แม่สามี และลูกสะไภ้ ปัญหาโลกแตกที่มักจะเจอกันในหลายๆคู่ เมื่อความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนแค่สองคน จนทำให้ต้องเลิกราจบความสัมพันธ์กันไป เพียงเพราะความไม่ปลื้มของครอบครัวของอีกฝ่าย อย่างเช่น 3 สาวเหล่านี้ ที่พวกเธอมาแชร์ถึงประสบการณ์ที่ต้องเผขิญกับปัญหาแม่สามีสุดปวดหัวว่าพวกเธอต้องเจอกับอะไรมาบ้าง
1. แม่ของเขามักจะเข้าข้างลูกชายตัวเอง ทั้งที่ลูกชายตัวเองเป็นฝ่ายผิด และโทษว่าเป็นความผิดเราอยู่เสมอ
สามีของเราเป็นลูกชายคนเล็ก เขามีพี่สาว 2 คน ซึ่งบ้านของพี่สาวทั้งสองจะแยกกันอยู่ แต่สามีของเราอยู่กับแม่ค่ะ ตั้งแต่ช่วงแรกๆของการแต่งงานของเรา แม่สามีมักจะควบคุมจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องการแต่งกายของเรา ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เราก็เป็นคนขี้ร้อน พอนางเห็นเราใส่ขาสั้นหน่อยๆก็มักจะพูดจาไม่ดีใส่เรา แม้กระทั่งเวลาไปออกทริปครอบครัวที่ทะเล เราใส่ชุดบิกินี่ริมหาด แม่สามีก็ว่าเราแต่งตัวไม่เหมาะ ไม่ดีงาม
แม่ของเขาจะออกแนวหัวโบราณ ปกติเรามีงานทำ ที่ต้องตื่นแต่เช้าทุกๆวันจันทร์-ศุกร์อยู่แล้ว จะได้นอนตื่นสายก็วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ แต่แล้วก็ถูกขัดโดยแม่สามี โดยให้เหตุผลว่าเป็นสะไภ้บ้านนี้ต้องตื่นแต่เช้า หลายๆครั้งก็มักจะพูดจาจิก พูดไม่ดีใส่เรา
ทุกครั้งที่สามีเราจะพาเราไปดินเนอร์นอกบ้าน นางก็มักจะไม่อนุญาติให้พวกเราไป ซึ่งมันทำให้เรายิ่งอยู่ก็ยิ่งอึดอัด สามีก็ไม่ยอมฟังหรือเข้าข้างเรา จนเรารู้สึกเหงา หลายครั้งที่ทะเลาะกันเพราะสามีเป็นฝ่ายผิด แต่แม่ของเขานางมักจะเข้าข้างลูกชายตัวเองเสมอ โดยไม่สนใจถึงความถูกต้องใดๆทั้งสิ้น จนทำให้วันหนึ่งเราทนไม่ไหวที่ต้องมาอยู่กับแม่สามีที่มีนิสัยแบบนี้ แล้วสามีก็เป็นลูกชายติดแม่อีก ครอบครัวของเราเลยต้องแตกแยกและหย่ากันในที่สุดค่ะ เราคิดว่ามันก็ดีแล้ว เพราะสามีไม่เคยปกป้องเราจากแม่ของเขาเลย
ส้ม- 31 ปี
2. แม่เขากีดกันผู้หญิงทุกคนเสมอ รวมทั้งเราด้วย
แฟนเราเป็นลูกชายคนแรก มีน้องสาวหนึ่งคน แม่เขาจะหวงมากๆ ด้วยความที่ตอนที่แม่คลอดเขา เธอคลอดเองด้วยวิธีตามธรรมชาติจนเธอเกือบตาย ทำให้เธอหวงลูกชายคนนี้มากเป็นพิเศษ แต่กับพี่สาวเขา เธอจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
ไม่ว่าลูกชายมีแฟนมากี่คน นางก็จะกีดกันผู้หญิงทุกคนเสมอ รวมทั้งเราด้วย แต่นางจะไม่พูดตรงๆนะ แต่จะแสดงออกให้เรารู้ เช่นเวลาเขาอยู่กับเรา นางก็จะโทรตามให้แฟนเรากลับไปหานางให้ได้ โดยอ้างสารพัดเหตุผล และแฟนเราก็ตามใจแม่มากๆด้วย
จนวันหนึ่ง แม่เขาไปดูดวงมา นางพูดกับลูกชายของนางต่อหน้าเราว่า “แม่ไปดูหมอดูมาแล้ว เขาบอกว่าแฟนลูกต้องเป็นสาวแหม่มนะ ถึงจะดี” ซึ่งเราที่นั่งอยู่ตรงนั้น ได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ รู้สึกชาไปหมด เพราะคนที่ลูกชายนางคบอยู่คือเรา นางไม่ควรพูดแบบนี้เลย
หลายๆครั้งนางมักจะพูดว่าอยากให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงในอุดมคติของนางเท่านั้น และพูดแบบนี้ต่อหน้าเราที่ซึ่งกำลังคบกับลูกชายของนางมาได้กว่า 2 ปีแล้ว ยิ่งอยู่ด้วยกันกับเขาเรายิ่งรู้สึกอึดอัดมากๆ เพราะแม่เขาไม่เคยทรีทเราดีๆเลย จะพูดดีก็แค่กับลูกชายตัวเอง พูดให้เรารู้สึกแย่และด้อยค่าเสมอ หลังจากนั้นเราก็ไม่ทนและเลิกกันไปในที่สุดก็เพราะแม่ของเขา
นิชา – 33 ปี
3. แม่ของเขาไม่ให้เขาคบกับเรา เพราะเราทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ
เขาเป็นลูกชายคนเดียวค่ะ เราคบกันจนกำลังจะได้แต่งงานกันอยู่แล้ว แต่ต้องมาเลิกกันซะก่อนเพราะแม่ของเขา วันที่พ่อแม่แฟนไปคุยกับพ่อแม่เราเรื่องแต่งงาน ทุกอย่างก็ดูปกติดีไม่มีอะไร แต่พอหลังจากนั้นไม่นาน แม่เขาบอกกับเขาว่า แต่งได้แต่ห้ามจดทะเบียน กลัวว่าอยู่ด้วยกันแล้วถ้าไปกันไม่ได้แล้วจะมีปัญหาเรื่องฟ้องหย่าและแบ่งสมบัติกัน บวกกับบ้านเขาค่อนข้างมีฐานะที่ดี แต่เราเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารค่ะ
เราไม่ได้คิดหวังอะไรจากเขาเลย และเขาก็ไม่เคยให้อะไรเราอยู่แล้ว เราทำงานใช้เงินตัวเองมาตลอด แต่ก็รักกันดีกับเขา แม้แต่ตอนคุยเรื่องแต่งงานสินสอดเราก็ไม่ได้ต้องการจากเขาเพราะแฟนเราเขาเป้นคนดีจริงๆ เพียงแค่แม่เขาเท่านั้นที่ไม่ดีกับเรา ปัญหาอื่นๆก็เข้ามาเรื่อยๆจนเราไม่ไหว แม่เขาบอกว่าจะคัดชื่อแฟนออกจากทะเบียนบ้าน จะไม่ให้ใช้นามสกุลด้วย แต่แฟนเราเขาก็ไม่ได้สนใจตรงนี้เท่าไร
จนวันนี้ แม่ของเขาไปดูดวงและบอกเขาว่า ถ้าเขาได้แต่งงานกันกับเรา พ่อของเขาจะมีอันเป็นไป ด้วยความที่เขารักครอบครัวมากๆ จนมันทำให้เขากลัวเราและเปลี่ยนไปเป็นคนละคนไปเลย หลังจากนั้นเราและแฟนก็ทะเลาะกันเรื่อยๆขี้น เพราะแม่เขาพยายามพูดให้เขาเลิกกับเราให้ได้ จนเราอึดอัด แน่นอนว่าความทนมันมีขีดจำกัด เราไม่มีความสุขเลย จนตัดสินใจว่าเราควรจบและไม่ขอไปต่อ เพราะคนของเราเขาไม่หนักแน่นในความสัมพันธ์ของเรามากพอ เราต้องเลิกกันทั้งๆที่เราก็ยังรักกันมาก แต่สุดท้ายเขาก็ต้องเลือกแม่เขาค่ะ
จอย – 29 ปี
เรื่องแบบนี้หากคนกลางดีและหนักแน่นมากพอ ปัญหานี้มันก็คงจะไม่เกิด หรือถ้าเกิดก็คงจะน้อยมากๆ ถ้าอีกฝ่ายยอมแพ้ต่อให้ฝืนไปคุณก็จะเหนื่อยเปล่าๆ เดินออกมาสวยๆแล้วเอาเวลาไปใช้ชีวิตที่เหลือ เพื่อรอคนที่เค้าพร้อมและมีเราได้อย่างภาคภูมิใจจะดีกว่าแล้วคุณล่ะ เคยมีประสบการณ์แบบสาวๆเหล่านี้กันบ้างไหมคะ? มาคอมเมนท์แบ่งปันเรื่องราวของคุณให้เพื่อนๆได้อ่านกันที่ช่องคอมเมนท์เลย