เมื่อพูดถึงอาชีพ โคโยตี้ แล้ว เชื่อว่าหนุ่มๆหลายๆคนต้องรู้จักกันดี โคโยตี้ เป็นอาชีพที่คนมองไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะการเป็นโคโยตี้นั้นสาวๆต้องนุ่งน้อยห่มน้อยมาเต้นโชว์ ซึ่งในประเทศไทยเรานั้น วัฒนธรรมประเพณีนั้นแตกต่างจากต่างชาติ เพราะการแต่งตัวโป๊ นุ่งน้อยห่มน้อยมาโชว์นั้นดูไม่ดี ไม่งาม น่าเกลียด ผิดประเพณีทำให้เสื่อม แต่สำหรับหนุ่มๆหลายๆคนนั้นคงชอบที่เห็นสาวสวยๆมาเต้นโชว์ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนที่ชอบดูโคโยตี้จะมองพวกเขาในทางที่ดี เพราะการที่ผู้ชายส่วนใหญ่ที่ชอบนั้น เพราะคิดแต่ว่าพวกเขานั้นเป็นผู้หญิงหากิน ไม่ดี เอาตัวเข้าแลกเงิน ต่างๆนาๆ และการชอบของคนเหล่านั้นเพียงเพราะเขาแค่อยากได้ มองว่าแค่เอาเงินซื้อก็ได้ครอบครองร่างกายแล้ว ! หลายๆอย่าง เพราะเหตุผลของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป เหตุผลหลักๆก็คืออาชีพโคโยตี้นั้นได้เงินง่ายแถมเยอะอีกต่างหาก บางคนก็ให้เหตุผลว่า บ้านยากจน ติดหนี้บ้าง เรียนมาน้อยทางเลือกไม่มาก แต่เหตุผลบางเหตุผลก็เป็นความจริง บางเหตุผลก็ไม่จริง แต่การที่มาทำอาชีพนี้หลักๆก็คือได้เงินเยอะ ความจริงที่สุดก็คือ ทุกคนทำเพื่อเงินกันทั้งนั้นคือเหตุผลชัดเจน !!
วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับสาวๆ ที่เธอเปิดเผย เกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานในวงการอโคจรแบบนั้น เริ่มจาก สาวคนที่หนึ่ง
1. นางสาว A
ชีวิตตอนเด็กถูกกดดันต้องเป็นที่ 1 ตลอด !! ยอมรับเลยว่าตั้งแต่เด็กถูกกดดันจากแม่มากๆ ต้องเป็นที่ 1 ต้องดีเด่น เลิศ เพราะแม่จะคาดหวังกับเราสูง และด้วยฐานะที่ยากจน ใครก็อยากจะถีบตัวเองขึ้นมาจากจุดนั้นให้ได้ แต่เอาจริงๆ ส่วนตัวไม่ชอบการแข่งขันเลย เครียด เหนื่อยมากๆ ที่ต้องทำตัวให้เป็นที่ยอมรับ พอจบ ม.6 ความคิดที่อยากจะเรียนต่อก็แทบไม่เหลือเลย เพราะแม่บอกว่าไม่มีเงินส่งเสียแล้ว เท่านั้นแหละ เราก็คิดว่า แล้วจะเรียนเก่งเพื่ออะไรวะ?
ก้าวแรกสู่หาเงินด้วยตัวเองสุดท้ายเราก็ตัดสินใจเดินทางจาก ศรีสะเกษ มากู้เรียนต่อที่ ม.ราม แต่พอเริ่มขึ้นปี 2 ก็รู้สึกแล้วว่า ไม่ไหวแล้ว ไม่มีเงินใช้ อยากทำงานอย่างเดียว เลยหยุดเรียน แล้วออกมาทำงานเลย ด้วยความที่นิสัยเป็นคนตื่นสาย เลยรักงานสบาย แบบ…แค่สวยแล้วได้เงินไว แต่ไม่ใช่เอาตัวเข้าแลกกับผู้ชายนะ เพราะเรามีแฟนเป็นทอม ช่วงแรกเราก็ทำเป็นพีอาร์ ต้อนรับลูกค้า จากนั้นเสี่ยเจ้าของร้านก็มาเชียร์ให้ไปเป็นโคโยตี้เพราะได้เงินเยอะกว่า ต้องเต้น ต้องคุยกับผู้ชาย แถมต้องดื่มเหล้า ซึ่งเราทำไม่เป็นเลย แต่ก็ลองๆ ทำไปทำมาก็พอมีเงินเก็บ เราเลยเอาวะ!! เลือกทางนี้ ทำยังไงได้ ไม่มีใครช่วยเหลือเรา แล้วก็ยึดอาชีพโคโยตี้นี่แหละ เพราะมันได้เงินเยอะสุดแล้ว และที่ภูมิใจมากๆ ก็คือเราสามารถหาเงินจากตรงนี้ไปสร้างบ้านให้แม่อยู่ได้ โดยไม่อายว่าใครจะมองว่าเราเป็นโคโยตี้!! ไม่แคร์คำพูดคนอื่นขอแค่ให้ได้มีเงินส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวก็พอแล้ว
2. นางสาว B
เห็นรายได้งามๆแบบนี้ ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะง่ายเสมอไปนะคะ เพราะทุกคนก็ต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่ง เพราะส่วนมากคนจะมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่น่ายอมรับ ทั้งที่บางคนมีทักษะการเต้นโดยเฉพาะ และใช้เพียงแค่การเต้นเซ็กซี่เพื่อแลกเงินอย่างเดียวเท่านั้น และยังเสี่ยงต่อการตกเป็นนกน้อยในกรงทองได้ง่ายๆ แต่ที่ต้องเลือกทำอาชีพนี้ ก็เป็นเพราะเรียนมาน้อย ไม่มีความรู้และสกิลในงานด้วนอื่นเหมือนคนอื่นๆ บวกกับต้องเลี้ยงดูแม่ที่ป่วยอีกด้วย ทั้งบ้านก็ไม่มีใครแล้วนอกจากแม่ เราเป็นลูกสาวคนเดียวที่พ่อเสียไปตั้งแต่เด็กๆ จึงจำเป็นต้องเลือกเดินสายนี้ เพราะมันได้เงินง่ายและได้เยอะมากพอที่จะจุนเจือครอบครัว
3. แอนท์
เราเรียนจบปริญาตรีแล้วนะ ตัวเราถือว่ามีการศึกษาที่ดี เคยทำงานออฟฟิศมาก่อน แต่เงินเดือนก็ได้ไม่เยอะเท่าไร ไม่อยากให้ถามว่าสาเหตุเชิงลึกจริงๆเป็นมาอย่างไร แต่ก็อยากจะบอกว่าส่วนหนึ่งที่มาเป็นโคโยตี้ก็เพราะเป็นคนชอบที่เต้นด้วย มีใจรักในการเต้น ถามถึงรายได้ ก็พอได้ เยอะมากเหมือนกัน คำว่าเยอะเหมือนกันสำหรับแอนท์เป็นเรื่องธรรมดานะ แต่กับเพื่อนๆร่วมอาชีพโคโยตี้ต่างยอมรับว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ “รายได้ไม่ตายตัว แต่ละเดือนก็แล้วแต่” ทั้งนี้ การที่ต้องทำอาชีพนี้ก็เพื่อต้องการให้พ่อแม่อยู่กันอย่างสบาย ได้ใช้หนี้ให้แม่จนหมด ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่มีที่ซุกหัวนอนจนถึงทุกวันนี้ แอนท์กล่าว
4. โรส
มาทำอาชีพโคโยตี้ไม่ถึงกับภูมิใจที่จะตอบใครนะ แต่ก็ไม่ได้อาย โคโยตี้เป็นงานสุจริต ไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน คนอื่นไม่รู้ แต่สำหรับโรสจะเอาเงินที่ได้ทุกอาทิตย์มาหมุนใช้จ่าย เหลือก็เก็บไว้บ้างบางส่วน ถ้าเป็นเงินเดือนก็จะส่งให้ที่บ้าน แล้วก็แบ่งจ่ายเป็นค่าห้องพักของตัวเองอีกนิดหน่อย ถึงวันนี้ยังมีเงินเก็บไม่เยอะ มีแต่เงินหมุนใช้ไปเรื่อยๆ แต่โชคดีที่ยังไม่มีหนี้มีสินที่ไหน…ค่าครองชีพที่สูงขึ้นจะใช้จะจ่ายอะไรก็ต้องระวัง…คงไม่มีใครหนีความจริงข้อนี้ได้กันใช่ไหม? และนั่นก็เป็นเหตุผลที่โรสต้องมาทำงานอาชีพนี้ ก็เพราะต้นทุนไม่ใช่คนมีเงิน จึงจำเป็นต้องมาทำเพื่อหาเงินมาดำรงชีพในทุกๆวัน
5. นางสาว C
เพราะรายได้ง่ายๆเลยก็วันละพันกว่า หรือมากกว่านั้น ไม่จำกัดความรู้ ไม่ต้องมีประสบการณ์ใดๆ แค่น่าตาดี หุ่นดี ก็ทำได้ จะให้ไปทำงานกลางวัน เงินเดือนก็คงไม่พอที่จะต้องเอามาเลี้ยงดูลูกน้อย เพราะเรามีลูกและเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ในขณะที่หุ่นก็ยังดี ยังพอที่จะทำงานนี้ได้อยู่ เพราะอาชีพนี้มันทำให้เรามีเงินส่งเสียลูกเรียนหนังสือดีๆ ก็ต้องอดทนทำเพราะเราอยากให้ลูกได้มีอนาคตที่ดีกว่าเรา และไม่อยากให้ลูกไม่มีการศึกษาเหมือนเรา หากเราเลือกได้ เราก็คงไม่อยากทำหรอก สรุปสั้นๆ ที่ทำก็เพราะมันไม่เงินง่ายและเงินเยอะนั่นเอง
ท้ายที่สุดแล้วนั้น ไม่ว่าเราทุกคนจะทำอาชีพอะไร แต่จุดประสงค์ของทุกคนก็คงไม่ต่างกัน นั่นก็คือ ‘เงิน’