“แอซเมห์ ดาวูด (Azmeh Dawood)” ญาติของสองพ่อลูกมหาเศรษฐีชาวปากีสถานที่เสียชีวิตในเรือดำน้ำไททัน ได้ออกมาเผยความจริงสุดเศร้าว่า หลานชายไม่เคยอยากร่วมทริปสำรวจซากเรือไททานิค (Titanic)
ทั่วโลกเศร้าเมื่อภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตจากเรือดำน้ำไททันล้มเหลว เพราะ “ไฟฟ์ ไททัน (Five Titan)” ซึ่งหมายถึงผู้โดยสารทั้ง 5 คน ได้แก่ “ฮามิช ฮาร์ดิ่ง (Hamish Harding)”, “สต็อกตัน รัช (Stockton Rush)”, “ชาห์ซาดา และซูเลมาน ดาวูด (Shahzada & Suleman Dawood)” และ “พอล-เฮนรี่ นาร์เจอเรต (Paul-Henri Nargeolet)” ได้เสียชีวิตบนเรือดำน้ำลำดังกล่าวทันที หลังเกิดการระเบิดแบบยุบตัว (Implosion) เพราะแรงดันน้ำมหาศาล ในระหว่างที่ทั้งหมดกำลังดำดิ่งสู่ก้นทะเลลึกกว่า 3.81 กิโลเมตร เพื่อชมซากเรือไททานิคที่นอนจมอยู่ก้นสมุทรมานาน 111 ปี เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุด “แอซเมห์ ดาวูด” ญาติของ “ชาห์ซาดา และซูเลมาน ดาวูด” สองพ่อลูกมหาเศรษฐีชาวปากีสถานที่เสียชีวิตในเรือดำน้ำไททัน ได้ออกมาเปิดเผยความจริงสุดเศร้าในรายการข่าว “NBC News” ในสหรัฐอเมริกา ด้วยการโฟนอินจากบ้านพักส่วนตัวในกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 ระบุว่า อันที่จริงแล้ว “ซูเลมาน ดาวูด” หลานชายวัย 19 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยในอังกฤษแห่งหนึ่ง ไม่เคยอยากร่วมทริปสำรวจซากเรือไททานิค แต่ที่ยอมลงไปด้วยก็เพราะต้องการทำให้พ่อของเขามีความสุข เนื่องในวันพ่อของสหรัฐฯ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา
“คิดแล้วก็ใจสลาย เพราะว่าหลานชาย (ซูเลมาน ดาวูด) และน้องชาย (ชาห์ซาดา ดาวูด) คนที่ฉันรักทั้งสองคนต้องขาดอากาศหายใจ มันต้องทรมานแค่ไหนก่อนสิ้นใจ ในตอนแรก “ซูเลมาน” บอกฉันว่า เขาไม่ได้อยากลงเรือดำน้ำลำนี้ และไม่ได้อยากไปดูซากเรือไททานิคกับพ่อเลย แต่ที่ยอมไปเพราะต้องการตามใจพ่อและทำให้เขามีความสุขในวันพ่อเท่านั้นเอง เพราะพ่อของเขามีความหลงใหลและสนใจศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเรือสำราญไททานิคที่อับปางลงเมื่อปี 2455 อย่างมาก”
ป้า “แอซเมห์ ดาวูด” ยังเผยกับรายการข่าว “NBC News” ทั้งน้ำตาด้วยว่า ระหว่างที่เธอรอฟังข่าวการค้นหาเรือดำน้ำ ก็ได้ภาวนาด้วยความหวังว่าปาฏิหาริย์จะมีจริง แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องเจอกับข่าวร้ายจาก “หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ (United States Coast Guard)” และแถลงการณ์ของบริษัท “OceanGate” ผู้ให้บริการชมซากเรือไททานิก ระบุว่า ทีมค้นหาพบซากชิ้นส่วนเรือดำน้ำไททันแล้ว และคาดว่าระเบิดแบบยุบตัวจากแรงดันน้ำ ส่งผลให้ผู้โดยสารทั้งหมด 5 คน เสียชีวิตและไม่แน่ใจว่าจะหาร่างของพวกเขาเจอหรือไม่
ด้านนักกฎหมายได้ออกมาให้ความเห็นกับสำนักข่าว “รอยเตอร์ (Reuters)” เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่พบซากเรือดำน้ำไททัน โดยระบุว่า ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท “OceanGate” เจ้าของเรือดำน้ำไททันได้ ถึงแม้ผู้โดยสารทุกคนได้เซ็นยินยอมรับความเสี่ยง รวมถึงโอกาสที่จะเสียชีวิตก่อนจะลงเรือไปผจญภัยใต้ทะเลลึกแล้วก็ตาม
ขณะที่ “แมทธิว ดี. แชฟเฟอร์ (Matthew Shaffer)” ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายเดินเรือ จากรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า “หากมีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการออกแบบหรือสร้างเรือลำนี้ ซึ่งถูกปกปิดไม่ให้ผู้โดยสารรู้ หรือมีการใช้งานทั้งที่รู้ดีว่า ไม่เหมาะสมที่จะดำน้ำ นั่นก็ขัดต่อการมีผลบังคับใช้ของการยินยอมสละสิทธิ์”
ที่มาข้อมูล: NBC News
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “เรเนต้า โรจาส (Renata Rojas)” หญิงเม็กซิกันเก็บเงินกว่า 30 ปี เพื่อขึ้นเรือดำน้ำไททันชมซากเรือไททานิค
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “เวนดี้ รัช (Wendy Rush)” ภรรยาซีอีโอ “OceanGate” คือเหลนของผู้โดยสารที่เสียชีวิตบนเรือไททานิค
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: อดีตผู้บัญชาการเรือดำน้ำอังกฤษคาดคนใน “เรือดำน้ำไททัน” เสียชีวิตหมดแล้ว