ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวในเหตุการณ์นี้ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Boy Mongkonsawas ได้เขียนบันทึกเหตุการณ์ครั้งนึงในชีวิต 8-2-63 ณ Terminal 21 โคราช 17.30 น. เป็นเหตุการณ์ที่ครอบครัวต้องซ้อนตัวในห้าง เพื่อหลบคนร้าย เป็นนาทีชีวิตที่ต้องเผชิญ โดยระบุว่า “ได้ยินเสียงปืน และคนวิ่งหนีกันคนละทิศละทาง ผมและภรรยาเลยได้รีบพากันวิ่งเข้า รร.Anny talk เพราะลูกเรียนอยู่ แล้วพากันเข้ามาหลบ มีเด็ก 8 คน ผู้ใหญ่ 17...
นับว่านี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในวันที่คนร้ายก่อเหตุกราดยิงประชาชน ที่ จ.นครราชสีมา ก่อนจะเข้าไปหลบซ่อนตัวใน ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช ซึ่งภายในมีประชาชนที่ยังติดค้างและรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Ya ChaRiya” ได้โพสต์รูปภาพผ่านกลุ่มข่าวคนโคราชบ้านเอ็ง พร้อมระบุข้อความว่า “ในวันที่เรายังเศร้ากับความรู้สึก เพื่อนส่งรูปมาให้ เพื่อนไปเก็บร้าน เจอสิ่งนี้ กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้จริง ๆ ในวันที่เจ้าหน้าที่เขาช่วยเราออกมา เขายังไม่ลืมเรื่องศีลธรรม รักพวกคุณมากๆ เลย ขอบคุณจริงๆ” ล่าสุด...
วันนี้ 12 กุมภาพันธ์ ภาพถ่ายสุดซึ้งเหล่านี้ ถูกเปิดเผยขึ้นโดยผู้ใช้เฟชบุ๊คที่มีชื่อว่า Watchaparn Kraiphop ของสัตวแพทย์ท่านหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้โพสต์ภาพและข้อความอันน่าอบอุ่นใจ เมื่อมีคุณป้ารายหนึ่งพาสุนัขมาทำคลอด ซึ่งสุนัขตัวนี้ทำท่าจะคลอดตั้งแต่เช้า แต่จนค่ำก็ยังไม่คลอด ป้าจึงพามาหาหมอทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่มีเงิน งานนี้คุณหมอยินดีที่จะผ่าคลอดให้ โดยคุณป้าจ่ายเงินค่าทำคลอดมาให้ 2,000 บาท และจะมาจ่ายอีกทีให้ครบ 5,000 บาท ซึ่งคุณหมอระบุว่าไม่ซีเรียสเรื่องค่าใช้จ่าย แต่รู้สึกมีความสุขที่ได้ช่วย นอกจากนี้คุณหมอเองก็ยังโพสต์ภาพน่ารักๆที่แสดงให้เห็นถึงความผูกพันของคุณป้ากับสุนัขตัวนี้อีกด้วย...
จากกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา คนร้ายก่อเกตุกราดยิงใจกลางเมืองนครราชสีมา และหลบหนีเข้าไปในห้างเทอร์มินัล 21 โคราช ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ก็มีการแชร์ภาพและคลิปวิดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมาย โดยหนึ่งในคลิปที่ถูกพูดถึงคือนาทีที่เจ้าหน้าที่ยิงปะทะกับคนร้าย โดยมีเสียงของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการด้วยตัวเอง ว่า “เป้าหมายอยู่หลังเสา” นอกจากในคลิปจะได้เห็นการทำงานเสี่ยงอันตรายของเจ้าหน้าที่แล้ว สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นสะดุดตาชาวเน็ตคือ กล่อง “กล้วยตาก” ที่อยู่กลางวงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังยิงปืนต่อสู้กับคนร้าย ต่อมามีผู้ให้ความรู้ว่า...
เพื่อนเหยื่อจ่าปืนโหดอีกรายที่บุรีรัมย์ ยกย่องให้เป็นฮีโร่ ที่สระชีพดันประตูไม่ให้คนร้ายเข้าไปในห้องเย็น แล้วตัวเองไม่รอด โดยคนที่อยู่ในห้องเย็นอีก 8 คนหนีเอาชีวิตรอด หลังจากแชทกับเพื่อนจนวินาทีสุดท้าย วัน 10 ก.พ.63 บรรยากาศการจัดงานศพของนายอธิวัฒน์ พรมสุข อายุ 18 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 6 ต.หนองโดน อ.ลำปลายมาศ...
จากกรณี จ.ส.อ. อายุ 32 ปี ใช้อาวุธสงครามกราดยิงในพื้นที่โคราช จ.นครราชสีมา ก่อนเข้าไปก่อเหตุภายในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 นครราชสีมา ท้ายที่สุดคนร้ายได้ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 30 ราย บาดเจ็บอีก 58 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ล่าสุดในเฟซบุ๊กของผู้ใช้ชื่อ “Rattiya Peafen Says” หนึ่งในผู้ประสบเหตุในวันดังกล่าว โพสต์เล่านาทีชีวิต...
จากเหตุการณ์กราดยิงผู้ใช้เฟซบุ๊ก Yuwaret Oi เปิดเผยเรื่องเล่าจากเหตุการณ์กราดยิงภายในห้างเทอร์มินอล 21 ผ่านคำบอกเล่าของ คุณเตย์ ชายชาวสิงคโปร์ ที่รอดชีวิตมาได้หลังจากติดอยู่ในชั้น LG พร้อมกับลูกชายวัย 11 ขวบ โดยระบุว่า ผู้คนแตกตื่นกันมาก ตนกับลูกต้องหาที่ซ่อน บริเวณฟู้ดแลนด์ชั้นใต้ดิน กว้างเกินไป ไม่ค่อยมีที่ปลอดภัยให้ซ่อน จึงไปหลบแถวแผนกของสด ก่อนย้ายเข้าไปห้องซึ่งน่าจะเป็นห้องเก็บสินค้า และได้พบกับพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่งที่มีลูกสาวที่ยังเล็กมาก ตอนนั้นมีคนติดอยู่ด้วยกันประมาณ 10 คน ปิดไฟปิดประตูและพยายามอยู่กันอย่างเงียบที่สุด ทั้งหวาดกลัว หนาว อึดอัด...
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wirat Sawangarom โพสต์ภาพและเรื่องราวน่าประทับใจลงในเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หญิงรายหนึ่ง อยู่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศ แต่สวมใส่หน้ากากอนามัย และอุ้มเด็กทารกไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม ซึ่งเด็กทารกก็ถูกห่อมาในผ้าอย่างดี ข้างกายมีกระเป๋าอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ นั่งรอพบแพทย์อยู่ในโรงพยาบาล ผู้คนที่พบเห็นต่างก็คิดว่าเจ้าหน้าที่หญิงรายนี้พาลูกน้อยมาหาหมอ แต่แท้ที่จริงแล้ว เด็กทารกไม่ใช่ลูกของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด โดยข้อความจากเจ้าของโพสต์ระบุว่า… “ณ โรงพยาบาลราชบุรี มีผู้คุมหญิงคนหนึ่งนั่งอุ้มเด็กน้อย ประคับประคองดูแลใส่ใจเด็กน้อยที่อุ้มในมือ สักพักพี่คนข้างๆถามว่า ลูกเป็นอะไร เธอตอบว่า ลูกของนักโทษในเรือนจำไม่สบายพามาหาหมอ แม่ของเขาออกมาไม่ได้ แต่การประพฤติปฏิบัติของผู้คุมคนนี้ ดูแลเด็กน้อยด้วยใจ ไม่ใช่แค่ทำตามหน้าที่...
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kamonwan Angsumadisron โพสต์คลิปวิดีโอเล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอเสียโฉม หลังจากสั่งเครื่องดื่มค็อกเทลที่มีการจุดไฟเป็นส่วนประกอบมาดื่ม ซึ่งมีบาร์เทนเดอร์ของทางร้านมาทำให้ดูต่อหน้า ก่อนยื่นเสิร์ฟให้พร้อมบอกว่า “กระดกเลยนะ ไม่ต้องดูด” ก่อนที่เธอจะคว้ามายกหมดแก้ว แต่ไฟไหลมาที่ใบหน้า คาง และลำคอ จนลามไปไหม้ผมของเธอด้วย ซึ่งล่าสุดเจ้าของคลิปผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมเรียกร้องให้ทางร้านออกมาช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล ศัลยกรรมใบหน้า เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 5 ก.พ.63 นางสาวกมลวรรณ อังศุมาดิศร อายุ 22...
เมื่อวานนี้ได้มีการแชร์ภาพหน่วยกู้ภัย นำผู้หญิงรายหนึ่งและลูกน้อยไปส่งโรงพยาบาลอำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร โดยหญิงคนดังกล่าวมีสภาพสะบักสะบอมและมีร่องรอยฟกช้ำที่เบ้าตาและแผ่นหลัง และมึนงงคล้ายเป็นคนไม่มีสติสัมปชัญญะ พูดจาเหม่อลอยเป็นที่น่าเวทนา แก่ผู้พบเห็นยิ่งนักและยิ่งนำมาโพสต์ในโลกโซเชียล ต่อมามีรายงานว่า หญิงคนดังกล่าวอายุ 26 ปี ถูกสามีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บและไม่ได้สติ ซ้ำร้ายเป็นแม่ลูกอ่อน เพิ่งคลอดลูกน้อยได้ไม่นาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 ที่บ้านใน ต.ไฮหย่อง อ.พังโคน จ.สกลนคร หลังเกิดเหตุกู้ภัยนำตัวส่ง รพ.พังโคน ก่อนที่ญาติจะเข้าแจ้งความที่ สภ.พังโคน...