หนึ่งลุคสุดปังที่คนไทยทั้งประเทศประทับใจใน MV เพลง “LALISA” ของ “ลิซ่า BLACKPINK” จนฮิตแต่งตาม คือ ลุคของลิซ่าในชุดสไบทองจากแบรนด์ “ASAVA” พร้อมชฎา (ซึ่งต่อมามีผู้รู้ออกมาอธิบายว่า แท้จริงแล้วคือ รัดเกล้า) ฮิตขนาดที่ว่าทำเอาชฎา รัดเกล้า ในตลาดสำเพ็งขายหมดยกแผงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
แม้จะมีคนไทยที่ชื่นชอบและชื่นชมลุคนี้ เพราะเป็นการผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับแฟชั่นร่วมสมัยได้อย่างลงตัว แต่ก็ไม่วายโดนชาวเน็ตบางกลุ่มออกมาแอนตี้ มองว่าเป็นสิ่งที่ใหม่เหมาะสม เป็นการทำลายวัฒนธรรมอันดีงามของไทย จนเกิดการถกเถียงบนโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม “ลิซ่า” ไม่ใช่ศิลปินคนแรกที่เจอดราม่าสวมชฎาไทยจนตกเป็นเรื่องเม้าท์ของคนไทยให้แซ่ด เพราะก่อนหน้านี้มี 4 ศิลปินต่างชาติที่โดนดราม่าเรื่องเดียวกันเป๊ะ ๆ
1. ไมเคิล แจ็คสัน
ราชาเพลงป๊อบ “ไมเคิล แจ็คสัน (Michael Jackson)” เป็นศิลปินต่างชาติคนแรกที่เจอดราม่าเอาชฎามาเป็นเครื่องประดับประกอบในการถ่ายทำ MV ของตัวเอง อย่างเพลง “Black or White” แม้ว่าจะไม่ได้สวมใส่ชฎาบนศีรษะของตัวเอง แต่นางรำที่นำมาร่ายรำ นั้นแต่งกายชุดไทยจัดเต็ม สวมชฎาสวยกับที่ฟ้อนเล็บงาม
ทันทีที่ MV เพลงดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านโทรทัศน์เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2534 ก็เรียกเสียงฮือฮาจากคนทั้งโลก เพราะ MV ดังกล่าวนำเสนอสถานที่มีชื่อเสียงของแต่ละประเทศ และหนึ่งในนั้นก็คือ ประเทศไทย แต่ก็มิวายถูกวิจารณ์ถึงการแสดงที่ไม่ค่อยจะสุภาพนัก เพราะ “ไมเคิล แจ็คสัน” ดันไม่เดินเข้ามารำวงดี ๆ แต่กระโดดเข้ามากลางวงเลย แต่ถึงกระนั้น แฟนคลับชาวไทยหาได้แคร์ไม่ แถมยิ่งคลั่งไคล้ราชาเพลงป๊อบเจ้าของท่าลูบเป้านี้มากกว่าเดิมอีก!
ไมเคิล แจ็คสัน ศิลปินป๊อปชื่อดังเริ่มการแสดงคอนเสิร์ตรอบโลก “dangerous” ในช่วงทัวร์ภูมิภาคเอเชีย ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) กรุงเทพฯ ประเทศไทย
ซึ่งเขาเคยมาแสดงคอนเสิร์ตที่สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) กรุงเทพฯ ประเทศไทยด้วย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2536
2. มาดอนนา
ศิลปินต่างชาติคนต่อมาที่โดนดราม่าสวมชฎา คือราชินีเพลงป๊อบ “มาดอนนา (Madonna)” ที่สวมชฎาใน MV เพลง “Fever” เมื่อปี 2536 นอกจากสวมชฎาไม่พอ เธอยังมาพร้อมกับฟ้อนเล็บ ดูเก๋ไก๋และทันสมัยสุด ๆ ที่สำคัญ “มาดอนนา” ไม่ได้แค่สวมฟ้อนเล็บเป็นเครื่องประดับธรรมดา แต่เธอยังฟ้อนเล็บเข้าจังหวะกับเพลงแด๊นซ์นี้ด้วย สร้างความประทับใจให้กับชาวไทยที่เป็นบรรดาเอฟซีอย่างมาก แต่ก็มีผู้เห็นต่าง (หรืออาจจะหมั่นไส้เธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะไม่เรียบร้อยดังกุลสตรีในอุดมคติแบบที่สมัยก่อนนิยมกัน)
“มาดอนนา” เรียกว่าเป็นคู่เวรคู่กรรมกับกระทรวงวัฒนธรรมของไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เธอเคยจะมาจัดทัวร์คอนเสิร์ตที่เมืองไทย แต่ก็แพ้พ่ายกระทรวงวัฒนธรรมของไทย ที่ไม่อนุมัติให้โชว์เธอผ่าน เนื่องจากของโชว์ของเธอออกแนวโป๊เปลือย ล่อแหลม ดูอนาจาร (สำหรับคนสมัยก่อน) และมีการแตะต้องศาสนา
3. เลดี้ กาก้า
จากศิลปินต่างชาติรุ่นเดอะ ก็ถึงคราว “เลดี้ กาก้า (Lady Gaga)” ศิลปินเพลงป๊อบสุดติสท์ที่มากับลุคสุดจี๊ดแทบทุกงาน การสวมชฎาของเธอ เรียกว่าอาจสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อมาเปิดแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทย “Lady Gaga The Born This Way Ball” ณ ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อ 25 พฤษภาคม 2555 ขณะแสดงอยู่บนเวที ก็ดันเหลือบไปเห็นแฟนพันธุ์แท้ของตัวเองแต่งกายเลียนแบบตัวเองแต่มาในชุดไทยสวมชฎา จึงทักทาย ส่วนแฟนคลับก็ได้มอบชฎาให้ศิลปินดังสวม เรียกว่าทั้งสนามกีฬาฯ กรี๊ดด้วยความชอบใจสุด ๆ เป็นการหยิบยกเอาวัฒนธรรมไทยที่โดดเด่น มาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง
แต่หลังจากมีภาพถ่ายของ “เลดี้ กาก้า” กับชฎาปรากฎบนโซเชียล ก็มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เธอเป็นจำนวนมากว่าทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม และกลายเป็นวาระแห่งชาติไปเลย เมื่อกระทรวงวัฒนธรรมร่อนหนังสือจี้ตำรวจเอาผิดศิลปินสุดเฟียสผู้นี้! โดยระบุว่า “การสวมชฎาและนำธงชาติมาผูกติดกับท้ายรถจักรยานยนต์แล้วนั่งซ้อน ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนไทย พร้อมทำหนังสือให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร” สุดท้ายผลการสำรวจพบกว่า 99 เปอร์เซนต์ ไม่เห็นด้วยกับการที่จะเอาผิด “เลดี้กาก้า” การแจ้งจับจึงเป็นอันโมฆะไปโดยปริยาย
4. แครี่ ปามิว ปามิว
จากศิลปินต่างชาติตัวพ่อตัวแม่ในวงการเพลงตะวันตก มาดูฝั่งเอเชียกันบ้าง งานนี้ศิลปินสายแบ๊วจากญี่ปุ่น “แครี่ ปามิว ปามิว (Kyari Pamyu Pamyu)” เจองานงอกไม่รู้ตัว เพราะดัน “สวมชฎา” ชฎาขึ้นแสดงคอนเสิร์ตในไทย “KPP Nanda Collection World Tour 2014 in Bangkok” เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 จนเป็นดราม่าบนอินเทอร์เน็ต
โดยชาวเน็ตไทยต่างติงว่าไม่เหมาะสม มองว่าชฎาเป็นของสูง ไม่ควรนำมาใส่เล่น ๆ ขณะที่คนเห็นต่างอีกกลุ่มหนึ่งออกมาปกป้องนักร้องชาวญี่ปุ่นรายนี้ว่า การสวมชฎาไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่เลย แค่เอามาใส่เฉย ๆ ไม่ได้ลบหลู่ และที่สำคัญ “ชฎา” ก็เป็นเพียงเครื่องประดับศีรษะเท่านั้น ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์สูงส่งอย่างที่คนไทยบางคนพยายามยัดเยียดให้
และด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การเข้ามาของวัฒนธรรมต่างชาติในประเทศไทย ก็ทำให้คนไทยเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ ๆ รวมถึงกล้าที่จะประยุกต์วัฒธรรมไทยกับแฟชั่นตะวันตก หรือชาติอื่น ๆ รวมถึงยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม ไม่ใช่แค่เรื่องแฟชั่น แต่ยังรวมถึงสังคมและแนวความคิดด้วย
ที่มาข้อมูล โพสต์ทูเดย์, Sanook, Kapook, MThai
