สาวอเมริกันใจป้ำ! เปย์เงินซื้อสถาบันวิจัยที่ทำการทดลองในสัตว์แห่งหนึ่งในรัฐโอกลาโฮมา เพื่อช่วยชีวิตสุนัขบีเกิ้ล ก่อนเปลี่ยนเป็นศูนย์พักพิงสัตว์แห่งใหม่
การทดลองในสัตว์ยังคงเป็นที่นิยมในสถาบันวิจัยหลายแห่งในขณะนี้ แม้ว่าจะมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยเริ่มลุกฮือออกมาต่อต้านการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากการทดลองในสัตว์กันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสัตว์ที่ใช้ทดลองไม่ได้มีแค่หนูอย่างเดียว แต่ยังมีกระต่ายและสุนัข โดยสุนัขที่นิยมนำมาใช้ในการทดลองก็คือ “สุนัขพันธุ์บีเกิ้ล” ด้วยเหตุนี้ “แชนนอน คีธ (Shannon Keith)” สาวอเมริกันผู้รักสัตว์จึงได้ผุดโครงการ “Beagle Freedom Project” เพื่อช่วยเหลือสุนัขที่ถูกนำมาใช้เป็นสัตว์ทดลองทุกตัว ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีและหาบ้านหลังใหม่ให้น้อง ๆ ได้อยู่อย่างมีความสุขอย่างที่พวกน้องพึงจะได้รับ
ล่าสุด “แชนนอน คีธ” ได้ใจป้ำควักเงินในกระเป๋าตัวเอง เปย์ซื้อสถาบันวิจัย “Animal Health Innovations” จากชายชื่อว่า “จอห์น ไรเนอร์ (John Riner)” ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนาโกตา รัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สำเร็จอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ศูนย์วิจัยที่ทำการทดลองในสัตว์ได้ถูกปิดตัวลงเช่นเดียวกัน ก่อนเธอจะเปลี่ยนสถานที่ดังกล่าวให้กลายเป็นศูนย์พักพิงสัตว์ ชื่อว่า “Freedom Fields” ที่มีพื้นที่สนามหญ้ากว้างขวางเกือบ 80 ไร่
นอกจากนี้ ศูนย์พักพิงดังกล่าวยังอุปถัมภ์สัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการทดลองผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บและหมัด โดยสถาบันวิจัย “Animal Health Innovations” ไว้ในความดูแลด้วย มีทั้งแมวและหมู หากรวมกับสุนัขทั้งหมดที่ได้ช่วยเหลือมาจากห้องทดลองนี้ ก็ทำให้ศูนย์พักพิงสัตว์ “Freedom Fields” แห่งนี้ มีสัตว์ในความดูแลมากกว่า 200 ชีวิต!
อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือสุนัขบีเกิ้ลและสัตว์สายพันธุ์อื่น ๆ ให้รอดพ้นจากความทุกข์ทรมานจากการทดลองต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในตอนแรก เจ้าของศูนย์วิจัยที่ทำการทดลองผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็บและหมัดแห่งนี้ ไม่ยินยอมขายสถานที่นี้ให้กับ “แชนนอน คีธ” เพราะเป็นแหล่งทำมาหากินของเขา และสัตว์ทุกตัวก็ได้รับการดูแลตามอัตตภาพ ยกเว้นตัวไหนที่อายุมากจนไม่สามารถทำการทดลองซ้ำ ๆ ได้อีก หรือติดโรค ก็จะยกให้ “แชนนอน คีธ” และทีมของเธอดูแลต่อไป เพราะหากไม่มีใครรับดูแลสัตว์เหล่านี้ น้อง ๆ ก็จะต้องถูกการุณยฆาต เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในสัตว์ ซึ่งใจจริงของเจ้าของศูนย์วิจัยก็ไม่อยากจะทำนัก แต่ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและความต้องการใช้ยาป้องกันหรือกำจัดเห็บและหมัดนั้นลดลงมาก เนื่องจากคนไม่ต้องกักตัวอยู่บ้านเหมือนช่วงการแพร่ระบาดของโควิต-19 อีกต่อไป ส่งผลให้คนเลี้ยงสัตว์ลดลงตามไปด้วย ทางเจ้าของศูนย์วิจัยจึงตัดสินใจขายกิจการและที่ดินให้กับ “แชนนอน คีธ” แต่ด้วยปณิธานที่แน่วแน่ของเธอ ที่ต้องการช่วยเหลือสัตว์ในห้องทดลอง เธอจึงได้เสนอข้อตกลงใหม่ คือ จะซื้อแต่ที่ดินอย่างเดียว ด้วยเงินก้อนโต
สุดท้ายแล้วการเจรจาของเธอก็สำเร็จ ทำให้มีศูนย์พักพิงสัตว์แห่งใหม่เกิดขึ้น และสุนัขบีเกิ้ลทั้งหมดจะได้รับการฝึกฝนให้มีระเบียบและสามารถเข้าสังคมหมาได้ จากนั้นจะทำการหาบ้านหลังสุดท้ายที่แสนอบอุ่นให้กับน้อง ๆ ต่อไป
ที่มาข้อมูล: The Washington Post
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพน้องหมาไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)” แอบหนีเที่ยวนอกบ้าน แต่พอถูกแม่จับได้ กลับทำหน้าเซ็งสุดขีดจนกลายเป็นไวรัล!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ภาพความน่ารักของน้องหมา “โกลเด้นเด็ก” ที่คอยอยู่เคียงข้างและสร้างความสดใสให้กับ “ลุงโกลเด้น” ผู้พิการทางสายตา
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: โลกโซเชียลจีนเดือด! สุนัขลาบราดอร์ถูกขายเป็นอาหาร เพราะอ้วนเกินไป โชคดีมีคนใจบุญช่วยไว้ได้ทัน