โลกโซเชียลแห่แชร์ภาพก้อนเนื้องอกที่มาพร้อมกระจุกผม กระดูก เล็บ และฟัน และต่างเชื่อว่าหญิงสาวที่ถูกผ่าก้อนเนื้อชิ้นนี้ออกนั้นถูกทำคุณไสยใส่ แพทย์ผู้ผ่าตัดก้อนเนื้อเผย ไม่เกี่ยวกับไสยศาสตร์เลย แต่มันคือ โรคถุงน้ำรังไข่ หรือ “เดอร์มอยด์ซีสต์”
เมื่อวานนี้ (5 กันยายน 2564) “นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์เฟชบุ๊ก Arak Wongworachat หลังจากรับเคสผ่าตัดเนื้องอกในหญิงวัยรุ่นอายุ 17 ปี โดยระบุว่า ตะลึงเนื้องอกขนาดใหญ่ 12 เซนติเมตรในท้อง เมื่อผ่าก้อน กลับเจอเส้นผมเป็นกระจุก ไขมัน กระดูก เล็บ และฟัน
อย่างไรก็ตาม ระบุว่าหญิงสาวรายนี้ไม่ได้โดนคุณไสยอย่างแน่นอน เพราะก้อนที่เจอนี้จัดอยู่ในกลุ่มโรคถุงน้ำรังไข่ หรือ “เดอร์มอยด์ซีสต์” พร้อมกับเตือนผู้หญิงทุกคน หากปวดท้องก่อนมีประจำเดือนรุนแรงต้องพบแพทย์
จากกรณีผู้ป่วยหญิงรายนี้ นายแพทย์อารักษ์ ระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยหญิงอายุน้อยเพียง 17 ปี มีประวัติ ปวดถ่วงในท้องน้อยมาประมาณ 4 เดือน แต่จะปวดมากเป็นพิเศษตอนมีประจำเดือน ไม่คิดว่าตนเองผิดปกติอะไร คิดไปเองว่าปวดประจำเดือน เป็นปกติของผู้หญิง แต่ 2 วันก่อนมาโรงพยาบาล ระหว่างเดิน วิ่งเล่น รู้สึกปวดในท้องขึ้นมาทันทีทันใด ปวดบิด ๆ ตื้อ ๆ แล้วก็หายไป แต่พอตกค่ำอาการปวดรุนแรงขึ้น จนนอนไม่หลับ วันรุ่งขึ้นอาการปวดเหมือนทุเลาลงหลังกินยาพารา แต่พอตกค่ำอาการปวดรุนแรงขึ้นอีก รู้สึกเหมือนมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร กดเจ็บท้องน้อยบอกญาติที่บ้าน สงสัยว่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ จึงรีบพาไปห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลสิชล
แต่พอใช้เครื่องอัลตราซาวด์แบบมือถือมาตรวจ พบว่ามีก้อนในท้องขนาดใหญ่ สงสัยเบื้องต้นทันทีว่าน่าจะเป็นก้อนในรังไข่ ขั้วบิดพันกัน ใกล้แตก จึงรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช ให้ส่งผู้ป่วยเตรียมตัวพร้อมผ่าตัดทันที และรีบตัดเอาก้อนออกทันที ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 30 นาที ขณะที่เด็กสาวปลอดภัยดี
หลังจากมีภาพก้อนเนื้องอกดังกล่าวแชร์บนโลกออนไลน์จำนวนมาก เพจเฟซบุ๊ก ใกล้หมอจิ๋ม ได้ออกมาระบุข้อมูลของ “เดอร์มอยด์ซีสต์” ว่าคืออะไร? กับชาวเน็ตที่ล่ำลือไปต่าง ๆ นานา ว่าเด็กสาวโดนคุณไสย ซึ่งไม่เป็นความจริง
“เดอร์มอยด์ซีสต์” ถือเป็นโรคถุงน้ำรังไข่ หรือซีสต์รังไข่ ชนิดหนึ่ง เป็นโรคที่มีความผิดปกติของเซลล์ที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ มาอยู่ที่รังไข่ตั้งเเต่เเรกเกิด เเล้วมีการพัฒนา หรือถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยบางอย่าง ทำให้เจริญไปเป็นเซลล์ผิวหนัง เส้นผม ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน ฟัน หรือ กระดูกได้ ทั้งนี้เดอร์มอยด์ซีสต์สามารถพบได้หลายขนาด ตั้งแต่ 1-30 เซนติเมตร
สำหรับวิธีการรักษาต้องผ่าตัดเท่านั้น! ไม่มีการทานยา หรือฉีดยาใด ๆ ทั้งสิ้น และเเพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะระวัง ไม่ให้ซีสต์เเตก เนื่องจากหากมีเศษเล็ก ๆ หล่นลงไปในท้อง อาจเป็นซ้ำได้ โรคนี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่มะเร็ง ไม่ใช่เนื้องอกร้ายแรง และมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้น้อยมาก แต่ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งได้ 1 เปอร์เซ็นต์
ที่มาข้อมูล Facebook ของ Arak Wongworachat และใกล้หมอจิ๋ม และ ThaiPBS