จากกรณีที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” สนับสนุนเงินในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ (G-Wallet) วงเงิน 1,000 บาท จำนวน 10 ล้านคน สำหรับใช้จ่ายตามร้านค้าถุงเงินที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนสิทธิมาตรการฯ “ชิมช้อปใช้” ครบตามจำนวนที่กำหนด 10 ล้านคนแล้ว วันนี้เราก็มีเรื่องราวดีๆจากหนุ่มผู้มีจิตใจที่งดงาม...
ในตอนกลางคืน หรือบริเวณทางที่มืดๆ ที่จริงแล้วยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงก็ยิ่งต้องขับรถอย่างปลอดภัย พยายามไม่เปิดกระจกอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะยังไง เพื่อความปลอดภัย และที่สำคัญต้องมีสติในทุกๆสถานณ์การณ์ด้วย สำหรับผู้หญิงที่มักจะขับรถในเวลาดึกๆคนเพียงลำพังก็ควรมีสิ่งของไว้ในรถเพื่อป้องกันตัวเอง อย่างเช่นในกรณีของสาวคนนี้ได้เจอ ที่แม้จะพูดกล่าวขอโทษต่อคู่กรณีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายนั้น ที่ซึ่งเป็นผู้ชายจะยังไม่ยอม และเข้ามาจู่โจมผู้หญิงทันที แบบไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเอาซะเลย เมื่อล่าสุดนี้เพจ ที่นี่..บางพลี ได้โพสต์คลิปโดยระบุข้อความว่า ” ผู้หญิงเขาขอโทษแล้วยังจะทำร้ายเขาอีก.. ฝากเจ้าหน้าที่ตามล่าชายในคลิปทำร้ายร่างกายโดยการชกหน้าผู้หญิงและยังทุบรถจนกระจกเสียหาย แถวซอยวัดศรีวารีน้อย ออกปากทางลาดกระบัง54 มันเป็นอะไรกันนักหนาหลายข่าวละ ยิ่งได้ยินคำพูดขอโทษยิ่งลงมือทำร้าย..” ซึ่งในคลิปจะเห็นว่า ชายสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ...
ชาวเน็ตโพสต์เตือนภัย มิจฉาชีพสาวสูงวัยในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน อ้างกระเป๋าโดนกรีดจนเหยื่อเห็นใจต้องแบ่งเงินเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน พบทำมานานแล้ว และไม่ใช่แค่พื้นที่นี้แค่ที่เดียว และพบว่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วเมื่อปี 2558 จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Atcharaphorn Bubpachat” ได้โพสต์เรื่องราวเตือนภัย ที่ตนเองได้เจอภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายหนึ่ง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นผู้โพสต์ได้ระบุว่า มีหญิงสูงวัยรายหนึ่งเดินเข้ามาพูดคุยกับตนเองให้ช่วยโทรศัพท์เข้ามือถือ แต่ปรากฎว่าโทรศัพท์ไม่อยู่ในกระเป๋า ประกอบกับตัวผู้โพสต์สังเกตเห็นว่ากระเป๋าของหญิงสูงวัยคล้ายโดนกรีด จึงได้สอบถามว่ากระเป๋าโดนกรีดหรือไม่ หญิงสูงวัยมีท่าทีตกใจและโอดว่าสิ่งของสำคัญสูญหายไปหมด ด้วยความสงสาร ผู้โพสต์จึงตัดสินใจยื่นเงินส่วนหนึ่งให้เพื่อเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน พร้อมกับประณามมิจฉาชีพที่กรีดกระเป๋า ด้วยความหวังดีตนจึงเข้าไปสอบถาม...
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า เช้านี้ไปตลาดกาฬสินธุ์หันไปเห็นนกกระจอก ดิ้นพล่านในถุงร้อนใสบนแผง จึงถามคนขายซึ่งเป็นคุณยายว่า นกในถุงเอามาทำไรกินหรือ ทำไมใส่ถุงแบบนี้ ทั้งนี้ ยายยิ้มพร้อมบอกว่าปล่อยเอาบุญหลานเอ๊ย ปล่อย นก, ปลา, หอย เอาบุญหมานๆๆ จึงถามกลับว่าทำไมใส่ถุงแบบนี้ล่ะ ยายไม่สงสารมันหรือ ทำไมยายไม่ทำบุญปล่อยเองบ้างล่ะ จึงถามว่ายายขายเท่าไร ยายบอกว่าถุงละ 100 ซึ่งในใจคิดว่า แพงมาก อย่างไรก็ตาม ยายก็บอกว่า นกช่วยคน คนช่วยนก...
สิงคโปร์และมาเลเซียมีการต่อสู้กันมานานหลายทศวรรษแล้ว ว่าใครนั้นเป็นเจ้าของ ของอาหารในบางชนิดและการต่อสู้นั้น ก็ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่จบสิ้น เมื่อมีเหตการณ์ใหม่เกิดขึ้นมา คราวนี้ชาวเน็ตมาเลเซียถึงกับหัวร้อนกันเป็นแถว เมื่อชายหนุ่มสิงคโปร์คนนี้ ได้ทวีตว่า ” เงาะเป็นผลไม้ของไทย ” นั่นแหละฮะ มันจึงกลายมาเป็นเรื่องดราม่าในโลกออนไลน์กันอยู่ในขณะนี้ เมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) กำลังเป็นกระแสดราม่าข้ามประเทศ หลังจากที่ เฮอร์ซี่ ซุลกิฟี อายุ 30 ปี นักแสดงตลกและยูทูบเบอร์ชาวสิงคโปร์ โพสต์รูปถ่ายลงทวิตเตอร์ เป็นภาพใช้ปากคาบเงาะ...
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ณัฐพงษ์ ศูนย์ปั้ง ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่ถ่ายกล้องวงจรปิดเผยคลิปเหตุการณ์หนุ่มข้างห้องมายืนแล้วทำทีคล้ายแอบฟังหรือแอบดูอยู่ที่หน้าห้องของผู้โพสต์ พร้อมระบุข้อความว่า “มันบอกว่าผมเข้าใจผิดว่ามันมาแอบฟังที่หน้าห้องผม คิดว่าผมเข้าใจผิดหรือป่าวครับ” คลิปเผยให้เห็นว่าหลังจากที่ผู้ชายคนดังกล่าวมายืนทำท่าทางหน้าสงสัยอยู่หน้าห้อง ผู้โพสต์ได้เดินเข้าไปหาพร้อมเตะก้านคอ ต่อย และศอกใส่ชายคนดังกล่าวหลายครั้ง แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ตอบโต้อะไรและยังคงยืนนิ่งอยู่นาน ก่อนจะเดินเซกลับไปเข้าห้องของตัวเองที่อยู่ริมบันได โดยในคลิปจะได้ยินเสียงผู้โพสต์คุยกับหญิงสูงวัยและผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้โพสต์บอกว่าตนเองขึ้นไปสูบบุหรี่และกลับมาเจอชายคนดังกล่าวอยู่หน้าห้อง ซึ่งชายคนดังกล่าวไม่ใช่คนติดยาและไม่ได้เมา เพราะถ้าเมาคงสลบไปแล้ว ไม่ปล่อยให้ตนเองตี แต่ตนถามแล้วชายคนดังกล่าวไม่ยอมรับ โดยหญิงสูงวัยได้เตือนให้ระวังเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้...
เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ถูกแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ ถึงความอันตรายของสายไฟและสายสัญญาณตามท้องถนนในเมืองไทยบ้านเรา ที่ไม่ได้ถูกจัดการอย่างเป็นระเบียบ จนวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ วานนี้ (18 ก.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Thanintorn Samart” ได้โพสต์ภาพเด็กหญิงที่มีรอยแผลเหวอะตรงบริเวณคอและตามลำตัว ซึ่งเกิดจากสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตข้างถนน ขาดและห้อยลงมาพาดขวางถนน จนเกิดอุบัติเหตุ สายเกี่ยวพันคอเด็กสาว เคราะห์ดีที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “องค์กรไหนเกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบด้วยสายสัญญาณขาดห้อยลงมาเกี่ยวคอลูกสาวผมที่เกิดเหตุซอยวัดใหม่บ้านสวนตรงครัวสรวิญย์” แต่ในเวลาต่อมา ผู้โพสต์ได้แก้ไขข้อความ อัปเดตถึงสถานการณ์ว่า บริษัทอินเตอร์เน็ตเจ้าของสายสัญญาณได้ติดต่อมาแสดงความรับผิดชอบเป็นที่เรียบร้อย และเด็กสาวก็ปลอดภัยแล้วเช่นเดียวกัน “อัพเดต 14.44 น....
ต้นทุนชีวิตของคนเรานั้นเกิดมาไม่เท่าเทียมกันจริงๆ บางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง ครอบครัวพ่อแม่บรรพบุรุษมีให้แล้วทุกอย่าง ก็คงไม่ต้องลำบากอะไรมาก ซึ่งต่างจากบางคนที่เกิดมาพร้อมกับความยากลำบากในชีวิต ไม่มีเงินทองอย่างใครเขาก็ต้องดิ้นรนสู้ชีวิต หาเล่ขายของเพื่อประทังชีวิตตัวเองไปวันๆ อย่าเช่นเรื่องราวที่เราจะมานำเสนอดังต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของคุณตาขายลูกชิ้น กับปลาหมึกแห้ง เพื่อประทังชีวิตตัวเองและครอบครัวเนื่องจากลูกชายของคุณตาเสียชีวิตไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว คุณตาขายอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนบัววัด อุบลราชธานี บางวันขายไม่ได้เลย ทำให้คุณตาต้องไปหากู้ยืมเงินจนเป็นหนี้นอกระบบ เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีสมาชิกเฟชบุ๊คชื่อ Saharat Yean ได้โพสต์เรื่องราวของคุณตาท่านหนึ่งทำอาชีพขายลูกชิ้นปิ้ง วันๆหนึ่งแทบไม่ได้ขาย...