การก้าวเป็น “สตาร์ทอัพยูนิคอร์น” ในชั่วข้ามคืนของสตาร์ทอัพบล็อกเชน “Bitkub” หลังมีการประกาศจากทางกลุ่ม “SCB X” เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ และถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของวงการสตาร์ทอัพไทยที่ไม่ว่าคุณจะใหม่และยังอ่อนวัยก็สามารถผงาดเป็นผู้นำทางธุรกิจได้ ไม่เกี่ยวกับว่าใครมาก่อนมาหลัง อย่างที่หลายคนเชื่อกัน
จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้หลายคนเกิดคำถามต่อมาว่า แล้วยังมีสตาร์ทอัพไทยใดอีกบ้าง? ที่มีศักยภาพมากพอจะก้าวขึ้นเป็น “สตาร์ทอัพยูนิคอร์น” ที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เป็นลำดับต่อไป ตามรอยรุ่นพี่อย่าง “Flash Express”, “Bitkub” และ “Ascend Money”
แล้ว The Joi ก็พบว่ามีทั้งหมด 5 สตาร์ทอัพที่ฉายแววรุ่งเป็นยูนิคอร์นมาติด ๆ ดังนี้…
1. SYNQA
“ซิงกะ (SYNQA)” เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 โดย “จุน ฮาเซกาวา” และ “อิศราดร หะริณสุต” เดิมใช้ชื่อ “Omise Holding” ก่อนเปลี่ยนมาเป็นชื่อปัจจุบัน เป็นบริษัทแม่ของ “Omise” และ “OMG Network” มีความเชี่ยวชาญด้านระบบรับชําระเงินออนไลน์ (Payment Gateway), เทคโนโลยีบล็อกเชนในฟินเทค และการนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในธุรกิจ (Digital Transformation)
ปัจจุบัน “Omise” มีฐานลูกค้ามากกว่า 5,000 ราย ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ SYNQA เพิ่มเติมได้ที่ www.synqa.co
2. Finnomena
“ฟินโนมีนา” เป็นบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน หรือให้บริการลงทุนใน “กองทุนรวม” โดดเด่นด้านความเป็นกลางในการลงทุน เนื่องจากไม่มีสังกัดในบริษัทหลักทรัพย์ ก่อตั้งโดย “เจษฎา สุขทิศ” ในปี 2558 ปัจจุบันมีเม็ดเงินในการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนมาแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท
3. Ookbee
“อุ๊คบี” เป็นแอปฯ ร้านหนังสือในรูปแบบดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวบรวมทั้งหนังสือ พ็อกเก็ตบุ๊ก นิตยสาร หนังสือพิมพ์ และอื่น ๆ อีกมากมาย มี “ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์” เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 ด้วยทุนจดทะเบียนทั้งหมด 277,663,070 บาท
ถือเป็นสตาร์ทอัพเจ้าแรก ๆ ในเมืองไทยที่เข้ามาจับธุรกิจอีบุ๊กและประสบความสำเร็จ จนกระทั่งสามารถก้าวขึ้นเป็นเจ้าตลาดและขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง
4. Band Protocol
“แบนด์ โปรโตคอล” เป็นสตาร์ทอัพคริปโตฯ 5 หมื่นล้าน ฝีมือคนไทยอายุ 28 ปี ชื่อว่า “สรวิศ ศรีนวกุล” ซึ่งก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นในปี 2560 และจดทะเบียนในสิงคโปร์
เป็นบริษัทผู้พัฒนาบล็อกเชนด้าน “Cross-chain Data Oracle” อันดับหนึ่งของเมืองไทย ทำหน้าที่นำข้อมูลจากโลกจริงเข้าสู่ระบบบล็อกเชน
5. LINEMAN x Wongnai
และสุดท้ายคือ “ไลน์แมน x วงใน” บริษัทผู้ให้บริการด้านเดลิเวอรี่และรีวิวอาหาร ที่เกิดจากการควบรวมกิจการครั้งสำคัญในปี 2563 ที่ผ่านมา ระหว่าง “Wongnai” แพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหารฐานผู้ใช้ 10 ล้านรายต่อเดือน และ “LINEMAN” แพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ที่มีฐานร้านอาหาร 4 แสนร้านทั่วประเทศ ปัจจุบันมี “ยอด ชินสุภัคกุล” ผู้ก่อตั้งวงในเป็นผู้กำหนดทิศทางหลัก
รู้จักสตาร์ทอัพดาวรุ่งพุ่งสู่ยูนิคอร์นกันแล้วทั้ง 5 แห่ง The Joi ก็หวังว่าทุกคนจะได้แรงบันดาลใจหรือไอเดียในการทำธุรกิจ หรือคิดจะลงทุนลงเงินในบริษัทใดบ้าง เพื่อได้ผลตอบแทนที่ดีงามในอนาคต เพราะแต่ละบริษัทต่างมีแนวทางในการบริหารงาน และสร้างการเติบโตที่แตกต่างกัน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: Bitkub ขึ้นแท่นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นรายที่ 2 ของไทย หลังปิดดีลกับ SCBS
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “วุ้นเส้น” ปลื้มหนักมาก! สื่อจีนเทียบความเก่งกับดาราฮอลลีวูดดัง อย่างริฮานนาและเจนนิเฟอร์ โลเปซ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ย้อนดู 6 ร้านขนมและเครื่องดื่มดังในกรุงเทพฯ ที่ “ฮิตเร็ว-ปิดไว” เพราะนิสัยคนไทยที่ “เห่อง่าย เบื่อเร็ว”
ที่มาข้อมูล The Standard, Finnomena, Techsauce และ Workpoint Today