กลายเป็นเรื่องราวดราม่าใหญ่โตต่อเนื่องยาวนานหลายวันเลยทีเดียว สำหรับกรณีดราม่ากระเป๋าแอร์เมส หลังสาวรายหนึ่งนำกระเป๋าไปขายให้กับร้านรับซื้อ-ขายแบรนด์เนมเจ้าดัง แต่เจ้าของร้านกลับบอกว่ากระเป๋าของเธอเป็นของปลอม อีกทั้งยังนำปากกามาขีดเขียนบนกระเป๋าว่า “ปลอม” และไม่ยอมส่งกระเป๋าคืน จนล่าสุดกระเป๋าใบนี้ได้รับการตรวจสอบจากสถาบันผู้เชี่ยวชาญในอเมริกา อย่าง bababebi ซึ่งผลตรวจออกมาว่าเป็นกระเป๋าแท้ ทำเอาเจ้าของร้านที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่า หากตรวจแล้วผลออกมาว่าเป็นของจริง ตนจะโอนเงินให้เจ้าของกระเป๋า 2 ล้านบาท พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “สรพงษ์” และจะเลิกเป็นสาวประเภทสองในทันทีถึงกับเงียบ ไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใด ๆ ผู้บริโภคหลายคนต่างพากันระแวง ว่าถ้าจะไปขายกระเป๋า หรือจะซื้อกระเป๋าสักใบ จะโดนร้านค้าทำแบบนี้หรือไม่ และจะได้กระเป๋าของแท้แน่นอนรึเปล่า...
จากกรณีดราม่าสาวชาวเชียงใหม่ ขายกระเป๋าแอร์เมส (Hermès) ให้กับร้านรับซื้อแบรนด์เนมร้านหนึ่งในราคา 395,000 บาท แต่เจ้าของร้านกลับบอกว่ากระเป๋าของเธอเป็นของปลอม อีกทั้งยังนำปากกามาขีดเขียนบนกระเป๋าว่า “ปลอม” และไม่ยอมส่งกระเป๋าคืน ต่อมาได้มีการส่งกระเป๋าที่เป็นประเด็นใบดังกล่าว ให้กับสถาบัน The Catch fake Brandname สถาบันสอนดูกระเป๋าแบรนด์เนมที่แรกของประเทศไทย เพื่อตรวจสอบว่าแท้หรือปลอม โดยเจ้าของร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้ประกาศว่า หากตรวจแล้วผลออกมาว่าเป็นของจริง ตนจะโอนเงินให้เจ้าของกระเป๋า 2 ล้านบาท พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “สรพงษ์” และจะเลิกเป็นสาวประเภทสองในทันที อย่างไรก็ตาม...
เรื่องราวที่เรากำลังนำเสนอนี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ หลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก Deesang Jirapa ออกมาเผยประสบการณ์ถูกแก๊งโจรทำร้ายและขโมยทรัพย์สินมีค่า ที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ใจความว่า ก่อนหน้านี้เธอและกลุ่มเพื่อนได้มาเที่ยวที่เมืองนี้ทุกปี ไม่เคยเกิดเหตุอะไรจนมากระทั่งรอบนี้ ปรากฏว่าถูกคนร้ายเป็นกลุ่มเดินตามประกบ และใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ก่อนจะปล้นชิงทรัพย์ไปกลางที่สาธารณะ แต่สังเกตว่าจะเลือกปล้นเฉพาะทรัพย์สินที่เป็นของแบรนด์เนม มีมูลค่าสูงเพียงเท่านั้น โดยหญิงสาวเปิดเผยว่า โดยปกติจะเดินทางมายังกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ทุกๆ ปี แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมากและไม่เคยเจอมาก่อน เหตุเกิดขึ้นหลังจากออกจากสถานบันเทิง และกำลังกลับที่พัก โดยเดินมาพร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน กระทั่งเดินใกล้จะถึงโรงแรม ก็มีผู้ชายแต่งชุดสีดำ...