ไม่ว่าจะอาชีพไหน ก็มีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันไป ไม่เว้นแม้กระทั่ง “พยาบาล” หลังหนุ่มคนหนึ่งใช้โซเชียลมีเดียแฉ! แอบใช้นิ้วคนไข้ที่ไม่ได้สติ สแกนแอปพลิเคชันในมือถือโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง ที่กลายเป็นเรื่องแดงหลังคนไข้ที่ตกเป็นเหยื่อเสียชีวิตแล้ว ด้านชาวเน็ตวิจารณ์กันให้แซ่ด
เรื่องราวฉาวคาววงการพยาบาล ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 3 กันายน 2564 ที่ผ่านมา โดยเพจเฟซบุ๊ก Yossavee Dacruz ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…
“ห้อง ICU โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง โจรหรือพยาบาลชัดเจนครับ ทางรพ. ไม่รู้เรื่อง ทางผู้ใหญ่ของรพ. รับเรื่องแล้วจะจัดการไล่ออก แล้วให้แจ้งความได้เลย ทางผมได้แจ้งความเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเจอกันคนแบบนี้ เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น คุณยังเป็นคนอยู่รึป่าว เงินส่วนนี้เขาจะเก็บไว้ให้ลูกชาย เขาเป็นโจรหรือพยาบาล คนไข้ติดโควิดจากรพ. คุณแท้ ๆ ยังตอกย้ำด้วยการทำเรื่องแบบนี้ เป็นพฤติกรรมที่เลวมากผมเอาเรื่องถึงที่สุดแน่ พ่อแฟนผมเสียไปแล้ว ผมไม่อยากเอาเรื่อง แต่พ่อแฟนผมคงไม่ยอมแน่นอน”
และหนุ่มที่โพสต์ ก็คือเจ้าทุกข์ที่เจอเหตุการณ์สุดช็อกนี้ โดยทราบภายหลังว่า นางพยาบาลกลายเป็นนางโจร หลังจากพ่อของแฟนเสียชีวิตแล้ว โดยนางพยาบาลได้เอามือถือพ่อมาเช็คแอปฯ ธนาคาร เพื่อจะโอนเงินคงเหลือในบัญชีของพ่อให้น้อง ซึ่งก่อนพ่อจะนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในบัญชีของพ่อมีเงินคงเหลืออยู่ 5,000 บาท แต่พอเปิดดูบัญชีบนมือถือหลังพ่อเสียชีวิตกลับพบว่าเหลือเงินอยู่ 1,500 บาท โดยถูกโอนไปยังบัญชีผู้ก่อเหตุ คือ นางพยาบาลชื่อว่า “นางสุฑามาส” โดยไม่มีการแจ้งใด ๆ สำหรับแอปพลิเคชันธนาคารของพ่อเป็นแบบสแกนนิ้ว แล้วใช้รหัสเดียวกันกับที่ใช้ปลดล็อกเครื่องได้
โอนครั้งแรกวันที่ 26 สิงหาคม 2564 เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 1,000 บาท ครั้งที่สองในวันที่ 27 สิงหาคม 2564 อีก 1,000 บาท และวันที่ 30 สิงหาคม 2564 โอนเงินจ่ายอะไรบางอย่างอีก 1,500 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตนอนไม่ได้สติและไม่มีทางกดโอนเงินเองได้อย่างแน่นอน จึงจับพิรุธได้ว่า ผู้ที่ก่อเหตุคือ พยาบาลที่ดูแลพ่ออย่างแน่นอน
ภาพประกอบบทความ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม หนุ่มเจ้าทุกข์รายนี้ไม่ได้ติดใจเอาความเรื่องเงินกับนางพยาบาล แต่จิตใจและนิสัยของพยาบาลที่ดูแลพ่อของตนผู้นี้ มันนิสัยโจรชัด ๆ จะปล่อยผ่านไม่ได้ เลยได้แจ้งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งแจ้งให้ทางโรงพยาบาลทราบเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้ไล่นางพยาบาลผู้ก่อเหตุออกแล้ว
ใครมีญาติพี่น้องที่ต้องแอดมิดโรงพยาบาล ต่อไปก็ต้องระมัดระวัง อย่าวางทรัพย์สินมีค่าให้คนแปลกหน้าเห็น แม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นเจ้าหน้าที่ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้ว่าโจรจะมาในคราบของอะไร
ที่มาข้อมูล Spring News
