ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของซิมบับเวพุ่งขึ้นสูงถึงร้อยละ 516 ล้านล้านล้านต่อปี และราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก ๆ 1.3 วัน และนับเป็นภาวะเงินเฟ้อรุนแรงที่เลวร้ายเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์โลก รองจากวิกฤติเงินเฟ้อในฮังการีในปี 1946 ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก ๆ 15.6 ชั่วโมง
3. รวันดา
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 3.415
สาเหตุมาจาก “ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม” โดย “รวันดา” เป็นประเทศที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น มากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ และเป็นเกษตรกร ทำให้เกิดการแย่งพื้นที่ทำกินทางการเกษตร และนำไปสู่ปัญหาถัดไป เมื่อมีคนมาก แต่พื้นที่เพาะปลูกน้อย ก็ทำให้เกิดการขาดแคลนอาหาร
นอกจากนี้ ยังเกิด “ความขัดแย้งทางด้านชาติพันธุ์” อันเกิดจากความเชื่อทางศาสนา สังคม และการเมืองที่แตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ประชาชนแตกแยก หรือบางครั้งการเลือกปฏิบัติต่อประชาชนเกิดขึ้นจากลักษณะทางชาติพันธุ์ สถานะทางสังคม บรรพบุรุษ ความมั่งคั่ง ระดับการศึกษา หรือภาษาที่พูดก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้งได้ด้วย
“รวันดา” เกิดความขัดแย้งทางด้านชาติพันธุ์และการเมือง ระอุรุนแรงมากที่สุดในปี 1994 มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1 ล้านคน เกิดปัญหาผู้อพยพ เด็กกำพร้า จำนวนมหาศาล และบุคคลที่มีส่วนในการสร้างปัญหาความขัดแย้งเหล่านี้เหมือนกันกับหลาย ๆ ประเทศ มักประกอบไปด้วย นักการเมือง ทหาร เป็นแกนหลัก และประชาชนทั่วไปเป็นผู้ตาม ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ตกอยู่ภายใต้การแสวงหาอำนาจและแย่งชิงเป็นผู้ปกครองบ้านเมือง โดยไม่คำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
4. บอตสวานา
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 3.467
สาเหตุมาจาก “เศรษฐกิจและระบบสาธารณสุข” หนึ่งในปัญหาด้านสาธารณสุขที่ต้องได้รับการแก้ไขล่าสุดเป็นการด่วน คือ “บอตสวานา” ประสบปัญหาอัตราการเสียชีวิตของมารดาที่คลอดบุตร ซึ่งมีจำนวนสูงเป็น 2 เท่าของค่าเฉลี่ยประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงระดับสูง จากรายงานของประเทศเผยว่า ในปี 2019 มีมารดา 166 คน ต่อ 1 แสนคนเสียชีวิต จากการเสียเลือดจำนวนมากระหว่างคลอดบุตร รวมถึงการมีที่อยู่อาศัยห่างไกลจากสถานพยาบาล
ส่วน “เศรษฐกิจ” ประชาชนพึ่งพารายได้ส่วนใหญ่จากการผลิตเพชร ซึ่งรัฐบาลก็พยายามผลักดันให้ภาพรัฐและเอกชนในประเทศลงทุนด้านอื่น ๆ มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมนี้ แม้ว่า “บอตสวานา” จะเป็นประเทศที่ผลิตเพชรที่ยังไม่ได้เจียระนัยเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากออสเตรเลียและซาอีร์
5. เลโซโท
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 3.512
สาเหตุมาจาก “ปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติทางธรรมชาติ” พวกเขาไม่สามารถผลิตอาหารได้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาสิ่งแวดล้อม เลโซโทจึงมีความสนใจที่จะเรียนรู้และขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตรจากไทย
ความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทย-เลโซโท มีพัฒนาการและมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับแต่โอกาสที่สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 และสมเด็จพระราชินีฯ เสด็จฯ เยือนไทยอย่างเป็นทางการตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลไทย เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน 2006 โดยภายหลังงานพระราชพิธี ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ เยือนจังหวัดเชียงใหม่เป็นการส่วนพระองค์ และได้เสด็จฯ เยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่
6. มาลาวี
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 3.600
สาเหตุมาจาก “ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข” เศรษฐกิจส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการเกษตร มีสินค้าออกคือ ยาสูบ ชา น้ำตาล มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุ คือ บ๊อกไซต์ เยื่อหินทนไฟ กราไฟต์ และยูเรเนียม แต่ไม่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่ขนาดใหญ่ จำเป็นต้องพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศ และยังพึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ
แต่ยังไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากนัก เนื่องจากปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงจากไกด์ท้องถิ่น และความกลัวของนักท่องเที่ยวต่อสถานการณ์ความไม่สงบในแถบอนุภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก โดย “มาลาวี” เป็นอีกประเทศหนึ่งในภูมิภาคแอฟริกาที่ประสบปัญหาการระบาดของเชื้อ HIV/AIDS โดยประชากรที่ติดเชื้อ HIV/AIDS ถึง 14 เปอร์เซ็นต์
7. เฮติ
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 3.615
สาเหตุมาจาก “ปัญหาการเมืองและสังคม” เป็นที่ทราบว่า “เฮติ” เป็นหนึ่งในประเทศยากจนที่สุดในโลกมาตั้งแต่ปี 2017 และต้องเผชิญการประท้วงหลายครั้ง ซึ่งกลุ่มฝ่ายค้านของเฮติระบุว่า “การคอรัปชัน” ของผู้นำประเทศ ต่อหลายครั้งที่ผ่านมา เป็นสาเหตุที่ทำให้ความรุนแรงในประเทศพุ่งสูงขึ้น และความเป็นอยู่ของประชาชนย่ำแย่ลง
และเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา “ประธานาธิบดี โฌเวเนล โมอิส” แห่งประเทศเฮติ ถูกกลุ่มมือปืนบุกสังหารถึงที่บ้านพักภายในทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ขณะที่ภริยาถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
8. แทนซาเนีย
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 3.623
สาเหตุมาจาก “สงคราม” อันเกิดขึ้นระหว่างประเทศแทนซาเนียกับยูกันดา ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่หลังการยึดอำนาจของอามินในยูกันดาปี 1971 ผู้นำแทนซาเนีย “จูเลียส ไนเรอร์” ได้เสนอให้ “มิลตัน โอโบเต” ลี้ภัยจากยูกันดามาที่ประเทศของตน “โอโบเต” และผู้ลี้ภัยอีก 20,000 คนตอบตกลง
ในปีถัดมา (1972) กลุ่มของผู้ลี้ภัยเข้าบุกยูกันดา เพื่อทำการปลด “อามิน” ออกจากตำแหน่งแต่ไม่สำเร็จ “อามิน” ตำหนิ “ไนเรอร์” ที่คิดเป็นศัตรูของเขา ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเข้าสู่สถานการณ์ตึงเครียดต่อเนื่องนับแต่นั้นเป็นต้นมา
9. เยเมน
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 3.658
สาเหตุมาจาก “สงคราม” โดยมี “อาหรับสปริง” จุดสงครามกลางเมืองเยเมน ในปี 2011 เริ่มเกิดการต่อต้าน “อาลี อับดุลเลาะห์ ซอเลห์” ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งมานานกว่าสองทศวรรษ
จนกระทั่งประธานาธิบดีซอและห์ลาออกเมื่อต้นปี 2012 รัฐบาลใหม่นำโดย “อะดรับบูห์ มันซูร์ ฮาดี” ซึ่งพยายามสู้รบกับกองกำลังอัลเคดาห์และกลุ่มกองกำลังของพวกฮูตี ซึ่งเป็นกลุ่ม “มุสลิมชีอะห์” แตกต่างจากชาวเยเมนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็น “มุสลิมสุหนี่” กลุ่มนี้ก่อความไม่สงบมาเป็นเวลาหลายปี จนถึงปัจจุบัน ปัญหาดังกล่าวก็ยังยืดเยื้อ
10. บุรุนดี
มีคะแนนความสุขอยู่ที่ 3.775
สาเหตุมาจาก “ความขัดแย้งทางชาติพันธุ์” ระหว่าง ชาวทุตซี ซึ่งแต่เดิมเป็นชนชั้นปกครอง กับชาวฮูตู ซึ่งเคยเป็นชนชั้นใต้ปกครอง และเป็นชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ซึ่งได้นำไปสู่ความรุนแรงในอดีตและยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเมืองภายในบุรุนดี และส่งผลเสียเป็นโดมิโน่
ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมือง และการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ระบบเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยประชากร 90 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ ทำเกษตรกรรม ถึงกระนั้น ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนทั้งประเทศ จึงยังต้องพึ่งความช่วยเหลือจากต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศ
สำหรับปี 2021 นี้ ประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลก 10 อันดับแรก คือ ซิมบับเว, แทนซาเนีย, จอร์แดน, อินเดีย, กัมพูชา, เบนิน, เมียนมา, นามิเบีย, อียิปต์ และเคนยา ตามลำดับ
ส่วนประเทศไทย ถูกจัดอันดับอยู่ที่ 54 ของประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก แต่มีความสุขมากกว่าญี่ปุ่น อันดับที่ 56 และเกาหลีใต้ อันดับที่ 62
ที่มาข้อมูล: กระทรวงการต่างประเทศ ประเทศไทย, Sanook, ประชาไท, The World Happiness Record
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เปิด 10 อันดับช่อง YouTube ของศิลปินที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลกปี 2022 – “BLACKPINK” อันดับ 1
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: 10 อันดับ YouTuber รวยที่สุดในโลกประจำปี 2022
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: 20 อันดับช่อง YouTube ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในไทยประจำปี 2022