ตำรวจสมุทรปราการรวบตัวคนร้ายฆ่าสาวเปลือยวัย 27 ปี อย่างไว หลังหนีกบดานห้องเช่าย่านปทุมธานี พบประวัติเพิ่งพ้นโทษคดีข่มขืน เจ้าตัวอ้างถูกหยามความเป็นชาย ตำรวจไม่เชื่อคำสารภาพ นำตัวดำเนินคดีต่อไป
เหตุการณ์นี้เป็นข่าวสะเทือนขวัญสาวชาวไทยทั่วประเทศ โดยเฉพาะหญิงโสดที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา เมื่อมีผู้พบศพหญิงชาวหนองบัวลำภู วัย 27 ปี ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตเปลือยกายอยู่ภายในห้องพักของคอนโดแห่งหนึ่ง ริมถนนศรีนครินทร์ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อตรวจสอบภาพวงจรปิด สามารถจับภาพชายต้องสงสัยที่เดินออกจากห้องของผู้ตายเอาไว้ได้ รวมทั้ง รปภ. ประจำคอนโดดังกล่าว ยังจดจำใบหน้าชายต้องสงสัยได้ชัดเจน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสมุทรปราการ เมื่อตรวจสอบใบหน้าผู้ต้องสงสัยก็ทำให้ทราบว่า เป็นฝีมือของ “นายเอกพจน์ ครองยุติ” อายุ 33 ปี ชาวขอนแก่น เคยติดคุกมา 5 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ในข้อหาข่มขืนเมื่อเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา และไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่สน. บางนา โดยใช้มือบีบคอผู้เสียหายจนเกือบเสียชีวิต ก่อนลงมือชิงทรัพย์เป็นเงินและโทรศัพท์มือถือ
และจากการสอบสวนพยานรอบข้างและเก็บหลักฐานต่าง ๆ ในห้องที่เกิดเหตุคนร้ายฆ่าสาวเปลือยในคอนโดกรณีล่าสุด รวมทั้งผลการชันสูตร ก็พบว่า หญิงคนดังกล่าวถูกฆาตกรรมเสียชีวิต โดยการบีบคอเช่นเดียวกัน พนักงานสอบสวนจึงเร่งรวบรวมหลักฐานเข้าขอหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและลักทรัพย์
ก่อนตำรวจสมุทรปราการจะจับตัวคนร้ายที่หนีกบดานอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในย่านคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เมื่อบ่ายวานนี้ (5 กันยายน 2564) พร้อมของกลางเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่ก่อเหตุ และโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง ก่อนคุมตัวกลับมาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ พื้นที่เกิดเหตุ
“นายเอกพจน์” ผู้ก่อเหตุได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 4-5 วัน ได้ติดต่อกับผู้ตายทางทวิตเตอร์และมีการขอซื้อบริการ ในราคา 1,300 บาท โดยในวันที่เกิดเหตุช่วงประมาณตี 1 ของวันที่ 1 กันยายน 2564 ตนเดินทางไปหาผู้ตายที่ห้อง ซึ่งตนได้เสพยาไอซ์มาก่อนหน้าที่จะมาหาผู้ตาย และจังหวะที่กำลังร่วมหลับนอนกับผู้ตาย ได้เกิดการทะเลาะกัน ผู้ตายมาต่อว่าตนหาว่าอวัยวะเพศของตนเล็ก ทำอะไรก็ไม่เคยเสร็จ แถมสกปรก ด้วยความโมโหจึงใช้มือบีบคอผู้ตายจนแน่นิ่งไป คิดว่าแค่สลบและไม่รู้ว่าผู้ตายเสียชีวิต ก่อนที่จะหยิบเอามือถือผู้ตายและปลดสร้อยข้อมือของผู้ตายติดไม้ติดมือมาด้วย ก่อนจะหลบหนี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและลักทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มาข้อมูล PPTV และเดลินิวส์