คลิปเปิดเผยเบื้องหลังสุดหลอนของการ์ตูนเด็ก “เทเลทับบีส์ (Teletubbies)” ของชาวไทยและชาวต่างชาติกลับมาเป็นไวรัลบนโลก “TikTok” อีกครั้ง เพราะภาพที่เห็นบนจอทีวีกับเรื่องจริงนั้นช่างต่างกันลิบลับราวฟ้ากับเหว ชนิดที่ว่าใครได้รู้เรื่องจริงแล้วจะมองการ์ตูนดังเรื่องนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!
Teen Vogue
หากเพื่อน ๆ รู้จักการ์ตูนเด็ก “เทเลทับบีส์” บอกเลยว่าไม่เด็กแล้วนะ เพราะเป็นหนึ่งในการ์ตูนดังแห่งยุค 90 ที่ลูกเล็กเด็กแดงต้องรู้จักและเคยดูอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต และมีเนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน ซึ่งเล่าเรื่องราวของตัวละครหลัก 4 ตัว ได้แก่ “ทิงกี้วิงกี้ (Tinky-Winky)” เทเลทับบีส์ตัวสีม่วง, “ดิปซี่ (Dipsy)” เทเลทับบีส์สีเขียว, “ลาล่า (Laa-laa)” เทเลทับบีส์สีเหลือง และ “โพ (Po)” เทเลทับบีส์สีแดง ใช้ชีวิตประจำวันไปเรื่อย ๆ และในแต่ละวัน เทเลทับบีส์ทั้งสี่ก็จะได้รับชมเรื่องราวของเพื่อน ๆ ในโลกภายนอกผ่านจอสี่เหลี่ยมบนพุงของกันและกันสลับวนไปไม่มีที่สิ้นสุด โดยที่ไม่เคยมีใครรู้ที่มาที่ไปของเทเลทับบีส์ทั้ง 4 ตัวนี้ว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? แล้วมาจากไหนกัน?
Yorkshire Live
จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว (2566) ได้มีชาวเน็ตต่างประเทศ เจ้าของบัญชี “TikTok” ชื่อว่า “TheScarecast” ได้ออกมาเผยทฤษฎีที่มาของการ์ตูน “เทเลทับบีส์” ที่น่าเชื่อถือมากที่สุดในบรรดาหลากหลายทฤษฎี โดยระบุว่า การ์ตูน “เทเลทับบีส์” นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของเด็ก 4 คน ที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช “La La Land” ในประเทศบัลแกเรีย ซึ่งรวมผู้คนที่แปลกแยกจากสังคม ไม่ว่าจะเพราะมีรูปร่างหน้าตา, ลักษณะนิสัย หรือมีความคิดผิดแผกจากคนในสังคมยุโรป (ซึ่งยุคนั้นยังเชื่อเรื่องไสยศาสตร์, มนตร์ดำ และแม่มด)
เด็กคนแรกหรือเทเลทับบีส์สีม่วง “ทิงกี้วิงกี้” เป็นเด็กผู้ชายตัวสูงใหญ่ มีลักษณะท่าทางตุ้งติ้งคล้ายผู้หญิง
YouTube/Chaddytubbies
เด็กคนที่สองหรือเทเลทับบีส์สีเขียว “ดิปซี่” เป็นเด็กผู้ชายผิวสีที่ป่วยเป็นโรคบูลิเมีย เมื่อกินอะไรเข้าไปก็จะอาเจียนออกมา
เด็กคนที่สามหรือเทเลทับบีส์สีเหลือง “ลาล่า” เป็นเด็กผู้หญิงที่มีหน้าตาแปลก ๆ กะโหลกบุบตอนเกิด และชอบยิ้มตลอดเวลา
Octo Pikmin
และเด็กคนที่สี่หรือเทเลทับบีส์สีแดง “โพ” เป็นเด็กผู้หญิงและยังเป็นผู้ป่วยจิตเวชที่อายุน้อยที่สุดในโรงพยาบาล นิสัยของเธอคือ เป็นคนเงียบ ๆ, มีโลกส่วนตัวสูง และชอบปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียว วันหนึ่งเธอแอบไปนอนใกล้กับถังเชื้อเพลิง ที่อยู่ดี ๆ ก็เกิดระเบิด ทำให้โดนไฟคลอกทั้งตัวจนเห็นแต่เนื้อสีแดง
EUobserver/ภาพประกอบบทความ: โรงพยาบาลจิตเวช
ชีวิตของเด็ก ๆ ทั้ง 4 คนนี้และคนอื่น ๆ ในโรงพยาบาลจิตเวช “La La Land” ดูเหมือนจะสะดวกสบาย แต่อันที่จริงแล้วพวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากราวกับคนคุก เพราะเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไม่ได้ใจดีกับเด็ก ๆ เหมือนกับโรงพยาบาลในปัจจุบันนี้ เมื่อพวกเขาทำผิดก็จะถูกลงโทษอย่างหนักทั้งทุบตีหรือแม้แต่ขังเดี่ยวในห้องมืดอันคับแคบ สิ่งเดียวที่ทำให้เด็ก ๆ มีความสุขก็คือ การได้ดูทีวี
StudioNow/ภาพประกอบบทความ
แต่แล้ววันหนึ่งทางโรงพยาบาลจิตเวชต้องการประหยัดงบประมาณ จึงตัดสินใจถอดทีวีที่มีอยู่หลายเครื่องออกทั้งหมด จะได้ไม่เปลืองค่าไฟ เด็ก ๆ เมื่อรู้ข่าวนี้ก็เลยวางแผนขโมยทีวีเก็บไว้ แต่ไม่รู้จะซ่อนไว้ที่ไหน เลยเลือกเด็ก 4 คน ซึ่งเป็นตัวแทนของเทเลทับบีส์แต่ละสีมาเป็นที่ซ่อน แน่นอนว่าเด็กทั้งสี่คนเสียชีวิตในระหว่างที่เพื่อน ๆ พยายามซ่อนทีวีไว้ในท้องของพวกเขา เพราะเชื่อว่าซ่อนไว้ที่นี่ต้องไม่มีใครหาเจอแน่นอน หลังจากเกิดเหตุการณ์อันสยดสยองนี้ขึ้นโรงพยาบาลจิตเวช “La La Land” ก็ถูกปิดตัวลงทันที
ที่มาข้อมูล: TikTok/The True Story behind Teletubbies และ Distractify
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: พ่อแม่อเมริกันห้ามลูกดู “เทเลทับบีส์ (Teletubbies)” เพราะมีฉากติดเรทมากเกินไป! (จริงดิ?!)
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: ชี้เป้าความปัง! พาส่อง 12 มีมเทเลทับบีส์ ฉบับสู้ชีวิตในที่ทำงาน จาก Netflix พร้อมพิกัดตามไปเซฟ!
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: “Lost in the Stars” สร้างจากเรื่องจริงของหญิงจีนถูกสามีผลักตกผาแต้ม กลายเป็นภาพยนตร์อาชญากรรมที่ทำเงินสูงสุดในประวัติศาสตร์จีน!
