“สุนัขจรจัด” แม้ว่าจะรักอิสระ แต่ถ้าเป็นไปได้น้องหมาเหล่านี้ก็อยากจะได้รับความรักและอยู่เคียงข้างมนุษย์ในบ้านอันแสนอบอุ่นอยู่เสมอ โดยไม่ได้สนใจว่าเจ้าของจะมีฐานะร่ำรวยหรือจน ขอให้ได้อยู่ด้วยกันตลอดไปก็มีความสุขที่สุดแล้ว ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดองค์กรการกุศล, กลุ่มพิทักษ์สัตว์ หรือแม้แต่กลุ่มคนรักสุนัขที่รวมตัวกันในชุมชนและบนโซเชียลมีเดีย ที่ผู้คนต่างรวมพลังกันเพื่อช่วยหาบ้านหลังใหม่และหลังสุดท้ายให้กับเจ้าเพื่อนตัวขน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ตลอดระยะเวลาหลายล้านปีที่ผ่านมา และหากตัวไหนถูกรับเลี้ยงก็จะเก็บความดีใจที่ปรากฏบนสีหน้าและท่าทางเอาไว้ไม่อยู่กันเลยทีเดียว และเมื่อนำภาพตอนรับเลี้ยงวันแรกมาเทียบกับหลังถูกรับเลี้ยงไม่กี่เดือนต่อมา ทุกคนก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของน้อง ๆ อย่างเห็นได้ชัดเลยเชียวล่ะ! ดังนั้น ในบทความนี้ The Joi เลยจะพาเพื่อน ๆ...
แม้ว่าจะมีคนรักสุนัขเยอะแยะมากมายอยู่ทั่วทุกมุมโลก แต่ปัญหาสุนัขจรจัดหรือถูกทอดทิ้งก็ยังคงเป็นปัญหาโลกแตกที่ใครหลายฝ่ายในแต่ละประเทศยังหาทางออกไม่ได้ ซ้ำร้ายปัญหาดังกล่าวกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูได้จากสถิติจำนวนสุนัขจรจัดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่เก็บรวบรวมข้อมูลโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยปีที่แล้ว (2023) พบว่ามีสุนัขจรจัดทั่วโลกมากกว่า 200 ล้านตัว ขณะที่ประเทศไทยมีจำนวนสุนัขจรจัดมากกว่า 2.6 ล้านตัว และจากตัวเลขหมาจรจัดทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยหลากหลายสาเหตุ ทำให้เกิดแคมเปญอย่าง “Adopt, Don’t Shop” หรือ “รับเลี้ยงแทนการซื้อ” โดยผู้ที่รักสัตว์...
หากเพื่อน ๆ เป็นคนรักสุนัขหรือทาสหมา ก็คงจะทราบดีว่า เพื่อนซี้สี่ขาที่อยู่เคียงข้างมนุษย์มายาวนานกว่า 3 หมื่นปี นั้นมีจำนวนหลายร้อยสายพันธุ์ ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่, ตัวเตี้ยและตัวสูง หรือขนสั้นและขนยาว แต่กว่าทุกคนในยุคนี้จะได้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่น่ารักนุ้บนิ้บ, สวยสง่า, แสบซ่า หรือดุดันไม่เกรงใจใคร พวกน้องได้ถูกพัฒนาสายพันธุ์ โดยนักพัฒนาสายพันธุ์ (Breeders) มานานกว่าร้อยปี! ที่มุ่งมั่นผลิตลูกหลานสุนัขที่สวยโดนใจและเหมาะกับจุดประสงค์ของการเลี้ยงสุนัข ๆ สายพันธุ์นั้น ๆ ของมนุษย์...