กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มักจะได้ลิ้มลองอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มแปลกใหม่จากหลากหลายแบรนด์ทั้งของไทยและต่างประเทศอยู่เสมอ มีทั้งที่ฮิตติดลมบนขายอยู่จนถึงทุกวันนี้ และก็มีไม่ใช่น้อยที่ไม่ได้รับการตอบรับดีเท่าที่ควร ต้องล้มหายตายจากไป
วันนี้ The Joi เลยจะพาทุกคนไปย้อนดูร้านอาหาร ร้านขนม และร้านเครื่องดื่มที่ฮิตเร็ว ปิดไว เพราะนิสัยคนไทยที่ “เห่อง่าย เบื่อเร็ว” จนเราแทบไม่รู้ตัวว่าร้านเหล่านี้ปิดกิจการไปแล้วด้วยซ้ำ!
1. โรตีบอย (Rotiboy)
เมื่อพูดถึงร้านขนมที่ปิดไว ไปไว ทุกคนต้องนึกถึงร้าน “โรตีบอย (Rotiboy)” กันอย่างแน่นอน เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อปี 2541 ที่จังหวัดปีนัง ประเทศมาเลเซีย จำหน่ายขนมปังก้อนกลม ๆ ที่โรยหน้าด้วยคาราเมลครีมกลิ่นกาแฟ แล้วนำไปเข้าเตาอบ ออกมาเป็นขนมปังอบที่มีกลิ่นหอมชวนกิน และมีรสชาติกรอบนอกนุ่มใน ตั้งสาขาแรกในไทยที่สยามสแควร์ซอย 4 ก่อนเปิดสาขาสีลม เซ็นทรัลลาดพร้าว และข้างบิ๊กซีรามคำแหง ตามมา เป็นขนมมาแรงแห่งปี 2549 จนเกิดเป็นกระแส “โรตีบอยฟีเวอร์” ผู้คนต่างยืนต่อแถวยาวรอเป็นชั่วโมง ๆ เพื่อชิมว่าอร่อยสมค่ำล่ำลือหรือไม่? แต่ดังอยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องปิดตัวทุกสาขาลงในปี 2550 สาเหตุก็มาจากนิสัยคนไทยที่มักเห่อเร็ว เบื่อง่าย
2. โนแบรนด์ (No Brand)
ร้านชานมไข่มุก NOBRAND (โนแบรนด์) เป็นร้านชานมไข่มุกที่ไม่มีหน้าร้าน เน้นการจัดส่งแบบเดลิเวอรีเป็นหลัก ด้วยคอนเซปต์ Quality Food. Made for Delivery. เปิดสาขาแรกที่สวนหลวงสแควร์ กรุงเทพฯ จนปัจจุบันขยายสาขามากมายหลากหลายพื้นที่ แต่ต้องอำลาทุกคนไปตลอดกาลทุกสาขาเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังเปิดมาได้กว่าครึ่งปีเท่านั้น เนื่องจากทนพิษสภาพเศรษฐกิจไม่ไหว ประกอบกับแบรนด์ชานมไข่มุกที่เกลื่อนตลาดเครื่องดื่ม และแข่งขันกันอย่างดุเดือด
3. ลาดูเร่ (Ladurée)
ร้านมาการองชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศสที่ติดอันดับท็อปในใจของคนทั่วโลกนี้ ก็มาฮิตในไทยเช่นกัน จนเกิดกระแสมาการองฟีเวอร์ ใครไม่เคยกินถือว่าเชย โดยร้านลาดูเร่ (Ladurée) แห่งแรกในเมืองไทย ตั้งอยู่บนชั้น M สยามพารากอน และกระแสนิยมมาการองลาดูเร่นี้เองก็ทำให้ร้านขนมหลายร้านหันมาทำขนมมาการองขาย หวังโกยรายได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม มาการองของลาดูเร่นั้นมีราคาแพง ทำให้คนเห่อซื้อกินแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น และก็เลิกนิยมไปในที่สุด จะมีซื้อให้บ้างตามโอกาสสำคัญ ๆ เช่น วันเกิด วันเฉลิมฉลองต่าง ๆ และในที่สุดก็ต้องปิดกิจการทุกสาขาในไทยในปลายเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมานี้เอง
4. ซานริโอ เฮลโล คิตตี้ เฮ้าส์ แบงค็อก (Sanrio Hello Kitty House Bangkok)
“Sanrio Hello Kitty House Bangkok” อาณาจักรเฮลโหลคิตตี้ แห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับลิขสิทธิ์จากบริษัท ซานริโอ ประเทศญี่ปุ่น ในคอนเซ็ปต์ร้านคาเฟ่ อาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าของที่ระลึกที่มีสัญลักษณ์แมวเหมียวคิตตี้สีชมพู 3 ชั้น ณ โครงการสยามสแควร์ วัน เรียกว่าเอาใจสาวกคิตตี้สุด ๆ โดยได้รับความนิยมอย่างมาก คนแห่แหนไปในช่วงแรกและต่อแถวยาวตลอด แต่สุดท้ายก็แพ้ทางนิสัยคนไทยที่เห่อง่าย หน่ายเร็ว ประกอบกับเมนูที่มีให้เลือกน้อย และไม่มีเมนูพิเศษออกมาแข่งกับคาเฟ่อื่น ๆ ก็ต้องปิดตัวลงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 หลังเปิดบริการมาได้ 5 ปี
5. หนองโพ Farm Table
ร้านที่อาหาร ขนม และเครื่องดื่ม โดยทุกจานทำมาจากวัตถุดิบจาก “นมสดหนองโพ จังหวัดราชบุรี” ซึ่งเป็นนมสดแท้ไม่ใช่นมสกิม (ผสมนมผง) ตกแต่งภายในด้วยบรรยากาศแบบฟาร์มตะวันตกกำแพงสีแดงอิฐดูอบอุ่น ได้รับความนิยมจากคนไทยที่หาพื้นที่ถ่ายรูปเช็คอินตามสมัยนิยม แต่คนไทยไม่ได้กินนมเป็นอาหารหลักเหมือนชาวตะวันตก ก็ทำให้กระแสนิยมร้านนี้ลดลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับที่ตั้งที่ไม่ค่อยมีที่จอดรถ ในที่สุดก็ต้องปิดกิจการในวันที่ 6 ธันวาคม 2559 หลังจากเปิดเมื่อเดือนกันยายน 2557
6. คอฟฟี่ บีน แอนด์ ทีลีฟ (The Coffee Bean & Tea Leaf)
ร้านคาเฟ่กาแฟสายเฮลท์ตี้ ที่เติบโตขยายสาขามาจากแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีเมนูกาแฟให้เลือกถึง 22 ชนิด เช่น ไอซ์ลาเต้ ไอซ์คาปูชิโน่ เอสเพรสโซ่ร้อน ฯลฯ และเมนูชาอีก 20 ชนิด โดยเฉพาะชา chai ที่เป็นจุดขาย นอกจากมีกาแฟและชาที่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังมีอาหารเพื่อสุขภาพมากมายให้เลือกกินหลากเมนู จับกระแสคนรักสุขภาพและกระแสชาเขียวที่มาแรงในช่วงเปิดตัวกิจการ แต่สุดท้ายความนิยมชาก็ลดลง เพราะคนไทยเลิกเห่อชาเขียวและราคาที่สูงพอสมควร และประกาศปิดตัวลงในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 หลังเปิดให้บริการมา 7 ปี
ที่มาข้อมูล ประชาชาติธุรกิจ, Sanook และ ryoiireview.com