สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าช้า ถึงช้ามาก เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน แม้แต่ญี่ปุ่นและเกาหลีเมื่อก่อนก็ล้าหลังกว่า แต่ปัจจุบันก้าวหน้าไปไกลมาก ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าประเทศไทยของเรามีชาวต่างชาติมากมายพากันมาเที่ยวและทำงานที่เมืองไทย โดยเฉพาะกลุ่มพวกฝรั่งที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยตั้งแต่อดีต ทำให้พวกเขาได้เห็นถึงลักษณะนิสัยของคนไทยบางอย่าง ที่คนไทยอย่างพวกเราบางครั้งก็ไม่รู้ตัว และลักษณะนิสัยคนไทยต่อไปนี้ เป็นลักษณะนิสัยคนไทยที่พวกฝรั่งสังเกตเห็น
1. แอบทิ้งเรี่ยราด
ถ้าใครเคยไปยุโรป จะเห็นได้ชัดเลยว่ามองไปตรงไหนก็สะอาดไปซะหมด แต่ผู้คนในประเทศไทยบางคนก็ยังไม่รู้วิธีดูแลประเทศของตัวเองและทิ้งทุกสิ่ง แม้ในซอกมุมเล็กๆ เพียงเพราะคิดว่าคงไม่มีใครเห็นหรอก หรือคิดว่าเดี๋ยวคงมีคนมาเก็บให้ ฮัลโหลลลล ก็เพราะคิดแบบนี้ทำแบบนี้ไง บ้านเมืองเราถึงไม่สะดาดสักที และบางพื้นที่ก็รกเต็มไปด้วยขยะริมถนนไปหมด หากเราช่วยกันใส่ใจในเรื่องเล็กๆแบบนี้กันสักนิด ก็คงจะดี เพราะฉนั้นหันมารักและดูแลประเทศเรากันเถอะนะ
2. ขับรถบนทางคนเดิน
อย่างเช่นญี่ปุ่นเป็นต้น ถนนคนเดินบ้านเขา ก็จะมีแค่คนเดินเท่านั้น จะไม่มีเลยแม้แต่รถมอไซค์หรือแม้กระทั่งรถจักรยาน แต่เมืองไทยบ้านเราทุกวันนี้ก็ยังมีพฤติกรรมแบบนี้กันอยู่ ตลอดแทบจะทุกที่และทุกเวลาเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าจะมีป้ายห้าม หรือมีกฎ แต่ก็ยังมีพฤติกรรมผิดๆแบบนี้ให้เห็นกันอยู่ดี บางครั้งยังมีอุบัติเหตุมอไซขับชนคนบนฟุตบาท ที่เป็นทางเดินของคน และอ้างด้วยคำว่า ก็ใช้ทางนี้เป็นประจำ เลิกเถอะ และขับตามถนนหนทางที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวคุณเองและผู้คนที่ใช้ฟุตบาทด้วยนะ
3. นิสัยมักง่ายบนท้องถนน เช่น จอดรถในเลนสำหรับขับรถ
นิสัยแบบนี้บอกเลยต่างชาติรับไม่ได้ แม้คนไทยก็เช่นกัน เป็นนิสัยที่เห็นแก่ตัวมากๆ เพราะนอกจากทำให้คนอื่นเดือดร้อนและยังอันตรายอีกด้วย การจอดซ้อนคันเอย อะไรเลย เพราะมีนิสัยแบบนี้บนท้องถนน จึงทำให้ประเทศไทยเป็นที่ๆรถติดมากๆ หากเรามีน้ำใจกันบนท้องถนนและทำตามกฎจราจรกัน ปัญหาเหล่านี้ก็จะลดลงไป และไม่เหลือในที่สุด
4.ค่านิยมการแข่งขันในหมู่เด็ก
จะเห็นว่าในยุคปัจจุบันเด็กและเยาวชนมีการแข่งขันกันมาก ไม่ว่าจะเป็นการสอบเข้า การแข่งขันในด้านต่าง ๆ แม้โดยภาพรวมจะมองว่าทำให้เด็กมีศักยภาพ เกิดความกระตือรือล้นในการศึกษาเล่าเรียน อนาคตจะได้บุคลากรที่มีคุณภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีข้อเสีย คือ ทำให้เด็กอยู่กับการเป็นที่หนึ่งจนมากเกินไป ทำให้เกิดความเครียด อยากเอาชนะ ส่งผลต่อภูมิต้านทานของจิตใจที่อ่อนแอ เพราะหากวันหนึ่งที่ไม่ได้เป็นที่หนึ่งแล้ว หรือสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ตนอยากเรียนได้ ก็มักจะผิดหวัง ทำร้ายตนเองก็มี ต้องมีการปรับปรุงในภาพรวมอย่างเป็นระบบ เช่น เน้นการแข่งขันให้น้อยลง ให้เด็กมีกิจกรรมเพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น ให้เกิดความเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น เพราะหากเด็กมัว แต่แข่งขันประกวดประชันกันแล้ว ความเป็นมิตรต่อผู้อื่นจะน้อยลงเพราะเขาจะมองว่าคน ๆ นั้นคือคู่แข่ง ต่อไปในอนาคตก็มีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ให้ได้มาซึ่งชัยชนะหรือความเป็นที่หนึ่ง เพราะเราจะเห็นได้จากข่าวสารว่า บางคนที่เรียนเก่ง เรียนมาระดับสูง มีความฉลาด กลับใช้ความฉลาดนั้นในทางที่ไม่ถูกต้องเพียงเพื่ออยากได้ผลประโยชน์เท่านั้น
5. คนไทยตรงเวลา (ตรงไหน?)
ในสหรัฐอเมริกาหากคุณตรงเวลาคือคุณมาสาย แต่ในประเทศไทยหากคุณมาช้าคุณจะตรงเวลา เพราะการเดินทางของฝรั่งเขากะเวลาง่ายกว่าเรา บ้านเมืองเขารถไม่ติดมากเท่าเมืองไทย แถมขนส่งมวลชนของเขาก็ตรงต่อเวลาและเชื่อถือได้ ฝรั่งจึงไม่มี “ข้ออ้าง” ให้มาสาย ไม่เหมือนคนไทยที่เราสามารถอ้างรถติดได้เสมอ (แม้ว่าจริงๆ แล้วเรามัวแต่อ้อยอิ่งทำอย่างอื่นมากกว่า) เพราะการที่เราไม่รักษาเวลา ปล่อยให้คนอื่นต้องนั่งรอ ก็เป็นการแสดงออกว่าเราขาดความเคารพต่อเขา และเมื่อ “ชีวิต” ก็คือ “เวลา” เจ็ดสิบกว่าปี ที่เราจะได้อยู่บนโลกใบนี้ การไม่รักษาเวลา ก็เหมือนเป็นการ “ฆ่า” คนอื่นดีๆ นี่เอง (แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวก็เถอะ) ถ้าเราไปตามเวลาไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยที่สุดเราควรจะโทร.บอกคนที่รอเราอยู่ว่า เราจะไปถึงประมาณเมื่อไหร่ เขาจะได้ตัดสินใจถูกว่าควรทำอะไรดี เพราะไม่มีอะไรน่าหงุดหงิดไปกว่าการได้ยินเพื่อนที่มาสายบอกว่า “ใกล้จะถึงแล้ว” แต่กลับปล่อยให้เรารอไปอีกเป็นชั่วโมงหรอกนะ
6. นับถือระบบอาวุโส
คนไทยให้เกียรติคนที่อายุมากกว่ามากเกินไป จนไม่กล้าทำอะไรที่เรียกว่าเป็นการข้ามหน้าข้ามตา บางครั้งคนที่อายุน้อยกว่าอาจจะมีความคิดความสามารถมากกว่า แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกเพราะเกรงใจคนที่อายุมาก เป็นการทำลายโอกาสของตัวเอง และโอกาสของบริษัทด้วยถ้าหากสมมุติว่าอยู่ในที่ทำงาน