จากกรณีของลุงขายโจ๊ก อายุ 78 ปี ที่มีชีวิตสุดรันทด จนโลกโซเชียลต่างช่วยกันบริจาคเงินไปให้ลุง และต่อมามีการจับผิดลุงในหลายๆ ประเด็น ตามที่รายงานไปแล้วก่อนหน้านี้ (อ่านข่าว : เรื่องราวของ ลุงขายโจ๊ก แท้จริงแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือไม่? หลังชาวเน็ตจับพิรุธได้ ลุงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย)
ล่าสุดผู้อำนวยการเขตราชเทวี เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ว่า ล่าสุดพบตัวลุงขายโจ๊กแล้ว ซึ่งลุงได้เดินทางกลับมายังที่พักในเวลา 5 ทุ่ม ตนและเจ้าหน้าที่ จึงเข้าไปพูดคุยสอบถามว่า ลุงหายไปไหนมา ได้รับคำตอบว่า ลุงเดินทางไปตรวจรักษาตาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าตั้งแต่เวลาตี 5 ด้วยการนั่งรถเมล์สาย 97 เพื่อไปลงท่าน้ำนนท์ แล้วต่อสองแถวไปโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า” ผู้อำนวยการเขตราชเทวี กล่าว
“ส่วนประเด็นที่มีคนสงสัยว่า เมื่อวานลุงขายโจ๊กไปหาหมอทำไม ทั้งๆ ที่หมอนัดหมายเดือนกันยายน ลุงตอบว่า อยากไปหาหมอ อยากไปคุย เพื่อที่จะได้รีบรักษา และลุงยืนยันว่าได้ไปจริงๆ” ผู้อำนวยการเขตราชเทวี กล่าว
เมื่อถามลุงว่า ไปโรงพยาบาลเสร็จแล้วไปไหนต่อ เพราะกลับมาดึกดื่นแล้ว ลุงตอบว่า ตอนบ่ายไปธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาวัดตึกมา โดยลุงเดินทางด้วยรถเมล์สาย 8 ซึ่งพอไปถึงธนาคาร เจ้าหน้าที่ธนาคารได้แจ้งว่า มีเงินในบัญชีของลุงประมาณ 7 หลัก เราจึงถามลุงว่า ลุงจะเอาเงินไปทำอะไร ลุงบอกว่า จะเอาไปรักษาตัว และเช่าบ้านพักอยู่ ผู้อำนวยการเขตราชเทวี กล่าวต่อ
ส่วนภาพวงจรปิดที่ลุงเดินขึ้นรถเก๋งสีขาวไปตอน 17.30 น. ในวันที่ 4 ส.ค.นั้น คือ ลุงขึ้นรถไปกับเพื่อนบ้านในละแวกนั้น เพื่อไปดูรถเข็นขายของคันใหม่ ลุงไปได้ประมาณ 20 นาที และวนกลับเข้ามาอีกซอยหนึ่งเพื่อกลับบ้าน โดยเจ้าหน้าที่เทศกิจของทางเขตฯ ได้เห็นว่าลุงกลับบ้านมานอนจริง และตื่นตี 4 ไปโรงพยาบาลในวันที่ 5 ส.ค.
ประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่า ลูกของลุงตายจากเหตุการณ์แพรวา 9 ศพจริงหรือ? น.ส.พิศมัย รักษาการผู้อำนวยการเขตราชเทวี กล่าวว่า ตนได้เจอกับญาติของลุงขายโจ๊ก ซึ่งหลานชาย(ลูกของพี่ชายลุง) หลานชายคนนี้ได้เล่าว่า ลูกของลุงขี่มอเตอร์ไซค์ชนประสานงากับมอเตอร์ไซค์ ซึ่งแพทย์จะผ่าตัด แต่ไม่มีญาติไปเซ็น จึงทำให้เสียชีวิต และเป็นศพไร้ญาติอยู่นาน ก่อนที่ลุงจะไปพบศพและนำศพลูกไปบำเพ็ญกุศล.
แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของลุงขายโจ๊กคนนี้ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่ทำให้เราได้มองเห็นน้ำใจและความช่วยเหลือของคนไทย จนทำให้ลุงวัยชราที่ชีวิตไม่เหลือใครแล้วคนนึงที่แทบไม่มีแม้ที่อยู่เป็นของตัวเอง ก็ได้มีโอกาสกลับมาเริ่มต้นตั้งตัวอีกครั้ง และไม่ต้องโดนเจ้าของที่มาไล่อีกต่อไปแล้วนะ เราขอให้ลุงโชคดีและใช้เงินที่ได้มาให้เกิดประโยชน์ต่อลุงมากที่สุด