การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ หลายคนอาจมองว่าค่อนข้างวุ่นวายและบางครั้งก็ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกโดดเดี่ยวได้เหมือนกัน ที่สำคัญค่าครองชีพในเมืองนั้นมีราคาแพงอีกต่างหาก แต่ถึงกระนั้น หลายคนก็ยังคงเลือกที่จะอยู่อาศัยในเมืองใหญ่ เนื่องจากมีสิ่งที่ดึงดูดมากมาย ทั้งศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลก, อาหารอร่อยที่ยากจะหากินในต่างจังหวัดได้ง่าย ๆ, มีความบันเทิงหลากหลายรูปแบบให้ไปสัมผัส และชีวิตกลางคืนที่ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมเมืองใหญ่ยังคงเป็นสถานที่ที่ใครหลายคนเลือกอยู่
Pexels/Kate Trysh: ภาพประกอบบทความ
และเมื่อเร็ว ๆ นี้ (15 มกราคม 2025) นิตยสาร “Time Out” ได้ออกมาเผยรายชื่อ 50 อันดับเมืองที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 โดยได้รวบรวมข้อมูลจากชาวเมืองมากกว่า 18,500 คนทั่วโลก ในแง่มุมของสิ่งที่พวกเขาคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ตั้งแต่เรื่องอาหาร, ชีวิตกลางคืน, วัฒนธรรม, ความสามารถในการเข้าถึงธรรมชาติ, ความปลอดภัย ไปจนถึงการคมนาคม
Teeranont P/ภาพประกอบบทความ: ไชน่าทาวน์ กรุงเทพฯ
ผลปรากฏว่า เมืองที่ดีที่สุดในโลกประจำปีนี้ คือ “เคปทาวน์” เมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้ รองลงมาคือ “กรุงเทพฯ” ของประเทศไทย และ “นิวยอร์ก” ของประเทศสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ
lemaret pierricks images/ภาพประกอบบทความ: ตลาดน้ำ กรุงเทพฯ
นอกจากนั้น นิตยสาร “Time Out” ได้เผยเหตุผลที่ “กรุงเทพฯ” ของไทย ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ โดยเฉพาะในด้านอาหารที่อร่อยและราคาไม่แพง, มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
Getty Images/piyaphun: ภาพประกอบบทความ “อาหารไทย”
แล้วจะมีเมืองไหนติด 50 อันดับเมืองที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 อีกบ้าง? เพื่อน ๆ สามารถเช็คดูได้ที่ด้านล่างนี้เลย!
1. เคปทาวน์ แอฟริกาใต้
2. กรุงเทพฯ ประเทศไทย
3. นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
4. เมลเบิร์น ออสเตรเลีย
5. ลอนดอน สหราชอาณาจักร
6. นิวออร์ลีนส์ สหรัฐอเมริกา
7. เม็กซิโกซิตี้ เม็กซิโก
8. ปอร์โต โปรตุเกส
9. เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
10. โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก
11. ชิคาโก สหรัฐอเมริกา
12. ลิสบอน โปรตุเกส
13. เอดินบะระ สหราชอาณาจักร
14. ฮ่องกง
15. ซิดนีย์ ออสเตรเลีย
16. อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์
17. บาร์เซโลนา สเปน
18. เซบียา สเปน
19. ปารีส ฝรั่งเศส
20. เมเดยิน โคลอมเบีย
21. ฮานอย เวียดนาม
22. มาดริด สเปน
23. เบอร์ลิน เยอรมนี
24. ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
25. สิงคโปร์
26. ริโอ เดอ จาเนโร บราซิล
27. ปักกิ่ง จีน
28. เชียงใหม่ ประเทศไทย
29. จาการ์ตา อินโดนีเซีย
30. เวียนนา ออสเตรีย
31. โตเกียว ญี่ปุ่น
32. มาร์ราเกช โมร็อกโก
33. เพิร์ธ ออสเตรเลีย
34. ไบรตัน สหราชอาณาจักร
35. ปราก สาธารณรัฐเช็ก
36. กลาสโกว์ สหราชอาณาจักร
37. บริสเบน ออสเตรเลีย
38. มาร์เซย์ ฝรั่งเศส
39. บูดาเปสต์ ฮังการี
40. ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา
41. ลากอส ไนจีเรีย
42. โซล เกาหลีใต้
43. บาเลนเซีย สเปน
44. มอนทรีออล แคนาดา
45. บิลเบา สเปน
46. อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
47. เบลฟาสต์ สหราชอาณาจักร
48. บริสตอล สหราชอาณาจักร
49. มุมไบ อินเดีย
50. วอร์ซอ โปแลนด์
การจัดอันดับเมืองที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 ของ “Time Out” ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เพื่อน ๆ ได้เห็นถึงความสำคัญของ “คุณภาพชีวิต” ที่เมืองหนึ่งสามารถมอบให้แก่ผู้ที่อาศัย แต่ยังทำให้ทุกคนได้รู้ว่า “กรุงเทพฯ” ไม่ได้มีดีแค่เป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ยังเป็นเมืองที่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยในระยะยาวอีกด้วย
สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะไปเที่ยวที่ไหนหรือย้ายไปเมืองไหนในปีนี้ The Joi ก็หวังว่าการจัดอันดับของ “Time Out” จะช่วยเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเลือกสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเพื่อน ๆ นะ!
ที่มาข้อมูล: Time Out
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เวลคั่ม! “กรุงเทพมหานคร” เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลกประจำปี 2024
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เผย 10 อันดับ YouTuber ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในไทยประจำปี 2024
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: รู้แล้วเจ็บจี๊ด! ผู้ชายไทยมีขนาดปิกาจู้สั้นที่สุดในโลก จากการสำรวจขนาดน้องชายของผู้ชายทั่วโลกประจำปี 2025 โดย “Data Pandas”
