“KION (ไคออน)” ศิลปิน AI คนแรกจากค่าย “Higgsfield Records” กับดีลมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์ ที่อาจเปลี่ยนโลกบันเทิงไปตลอดกาล

Higgsfield
ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามาเขย่าวงการสร้างสรรค์ในทุกมิติ หนึ่งในก้าวกระโดดที่น่าจับตามองที่สุดของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ก็คือการเปิดตัว “KION” ศิลปิน AI คนแรก ที่ไม่ได้ร้องหรือเต้นในแบบดั้งเดิม แต่กลับกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการบันเทิง จากค่ายเพลง “Higgsfield Records” และยังเป็นค่ายเพลงแรกของโลกที่ดำเนินการโดย AI อย่างเต็มรูปแบบฃ

Higgsfield/KION
“KION” ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูงจาก “Higgsfield AI” ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพจากนครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ก่อตั้งโดย “อเล็กซ์ มาชราโบฟ (Alex Mashrabov)” อดีตหัวหน้าทีม AI ของ “Snap” โดย “KION” ไม่ได้มีเสียงร้องที่มนุษย์บันทึกไว้ และไม่มีนักแสดงเบื้องหลังเหมือนกับศิลปินเสมือนคนอื่น ๆ อย่าง “Plave” หรือ “Mave:” แต่เธอคือการจำลองทางดิจิทัลอย่างเต็มตัว ทั้งหน้าตา การเคลื่อนไหว ไปจนถึงตัวตนในโลกออนไลน์

Higgsfield
แม้ “KION” จะเพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่เธอกลับสามารถเซ็นสัญญากับแบรนด์ “Fendi” พร้อมดีลทางการตลาดรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,825 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดาสำหรับศิลปินหน้าใหม่ โดยเฉพาะเมื่อศิลปินคนนั้นไม่ได้มีตัวตนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

Higgsfield
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวศิลปิน AI คนแรกของค่าย “Higgsfield Records” ก็ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ใช่น้อย จากสโลแกนของทางค่ายที่ว่า “You don’t need talent anymore. Your face is enough.” หรือ “ไม่ต้องมีพรสวรรค์ แค่หน้าตาก็พอ” ซึ่งดูเหมือนจะลดทอนความสำคัญของพรสวรรค์ด้านดนตรีและศิลปะ ทั้งการร้อง การแต่งเพลง หรือการแสดงสด ซึ่งเป็นหัวใจของวัฒนธรรมป๊อปมาอย่างยาวนาน

Higgsfield
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ค่าย “Higgsfield Records” ก็ได้ออกมาอธิบายสโลแกนดังกล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายของค่ายไม่ใช่การแทนที่ศิลปินมนุษย์ แต่เพื่อ “ขยายโอกาส” โดยเปิดให้ใครก็ได้สามารถสมัครเข้าร่วมเป็น AI Idol คนต่อไปได้ง่ายๆ เพียงกรอกฟอร์มผ่านเว็บไซต์ของค่าย ซึ่งแนวคิดนี้สะท้อนความต้องการทำลายข้อจำกัดเดิมๆ ในการเข้าสู่วงการบันเทิง เช่น หน้าตา พื้นฐานชีวิต หรือแม้แต่ความสามารถ

Higgsfield
แม้ “KION” จะเป็นโปรเจกต์ที่น่าตื่นเต้น แต่หลายเสียงในวงการดนตรีกลับแสดงความกังวลว่าแนวทางของ “Higgsfield Records” อาจทำให้ “ความเป็นศิลปิน” ถูกลดทอนเหลือเพียงแค่ภาพลักษณ์ดิจิทัล สวนทางกับแนวทางของศิลปินเสมือนรุ่นพี่อย่าง “Plave”, “Eternity” หรือโปรเจกต์ของ “Timbaland (Stage Zero)” ที่ยังคงเน้นการมีส่วนร่วมของมนุษย์เบื้องหลัง
ในขณะที่ “Netflix” เองยังเลือกที่จะใช้เสียงจริงของนักร้องในโปรเจกต์ “K-Pop Demon Hunters” เพื่อสร้างความลึกซึ้งและความเชื่อมโยงระหว่างผู้ชมกับตัวละคร แต่ “Higgsfield Records” กลับเสนออนาคตที่อาจไม่มีศิลปินตัวจริงอีกต่อไป
ที่มาข้อมูล: Rolling Stone India
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: ผ่านมั้ย? Shueisha เปิดตัวนิตยสารกราเวียร์ฉบับใหม่ โดยใช้นางแบบที่ AI สร้างขึ้น?!
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: อินฟลูฯ สาวชาวอเมริกันสร้าง AI เสมือนตัวเองคุยกับหนุ่มขี้เหงา ทำรายได้เดือนละกว่า 100 ล้าน!
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: ส่องความน่ารักของ 6 อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง (Virtual Influencer) สัญชาติไทย ที่ปังปุไม่แพ้ต่างชาติ