การเกิดขึ้นของ “ChatGPT” โดย “OpenAI” ทำให้ “Google” ต้องพัฒนา “ChatGPT” ของตัวเองที่ชื่อว่า “Bard”
“ChatGPT” คือ “AI Chatbot” หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสื่อสารผ่านข้อความกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถเข้าใจสิ่งที่มนุษยค้นหา ซึ่งมีความซับซ้อนมากและให้คำตอบได้แบบละเอียดและแม่นยำ
โดยเจ้า “ChatGPT” นี้ พัฒนาขึ้นโดยบริษัท “OpenAI” เริ่มโด่งดังไปทั่วโลกแทบจะทันที หลังเปิดตัวให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เพราะสามารถหาคำตอบให้กับเราได้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งการเขียนสคริปต์การเรียนการสอน หรือเขียนเรียงความทำการบ้านให้เด็ก ๆ จนโรงเรียนในสหรัฐอเมริกาเริ่มแบนการใช้งานเจ้า “ChatGPT” นี้แล้ว
แน่นอนว่า เว็บไซต์ค้นหาข้อมูลยักษ์ใหญ่อย่าง “Google” ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะความเจ๋งของเจ้า “ChatGPT” โดย “OpenAI” จะทำให้ผู้ใช้งาน “Google” ลดลง ด้วยเหตุนี้เว็บไซต์ค้นหาข้อมูลยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของโลกอย่าง “Google” เลยประกาศจะเปิดให้ใช้งาน “ChatGPT” ของตัวเองที่ชื่อว่า “Bard” ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
สำหรับ “Bard” จะแตกต่างจาก “Google Search Engine” ตรงที่แสดงรายการลิงก์ เมื่อคุณค้นหาบางสิ่งบางอย่าง และหากมนุษย์พิมพ์คำถามที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น ให้ “Bard” เปรียบเทียบระหว่างภาพยนตร์สองเรื่อง หรือช่วยคุณวางแผนอาหารกลางวันตามสิ่งที่มีในตู้เย็นของเรา เป็นต้น “ChatGPT” ของ “Google” นี้ ก็สามารถให้คำตอบกับมนุษย์ได้
และท่ามกลางความกังวลของใครหลายคน โดยเฉพาะผู้ปกครองและคณาจารย์ที่กังวลว่า “Bard” จะขัดขวางพัฒนาการทางสมองของเด็ก ๆ วัยกำลังเรียน ทาง “ศุนทัร ปิจไช (Sundar Pichai)” CEO ของ “Alphabet” ได้กล่าวยืนยันการพัฒนา “ChatGPT” ของ “Google” ระบุว่า จะเป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงในด้านคุณภาพ, ความปลอดภัย และความสมเหตุสมผลของข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย
ที่มาข้อมูล: The Verge และ Open AI
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: L’Oréal (ลอรีอัล) โชว์เครื่องพิมพ์คิ้ว “Brow Magic” ช่วยผู้หญิงคิ้วเป๊ะแบบใหม่แบบสับได้ทุกทรง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: สานฝันต้าวคนขี้เกียจ! บริษัทญี่ปุ่นคิดค้นนวัตกรรมใหม่ “เครื่องซักมนุษย์” เปิดมิติใหม่ของการอาบน้ำ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: คนรักสัตว์ถูกใจสิ่งนี้! สัตวแพทย์มช. เปลี่ยนกระดูกสัตว์เลี้ยงเป็นอัญมณี