งานจบ แต่คนไม่จบ! กับงานเคาท์ดาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอย่าง “NEON Countdown 2022” ซึ่งปีที่ผ่านมา เขาขนขบวนมาจัดกันที่สวนสนุก “Wonder World Extreme Park” ณ กรุงเทพมหานคร ช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 2022-1 มกราคม 2023 The Joi บอกเลยว่า คุ้มค่ากับการรอคอยตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา เพราะหลังจากห่างหายไปนาน กลับมาอีกครั้งทั้งที ก็จัดเต็มคาราเบล จนต้องบอกเพื่อนว่า “ถ้าไม่มาถือว่าพลาดมาก!”
งานนี้มาพร้อมกับเวทีการแสดงทั้งเล็กและใหญ่, แสงสีเสียงสุดอลังการ, พื้นที่นั่งชิลล์สุดชิคที่มาพร้อมกับมุมถ่ายรูปสุดปัง และหากท้องร้องก็มีบูธอาหารนานาชาติทั้งคาวหวานให้เติมพลังก่อนออกไปมันกันต่อ
และที่สำคัญที่สุดคือ กองทัพดีเจระดับโลกนับสิบชีวิตที่ยกขบวนขนเพลงดังมาระเบิดความมันให้คอเพลง EDM ในงานได้เต้นและโยกกันแบบเต็มคาราเบลนาน 3 วัน 3 คืน!
และเพราะนี่คือ งานปาร์ตี้เคาท์ดาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ก็ทำให้ “NEON Countdown 2022” มีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วทุกมุมโลก! ตกวันละประมาณ 20,000 คนเชียวล่ะ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ไต้หวัน และฮ่องกง วันนี้ The Joi เลยจะขอพาเพื่อน ๆ มาชมรีวิวและบรรยากาศภายในงานตลอดทั้ง 3 วันกัน!
ก่อนจะเข้าไปสนุกในงาน แน่นอนว่าต้องซื้อบัตรเข้างานกันก่อนตามระเบียบ ซึ่งบัตรเข้างานรายวันนั้นขายหมดเร็วมาก! ส่วนบัตรเข้างานแบบเหมา 3 วันก็ขายหมดตามมาติด ๆ เช่นกัน
เมื่อถึงวันงานก็ต้องไปรับริสแบนด์เข้างานกันก่อน ความพิเศษคือเจ้าริสแบนด์นี้จะมีข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของบัตร และสามารถใช้เป็นกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล เพื่อนำไปซื้ออาหารและเครื่องดื่มภายในงานทั้งหมด ดังนั้นเพื่อน ๆ ต้องเก็บรักษายิ่งชีพกันเลยทีเดียว! (หากซื้อแบบเข้างานได้ทุกวัน)
สำหรับงานวันแรก (30 ธันวาคม 2565) บอกเลยว่า เหมือนผู้จัดงานเขาอัดอั้นตันใจที่ไม่ได้โชว์ของดีตลอดหลายปีที่งดจัดไป พอได้โอกาสก็จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ ยิงทั้งพลุยิงทั้งไฟแบบนอนสต็อป ส่วนไฮไลต์ของงานเริ่มต้นช่วงหัวค่ำเป็นต้นไป โดยมี “ราชินีเพลงเทคโน” ตัวแม่ตัวมัมอย่าง “Fatima Hajji” มาขึ้นโชว์
ก่อนความสนุกจะค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ด้วยดีเจอันดับ 60 ของโลก “Julian Jordan” และตามมาด้วย “Alan Walker” ที่ขนเพลงดังมามิกซ์แอนด์เพลย์ ทำให้เพื่อนชาวไทยและต่างชาติที่มาร่วมงานได้เต้นกันสะบัดและร้องกันให้สุดเสียง ก่อนปิดท้ายความมันแบบดุดันไม่เกรงใจใครด้วย “Afrojack” ดีเจชื่อดังที่ครองตำแหน่งดีเจอันดับ 10 ของโลก!
ส่วนวันที่สอง (31ธันวาคม 2565) The Joi บอกเลยว่า มันส่งท้ายปีจริง ๆ เพราะดีเจที่ขึ้นเล่นนั้นปังไม่ไหว ไล่ตั้งแต่ช่วงบ่ายเกือบเย็นก็เริ่มด้วย “Faahsai x Mastermind”, “Chukies & Whackboi”, “Restricted”, “Dimatik”, “Ben Nicky”, และ “Coone”
แต่มาพีคสุด ๆ ก็ช่วง “Lost Frequencies” ดีเจอันดับที่ 25 ของโลก และปิดท้ายวันนี้ด้วย “Dimitri Vegas & Like Mike” อดีตดีเจอันดับ 1 ของโลก ที่นอกจากจะมาเปิดเพลงสร้างความสนุกให้เพื่อน ๆ กันแบบสุดเหวี่ยงแล้ว ยังพาทุกคนนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ 2023 และทันทีที่สิ้นเสียงคำว่า “Happy New Year” พลุก็ถูกยิงขึ้นฟ้านับร้อยลูก เรียกว่าเป็นโชว์พลุเลยก็ว่าได้ ก่อนจะปิดท้ายวันที่สองอย่างสวยงามด้วยการแสดงของ “Vini Vici”
และวันสุดท้ายของ “NEON Countdown 2022” (1 มกราคม 2566) ก็มีดีเจตัวท็อปมาสร้างความบันเทิงตั้งแต่ช่วงเย็น ๆ และในจำนวนดีเจที่ขึ้นแสดงเมนสเตจวันนี้ มีดีเจสาวตัวท็อปของไทยอย่าง “PIXZY” ที่ตบเท้าขึ้นแสดงอีกด้วย งานนี้บอกเลยว่าความน่ารักฟุ้งกระจายล้นเวทีเลยทีเดียว!
ในระหว่างที่รอดีเจไฮไลต์ของวันอย่าง “Martin Garrix” ก็มีดีเจตัวท็อประดับนานาชาติรับไม้ต่อมาเล่นแบบบีทไม่มีดร็อป เรียกว่าเต้นกันแรงเท่าไหร่ก็ไม่มีสะดุดให้เสียอารมณ์ เช่น “Nervo” ดีเจคู่แฝดสาวสวยที่ได้มาร่วมมอบความสุขในงาน “NEON Countdown 2022” เป็นครั้งที่ 2 แล้ว และมี “Axwell” หนึ่งในสมาชิกของ “Swedish House Mafia” ที่มาเล่นในงานนี้ด้วย และ The Joi ขอบอกว่า เขามาเล่นที่ประเทศไทยที่เดียวนะเออ!
ก่อนจะปิดท้ายงาน “NEON Countdown” อย่างยิ่งใหญ่ด้วยศิลปินคนสุดท้ายและเป็นดาวเด่นของงานนี้ก็คือ “Martin Garrix” ดีเจตัวพ่อของวงการเพลง EDM ชาวดัตช์ ที่ขนเพลงฮิตและโปรดักชันส์แสงสีเสียง และวิดีโอประกอบการแสดงมาเองโดยเฉพาะ
แน่นอนว่า เขาไม่พลาดที่จะเล่นเพลงดังแจ้งเกิดของเขาอย่าง “In The Name of Love” และ “Scared To Be Lonely” ทำเอาทั้งงานร้องและเต้นอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จนดีเจหนุ่มเห็นแล้วต้องตื้นตันใจ
ก่อนปิดท้ายการแสดงด้วยพลุดอกไม้ไฟที่ยิงขึ้นฟ้านานเกือบ 10 นาที เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ 2023
โดยรวมแล้วงาน “NEON Countdown 2022” จัดได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับการรอคอยของแฟนเพลง EDM ทั่วโลกจริง ๆ และเป็นการรวมพลศิลปิน EDM แถวหน้าของโลกไว้มากที่สุดงานหนึ่ง
และหากถามว่าคุ้มมั้ย? ก็ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าบัตรและคุ้มค่าเวลาทุกนาที แถมภายในงานยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น อาหาร, เครื่องดื่ม, ที่จอดรถ และห้องน้ำที่เพียงพอต่อผู้เข้างานในแต่ละวัน
อีกทั้ง มีการรักษาความปลอดภัย และหน่วยพยาบาลที่เพียบพร้อม ทำให้นักท่องเที่ยวได้จอยกับงานแบบหายห่วง ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่
สำหรับใครที่พลาดมาร่วมงาน “NEON Countdown 2022” ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะปีหน้าเขายังจัดอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ความอลังการและความมันที่มากขึ้น! การันตีความปังของผู้จัดงาน ด้วยประสบการณ์การจัดมิวสิคเฟสติวัลกลางแจ้งมานานกว่า 7 ปี
แต่ครั้งหน้า “NEON Countdown 2023” จะไปจัดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่? เพื่อน ๆ ก็รอฟังข่าวกันไว้เลย! และเพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารนี้ ก็อย่าลืมกดติดตามโซเชียลมีเดียของ “NEON Countdown” บน Facebook หรือ Instagram ไว้ พร้อมกด “รับข่าวสาร” จากเว็บไซต์ของเรา หรือกดติดตาม The Joi บน Facebook และ Instagram เพื่อไม่ให้พลาดงานคอนเสิร์ตสนุก ๆ แบบนี้ในครั้งถัดไป!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ระเบิดความมันส์ส่งท้ายปี! กับงาน NEON Countdown ปาร์ตี้เคาท์ดาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ณ กรุงเทพมหานคร!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: งานมันส์ต้องจอย! 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดงาน “NEON Countdown” ปาร์ตี้เคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย!