เพื่อน ๆ เคยสงสัยมั้ยว่า… เวลา “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Man Utd) VS ลิเวอร์พูล (Liverpool)” ทีไร ทำไมต้องเรียกว่า “ศึกแดงเดือด” ทุกที? แล้วทำไมต้องเป็น 2 สโมสรฟุตบอลอังกฤษชื่อดังนี้เท่านั้น มีที่มาจากอะไรกันนะ? The Joi ไม่รอช้ารีบไปเฟ้นหาคำตอบมาฝากทุกคน ด้วยคำอธิบายที่เข้าใจง่ายที่สุด ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นแฟนฟุตบอลหรือไม่ อ่านแล้วเก็ทเลยแน่นอน!
เริ่มที่ชื่อ “ศึกแดงเดือด” ที่เป็นภาษาไทยก่อน พบว่า ปรากฏขึ้นครั้งแรกประมาณปี 2534-2535 โดยนักข่าวสายกีฬา ชื่อว่า “ศิริ อัครลาภ” ปัจจุบันคือ “กิตติกร อุดมผล” ชื่อเล่นว่า “กบ” เป็นผู้เขียนและเรียกชื่อนัดการแข่งขันฟุตบอลระหว่าง “แมนยู VS ลิเวอร์พูล”
ส่วนที่มาของ “ศึกแดงเดือด” คนรุ่นใหม่ในศตวรรษที่ 21 ตั้งแต่รุ่น “Gen Z” เป็นต้นไป อาจคิดว่า เป็นศึกความขัดแย้งระหว่าง 2 สโมสรฟุตบอลอังกฤษที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษ
แต่อันที่จริงแล้ว มาจากความไม่ลงรอยกันระหว่างคน 2 เมืองต่างหาก นั่นคือ “เมืองแมนเชสเตอร์” กับ “เมืองลิเวอร์พูล” ต่างหาก โดยสามารถแบ่งที่มาความขัดแย้งได้เป็น 4 ข้อใหญ่ ดังนี้
1. ปัญหาการแย่งงาน
ย้อนกลับไปในอดีตราวศตวรรษที่ 18 (พ.ศ. 1701-1800) “เมืองแมนเชสเตอร์” เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเทศมณฑลเกรเทอร์แมนเชสเตอร์ ตอนเหนือของประเทศอังกฤษ และไม่มีพื้นที่ติดทะเล ส่วน “เมืองลิเวอร์พูล” นั้นตั้งอยู่ในเทศมณฑลเมอร์ซีย์ไซด์ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นเมืองท่าติดทะเล โดยทั้ง 2 เมืองอยู่ห่างกันราว 50 กิโลเมตรกว่า
และช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมทั้งสองเมืองนี้เป็นคู่แข่งทางการค้า แน่นอนว่า “เมืองลิเวอร์พูล” มีชื่อเสียงมากกว่า “เมืองแมนเชสเตอร์” เพราะว่าจุดยุทธศาสตร์ทางภูมิศาสตร์ของเมืองที่มีทางออกสู่ทะเล ทำให้ค้าขายส่งออกได้สะดวกสบายและมากกว่า และผลพวงที่ตามมาคือ ที่เมืองท่า “ลิเวอร์พูล” แห่งนี้ มีงานมากพอสำหรับคนทั้งเมือง และชาวแมนเชสเตอร์ได้อพยพไปหางานทำที่เมืองนี้กันเป็นจำนวนมาก จนคนท้องถิ่นรู้สึกว่า “ชาวแมนเชสเตอร์” กำลังมาแย่งงานพวกเขา และเกิดการเหยียดกันไปมา เช่น เรียกชาวแมนเชสเตอร์ว่า “พวกใช้แรงงาน” หรือกล่าวหาว่า เป็น “ตัวปัญหา” ก็มีนะเพื่อน ๆ
2. การขุดลอกคลอง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การ “ขุดคลอดแมนเชสเตอร์ (Manchester Ship Canal)” เป็นส่วนหนึ่งของตำนาน “ศึกแดงเดือด” อย่างที่เพื่อน ๆ อ่านข้อแรก “เมืองแมนเชสเตอร์” ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่มีอยู่คลองหนึ่งที่ไหลผ่านลงมาที่เมืองนี้ และนั่นก็สปาร์กไอเดียให้เจ้าเมือง ทำการขุดลอกคลองดังกล่าว เพื่อหาทางออกสู่ทะเล
สุดท้ายพวกเขาก็ทำสำเร็จในปี พ.ศ. 2437 โดย “คลองแมนเชสเตอร์” นี้ จะพาชาวแมนเชสเตอร์และสินค้าของพวกเขาออกสู่ทะเลได้โดยไม่ต้องง้อ “เมืองลิเวอร์พูล” อีกต่อไป! และนับแต่นั้นเป็นต้นมา ความขัดแย้งของสองเมืองก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
3. แฟนบอล
จะไม่มีแฟนบอลมาเกี่ยวก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งสองเมืองนี้มีแฟนบอลที่จงรักภักดีอย่างเหนียวแน่นจำนวนมาก เรียกว่า “ทีมแมนยู” หรือ “ทีมลิเวอร์พูล” ไปแข่งที่ไหน ก็ยกเมืองไปเชียร์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งสองเมืองอยู่ห่างกันไม่กี่สิบกิโลเมตรเอง และเวลาที่นั่งในสนามเต็ม แฟนบอลของสองสโมสรก็จะมารวมตัวกันเชียร์นอกสนามบริเวณที่มีจอถ่ายทอดสดการแข่ง ซึ่งก็มีกระทบกระทั่งยกพวกตีกัน และบางครั้งก็ตีกันในสนามก็มี แต่สมัยนี้ไม่ค่อยพบเห็นมากนัก
4. ศึกโซเชียล
และในยุคโซเชียลมีเดีย “ความขัดแย้ง” ระหว่างสองสโมสรทีมฟุตบอล “แมนยู” และ “ลิเวอร์พูล” ได้ไปเกิดบนโลกออนไลน์แทนด้วย ไม่ว่าจะบนแพลตฟอร์ม “เฟซบุ๊ก (Facebook)” และ “ทวิตเตอร์ (Twitter)” ซึ่งแต่ละทีมฟุตบอลมีแฟนบอลติดตามกว่า 10 ล้านคนจากทั่วโลก แน่นอนว่า การพูดกระทั่งบนโซเชียลเกิดง่ายกว่าเห็นหน้ากันตรง ๆ เพราะเราไม่สามารถวัดความรู้สึก หรือได้ยินน้ำเสียงการพูด หรือโต้ตอบได้แบบเรียลไทม์ ใครที่เป็นแฟนบอลคู่นี้ก็คงได้เห็นศึกวิวาทะบนโซเชียลบ่อย ๆ หรือมีประสบการณ์ตรง และ “ศึกโซเชียล” ระหว่าง 2 ทีมฟุตบอลดังก็ส่งผลให้เรตติ้งการถ่ายทอดสดเกมการแข่งขัน “ศึกแดงเดือด” อยู่ในระดับดีมาก ถูกอกถูกใจสปอนเซอร์
แม้ว่า “ทีมแมนยู” และ “ทีมลิเวอร์พูล” จะเกิดการกระทบกระทั่งมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากที่อ่าน 4 ข้อข้างต้น แต่กีฬาก็คือ “กีฬา” นอกเกมการแข่งขัน แฟนบอลทั้งสองฝั่งก็รักกันดีนะเพื่อน ๆ ไม่บาดเลือดแค้น อาฆาตพยาบาทกันนะ
และในวันนี้ (12 กรกฎาคม 2565) ชาวไทยที่เป็นแฟนบอลของ “แมนยู” และ “ลิเวอร์พูล” ก็จะได้เห็นนักเตะของทีมลูกหนังสุดโปรดแบบตัวเป็น ๆ ในการแข่งขัน “THE MATCH Bangkok Century Cup 2022” ที่จัดขึ้น ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนใครที่ไม่ได้รับชมที่สนาม ก็สามารถรับชมการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ได้ 2 ช่องทาง คือที่ “โรงภาพยนตร์ SF” ใน 47 สาขา รวมกว่า 30,000 ที่นั่ง และ “AIS Play” โดย “AIS” สำหรับมือถือ (คลิกที่นี่) และเว็บไซต์ “AIS” (คลิกที่นี่)
ที่มาข้อมูล: Wikipedia, TrueID, Quora และ Bangkok Post
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เปิดวาร์ป 10 หวานใจนักฟุตบอลที่สวยที่สุดในใจแฟนบอลตลอดกาล
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เอาอีกแล้ว! ภรรยาของนักฟุตบอลดัง “มัตส์ ฮุมเมลส์” ถูกทุบหัวและปล้นทรัพย์สินที่ภูเก็ต
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “ฟาอิค โบลเกียห์” ดาวเตะรวยสุดในโลก! ใช้ชีวิตสุดสมถะ “ขับยาริส-เช่าคอนโดเดือนละ 6 พัน”