ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าทาง “ดิสนีย์” (Disney) ได้ทยอยปล่อยภาพยนตร์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฟกัสที่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดัง ไปจนถึงการดัดแปลงนำเอาภาพยนตร์แอนิเมชันสุดคลาสสิกมาทำเป็นเวอร์ชั่นคนแสดง และดูเหมือนว่าดิสนีย์จะยังคงคอนเซปต์ในการหยิบนำเรื่องราวจากภาพยนตร์ที่เคยประสบความสำเร็จมานำเสนอในรูปแบบใหม่ ๆ อยู่
อย่างเช่นก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน 2566 ที่ดิสนีย์ประกาศสร้างซีรีส์แอนิเมชันสำหรับเด็ก “Ariel” ซึ่งจะหยิบยกเอาเรื่องราวของ “แอเรียล” จากภาพยนตร์แอนิเมชันอันโด่งดัง “The Little Mermaid” มานำเสนอในรูปแบบใหม่ เช่นเดียวกันกับในเวอร์ชั่นคนแสดงที่ก่อนหน้านี้ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม แต่ในครั้งนี้ดิสนีย์จะหยิบนำเอาเรื่องราวของแอเรียลมานำเสนอในรูปแบบซีรีส์แอนิเมชันสำหรับเด็ก และฉายบน “Disney Junior”
โดยซีรีส์ Ariel ในฉบับการ์ตูนเด็กนี้จะนำเสนอเรื่องราวของแอเรียลในวัย 8 ขวบและการผจญภัยของเธอในแอตแลนติกาพร้อมกับผองเพื่อน มาพร้อมบทเพลงสำหรับเด็ก ๆ และเนื้อหาในบางส่วนที่ถูกปรับเปลี่ยนจากต้นฉบับ เพราะเวอร์ชั่นนี้ตัวละครวายร้ายอย่าง “เออร์ซูลา” จะกลายมาเป็นคุณป้าผู้ใจดีของแอเรียลเอง
แน่นอนว่าหลังจากตัวอย่างแรกถูกปล่อยออกมาในปีที่แล้ว ก็สร้างความฮือฮาให้กับบรรดาแฟนการ์ตูนเป็นอย่างมาก เพราะแอเรียลในเวอร์ชั่นนี้ดูเหมือนจะถูกสร้างโดยอ้างอิงจากสาว “ฮัลลี เบลีย์” (Halle Bailey) เพราะยังคงคอนเซปต์แอเรียลผิวดำ อีกทั้งยังเปลี่ยนสีผิวให้กับตัวละครตัวอื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากในเวอร์ชั่นต้นฉบับและในเวอร์ชั่นคนแสดง ไม่ว่าจะเป็นตัวละครเออร์ซูล่าหรือราชาไทรทัน
อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาทางดิสนีย์ก็ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่อย่างเป็นทางการของซีรีส์เรื่องดังกล่าวออกมาแล้ว พร้อมปักหมุดวันฉายวันแรกในวันที่ 27 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ใครที่อยากรับชมซีรีส์แอนิเมชันเรื่องดังกล่าว ก็สามารถรอรับชมได้พร้อมกัน Disney+
ที่มาข้อมูล: CBR
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เปิดประวัติ “ฮัลลี เบลีย์” (Halle Bailey) ผู้รับบทเจ้าหญิงแอเรียลใน The Little Mermaid ฉบับคนแสดง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “Halle Bailey” รู้ว่าทุกคนไม่ชอบที่เธอรับบทเป็น “Ariel” ใน “The Little Mermaid” เพราะเป็นคนดำ แต่ชาวเน็ตมองว่าไม่ตรงกับตัวการ์ตูนต้นฉบับมากกว่า
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “Rachel Zegler” ผู้รับบทสโนว์ไวท์ โพสต์ปกป้องแอเรียลเวอร์ชั่น “Halle Bailey”