สำหรับหญิงไทยหรือหนุ่มไทยหลายคน ที่มีแฟนหรือสามี/ภรรยาเป็นคนต่างชาติ โควิด-19 เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาและเธอต้องห่างเหิน ไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้ตามปกติเหมือนเช่นเคย มาดูกันว่า เขาและเธอรักษาความรัก ความมั่นคงระหว่างกันไว้ได้อย่างไรกับสถานการณ์ที่ต้องพลัดพรากจากกันในขณะนี้
1. ผมไม่ได้อยู่กับภรรยาในวันที่เธอคลอดลูกสาวของเรา จนกระทั่งตอนนี้ลูกสาวของเราอายุได้ 5 เดือนแล้ว
ฟรีส (ไทย) & Mae (ฟิลิปปินส์) และลูกสาวของพวกเขา
คบกัน 2 ปี
ตอนนี้ผมอยู่ที่ฟิลิปปินส์นั้นเป็นช่วงเดือนมกราคมของปี 2020 ข่าวการระบาดของโควิด ยังเพิ่งเกิดขึ้นอยู่ในที่อู่ฮั่นประเทศจีน ผมยังไม่ค่อยจะรู้สึกตกใจกับการระบาดนี้เท่าไหร่ เมื่อตอนนั้นผมได้รับข่าวดีที่สุดดังพรจากสวรรค์ว่าภรรยาของผมกำลังตั้งครรภ์ ทำให้การวางแผนในหัวของผมนั้นคิดถึงรายได้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยการตัดสินใจรับงานเป็นดีเจในประเทศเกาหลี และภรรยาของผมก็เข้าใจหากเราต้องแยกกันเพื่อที่ผมจะได้เก็บเงินเพื่อเรา และการได้กลับไปดูแลภรรยาเมื่อใกล้คลอดนั่นคือจุดประสงค์หลัก แล้วโควิด 19 ก็ตามมาหลังจากที่ผมลงงานที่เกาหลีได้เพียงแค่ 3 อาทิตย์
ร้านที่ผมทำงานนั้นเกิดปัญหาด้านการเงิน ต้องลดค่าแรงลูกจ้างลง แต่ไม่สามารถจะซื้อตั๋วส่งผมกลับได้ภายใน 3 เดือนตามกำหนดการเดิม อย่าให้เล่าถึงตอนนั้นเลยครับว่าภรรยาของผมเธอมีอารมณ์สวิงอย่างไรบ้างเนื่องจากเธอกำลังท้อง ทว่าบางสิ่งบางอย่างบางความเข้าใจเกี่ยวกับโรคระบาดครั้งนี้ เรายังใหม่เกินไป
ที่เกาหลีทั้งๆที่ช่วงแรกนั้นมีการระบาดหนักในเมืองแทกู ประเทศเกาหลีนั้นเพียงแค่ประกาศยกเว้นบางกิจกรรมทางสังคมอย่างเช่นร้านอาหารผับแต่ก็มีการแอบเปิด ซึ่งเป็นปกติผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ก็สามารถควบคุมการระบาดได้ด้วยการระบุข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตและเบอร์โทรศัพท์ แล้ววันที่โชคร้ายนั้นมาถึงร้านที่ผมมาทำงานที่เกาหลีได้ปิดตัวลงเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายได้ ทำให้ผมก็ไม่ได้เดินทางกลับประเทศ ตามหมายกำหนดการเดิมเพราะประเทศไทยปิดประเทศและทางเกาหลีเช่นกันและฟิลิปปินส์ก็ปิดประเทศเช่นกัน จนกระทั่งทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ได้เจอภรรยาไม่ได้อยู่วันที่เธอคลอดจนลูกสาวของผมได้ออกมาลืมตาดูโลกอันสวยงามได้เกือบ 5 เดือนแล้ว…
ยังโชคดีที่เรานั้นมีสื่อสังคมออนไลน์สามารถโทรหากันได้ทุกวัน อย่างน้อยผมก็ยังได้เห็นหน้าลูกและได้เล่นกับลูกสาวผ่านทางวีดีโอคอล …….เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันแล้วก็อธิษฐานต่อพระเจ้าให้ทุกอย่างบนโลกกลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว ผมจะได้กลับไปกอดภรรยาและลูกสาวของผมเป็นครั้งแรก
2. ทุกอย่างที่มีกฎระเบียบมันถูกวางไว้ด้วยกระดาษแผ่นเดียว และตัดสินตรงนั้นว่าคุณได้รับอนุญาตเข้าประเทศ
มุก (ไทย) & Daryl (แคนาดา)
คบกัน 3 ปี
เราเป็นคนหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์แบบ Long Distance Relationship ซึ่งก่อนหน้านี้ เราก็อยู่กับแฟนมาเป็น2ปีกว่าแล้วนะ ในปีหนึ่ง เราจะได้เจอกันก็แค่ประมาณ 3-4 เดือน/ครั้ง แล้วพอมาเจอเหตุการณ์โควิดแบบนี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการอดทนรออะ เพราะความสัมพันธ์ระยะไกลมันคือการอดทนแล้ว ปกติเราก็จะเจอกันนานๆครั้ง ซึ่งตรงนี้คนที่มีความสัมพันธ์แบบนี้ย่อมต้องรับให้ได้
แต่การอดทนรอในช่วงสถานการณ์แบบนี้ตอนนี้ คือเราไม่ได้เป็นคนควบคุมสถานการณ์ และไม่รู้ว่าเมื่อไรเราจะได้เจอกันอีก มันทำให้เราเกิดความเครียด แบบเครียดมากๆเลยนะ และความท้อใจในขณะเดียวกัน คนบางกลุ่มเขาได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศได้ อย่างเช่น คนที่จดทะเบียนสมรมแล้ว หรือคนที่กำลังจะทำเรื่องจดทะเบียน แต่เราในฐานะที่มีคนรักต่างชาติและอยู่คนละประเทศแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ความสัมพันธ์ทุกอย่างก็เทียบเท่ากับคนที่แต่งงานแล้ว เราทั้งสองวางแผนแต่งงานกัน มีลูก และวางแผนว่าจะย้ายตามไปอยู่ด้วยกัน แต่คู่เรากลับถูกมองว่าการเดินทางมาพบกันในช่วงเวลาแบบนี้ยังไม่จำเป็น เพียงเพราะทุกอย่างที่มีกฎระเบียบมันถูกวางไว้ด้วยกระดาษแผ่นเดียว และตัดสินตรงนั้นว่าคุณได้รับอนุญาตเข้าประเทศ
เรากับแฟนทำได้เพียงโทรวีดีโอหากันทุกๆคืน จนบางครั้งก็หลับไปพร้อมๆกันแบบนั้น มีทะเลาะกันและไม่ไว้ใจกันบ้าง เพราะต้องห่างกัน ก็เป็นธรรมดาที่อาจจะมีเครียดๆ และคิดฟุ้งซ่าน มีงอแงบ้าง ร้องไห้บ้าง พอวีดีโอคอลเห็นหน้ากัน ก็รู้หละว่ารู้สึกไง เราว่าความห่างไกลแบบนี้บางทีมันก็มีส่วนดีนะ
มันเหมือนเป็นเครื่องวัดใจของเราสองคนได้เลยล่ะ ที่ต้องทำก็คือโทรคุยอย่าให้ขาด ไว้ใจให้มากขึ้น แชทกันก็อย่า่ให้ขาด จะกินจะนอนทำอะไรไปไหน ก็ส่งรูปให้กันดูเรื่อยๆ เพื่อเป็นการทำให้เราได้ใกล้ชิดกันเหมือนเดิม เพราะบางทีเราก็ไม่ได้โทรคุยกันทุกวันตลอดเวลา ด้วยความืที่เราทำงาน และเขาก็ต้องทำงาน เราทั้งคู่ต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ ถือว่าช่วงนี้เป็นการให้พื้นที่ต่อกันและกัน แต่ก็อย่าให้มากจนเกินไปนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นห่างกันเกินไปน่ะ
เราว่ามันยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนดีขึ้นนะ มีความคิดถึงห่วงหากันมากขึ้นกว่าเดิม ความต้องการกันและกันมากขึ้นกว่าเดิม และสิ่งที่สำคัญและประคับประคองคู่ของเราได้นั้นคือ การให้กำลังใจกันในทุกๆวัน มันยากอยู่นะกับการที่ต้องรอคอยวันที่จะเจอคนรักแบบนี้ แต่เราก็ต้องไหว ต้องผ่านมันไปด้วยกัน
ชีวิตมันเลือกไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องผ่านอุปสรรคมันไปให้ได้ ส่วนตัวเราบันเทาความเหงาด้วยการทำงานหนักๆ ออกไปทำงานหาเงินดีกว่ามานั่งเหงา ออกไปหากินของอร่อยๆกับเพื่อนๆเพื่อคลายเหงา แต่เราจะไม่คลายเหงาด้วยการไปคุยกับหนุ่มๆอื่นโดยเด็ดขาด และเขาก็ไม่ทำเช่นกัน จำไว้ว่าความเหงา มันไม่ใช่เหตุผลที่เราจะไปทำร้ายคนที่รักเรา อย่าทำแบบนั้น ยังไงก็เราก็ขอเป็นกำลังลังให้กับใครที่กำลังประสบปัญหานี้ด้วยนะ จงอย่าท้อนะคะ จงเชื่อมั่นในความรัก พูดคุยกับแฟนของคุณให้มาก มีอะไรก็เล่าให้กันฟังในทุกๆวันและทุกเรื่อง
3. สามีเป็นโรคซึมเศร้า และโรควิตกกังวล เขาต้องติดอยู่ออสเตรเลียเพียงลำพังโดยไม่มีฉันอยู่เคียงข้าง
แพทตี้ (ไทย) & Bernie (ออสเตรเลีย)
คบกัน 7 ปี
สามีเป็นชาวออสเตรเลีย เราใช้ชีวิตร่วมกันมา 8 ปี ทุกปีเขาจะเดินทางกลับไปออสเตรเลีย 1 ครั้ง แต่ครั้งนี้ โควิด ทำให้เขาหมดหนทางที่จะได้กลับมาหาเราที่ไทย เนื่องจากการเดินทางเข้าไทยสำหรับชาวต่างชาติในการขอวีซ่าท่องเที่ยวมีข้อจำกัดและขั้นตอนที่ยุ่งยาก และ ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงถึงหลักล้าน ขณะที่อยู่ในไทยได้แค่ 90 วัน สามีซึ่งเคยเป็นโรคซึมเศร้า เมื่อต้องตกอยู่ในความเครียดและวิตกกังวลโรคนี้เลยกลับมากำเริบขึ้นอีก ถึงขั้นต้องปรึกษาหมอ สิ่งที่เราและสามีจะทำได้ ณ เวลานี้ คือ ทำใจให้เข้าใจในเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทุกวันเราวิดิโอคอล พูดคุย รับฟัง ระบาย ให้ความหวังต่อกัน เราจะบอกให้เขามีความอดทน ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนกับเรา ซึ่งด้วยความที่เราทั้งสองมีความเคารพตัวเอง มีความซื่อสัตย์ต่อตัวเองเหมือนกัน เลยไม่มีปัญหาในเรื่องความหวาดระแวงหรือนอกใจ การที่เรารักษาความสม่ำเสมอในการติดต่อสื่อสารทางวิดิโอคอลทุกวัน เลยไม่รู้สึกว่าเราห่างเหินกัน รอให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ เราก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนเดิม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
และนี่ก็คือเรื่องราวของคู่รักที่ต้องห่างไกลกันเพราะโควิด เป็นยังไงกันบ้างคะ? หวังว่าบทความนี้จะช่วยบรรเทาความกังวลของคุณลงไม่มากก็น้อย การอยู่ในความสัมพันธ์แบบระยะไกลมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เอาจริงๆแล้วก็มันไม่ยากเกินไปขนาดนั้น มีขึ้น ๆ ลงๆ อยู่เสมอแต่โชคดีที่ทุกวันนี้โลกเรามีเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราเชื่อมต่อกับคนที่เรารักได้ง่ายมากขึ้น คิดถึงก็แชทหากัน หรือวีดีโอคอลหากันได้ตลอดเวลาความเชื่อใจ มั่นใจ หมั่นเสริมพลังบวกให้แก่กันและกัน และหนักแน่นสำคัญมากที่สุด หากคุณผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ ก็ไม่มีอะไรต้องมากังวลแล้วล่ะ จงอย่าท้อและหมดหวังในความรักระยะไกล สู้ๆกันนะคะทุกคน