กองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครน ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา สงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แบบเอาอะไรมาหยุด ก็ฉุดไม่อยู่ หลังรัสเซียได้เริ่มปฏิบัติการรุกรานยูเครน หลังสะสมกำลังทหารมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปี
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปถูกรัสเซียโจมตีนเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 รัสเซียได้โจมตี “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป” ซึ่งนักวิชาการประเมินว่า หากระเบิดจริงจะมีความรุนแรงกว่าโศกนาฏกรรมเชอร์โนบิล 6 เท่า ขณะที่ผู้นำทั่วโลกร่วมรุมประณามการกระทำของรัสเซีย และคนที่ถูกประณามมากที่สุดไม่ใช่ทหาร แต่คือผู้นำรัสเซียที่ชื่อว่า “วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Puti)” ชายผู้น่าเกรงขามที่คนทั้งโลกหวาดกลัว เพราะเขาสามารถจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ทุกเมื่อ เช่นเดียวกับพี่ใหญ่ฝ่ายพันธมิตร “สหรัฐอเมริกา”
“ปูติน” ประกาศสงคราม ใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนแล้ว เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
สำหรับวันนี้ The Joi จะมาเปิดเผยเรื่องจริงสุดว้าวของชายที่ทั้งโลกกำลังสนใจมากที่สุดคนหนึ่งใมหากาพย์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ชื่อว่า “วลาดิเมียร์ ปูติน” ในมุมที่เพื่อน ๆ ไม่เคยรู้มาก่อน ที่ได้รู้แล้วจะทำให้ทุกคนชอบผู้ชายคนนี้มากขึ้น บางคนอาจจะได้เขาไปเป็นไอดอลสู้ชีวิตก็เป็นได้ จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
1. เกิดในครอบครัวที่ยากจน
หากเพื่อน ๆ มีภาพจำว่า คนที่ทำงานสายการเมืองและเป็นถึงระดับผู้นำประเทศมหาอำนาจได้จะต้องเป็นคนที่มีพื้นเพบ้านมีฐานะ ไม่ก็เป็นตระกูลเก่า ผู้ดีเก่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังแล้วล่ะก็ คงใช้กับ “วลาดิเมียร์ ปูติน” คนนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะชีวิตในวัยเด็กของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคนหนึ่งเท่าที่โลกเคยมีมาคนนี้ เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน จนขนาดเคยต้องอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์ร่วมกับอีก 3 ครอบครัว และเวลาว่างก็ใช้เวลาไล่จับหนูตามทางเดินบันไดขึ้น-ลงอะพาร์ตเมนต์ สมัยเขายังอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา
2. ปูตินเป็นลูกคนที่สาม แต่มีเขาคนเดียวที่รอดหลังคลอด
“ปูติน” ไม่ใช่ลูกคนเดียวของบ้านตระกูลปูตินหรอกนะ อันที่จริงแล้ว เขาเป็นน้องคนสุดท้อง ลำดับที่ 3 ของครอบครัว แต่พี่ ๆ ของเขาได้แก่ “วิกเตอร์ (Viktor)” ซึ่งเกิดในปี 1930 ได้เสียชีวิตขณะที่ยังเป็นทารก ขณะที่พี่คนกลาง “อัลเบิร์ต (Albert)” ซึ่งเกิดในช่วงปีเดียวกัน ก็ได้เสียชีวิตด้วยโรคคอตีบ ระหว่างที่กองกำลังนาซีจากเยอรมนีได้ล้อมเมืองเลนินกราด (หรือเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปัจจุบัน) ของสหภาพโซเวียต (รัสเซียปัจจุบัน) ในสงครามโลกครั้งที่ 2
3. เด็กดื้อที่เข้าเรียนต่อในโรงเรียนกฎหมาย
“ปูติน” เต้นรำกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน “อีเลน่า” ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย เมื่อปี 1970
หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย “ปูติน” ได้ตัดสินใจเรียนต่อในสาขานิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเลนินกราด สเตท (Leningrad State University) ซึ่งเขาได้เผยบนหน้าเว็บไซต์ของเครมลินในส่วนประวัติย่อตัวเอง ระบุว่า เขาไม่ใช่เด็กหน้าห้องนะ แต่ถึงจะเฟี้ยวฟ้าวห้าวเป้งสมัยหนุ่ม ๆ แต่เรื่องการเรียนก็ต้องยอมรับว่า “ปูติน” ไม่ขาดตกบกพร่องและเรียนจบได้ตามกำหนดเวลา และเข้าทำงานกับองค์กรสายลับทันที
4. เล่นกีฬาเก่ง
มันจะมีผู้นำประเทศสักกี่คนกันที่เก่งเล่นกีฬาไปแทบทุกอย่าง “ปูติน” เรียกว่าให้จับอุปกรณ์เล่นอะไรก็ทำได้หมดและทำได้ดี แต่กีฬาที่เขาโปรดปรานมากที่สุดก็คือ ยูโด ซึ่งฝึกมาตั้งอายุ 11 ขวบ และได้สายดำซะด้วย กับคาราเต้ ส่วนกีฬาอื่น ๆ ที่เขาเล่นได้อย่างช่ำชองไม่แพ้กัน เช่น ฮ็อกกี้น้ำแข็ง, ขี่ม้า, ขับรถ F1 เป็นต้น
5. เคยเป็นสายลับ KGB
หลังจากเรียนจบจากโรงเรียนกฎหมาย “ปูติน” ตัดสินใจทำงานต่อในหน่วยข่าวกรอง (KGB) ในขณะเดียวกันก็รับใช้ชาติในฐานะทหารด้วย และเนื่องจากเป็นสายลับ KGB ทำให้เขาต้องไปแฝงตัวในต่างประเทศ และเรียนภาษาต่างประเทศ ส่วนภาษาที่เขาถนัดคือ เยอรมันและภาษาอังกฤษ (ซึ่งเขาบอกว่าไม่ค่อยมั่นใจเวลาพูดนัก)
6. เคยเป็นคนขับแท็กซี่
และเรื่องนี้เพิ่งจะถูกเปิดเผยต่อสื่อสาธารณะเมื่อปลายปี 2021 โดยสำนักข่าว “เดอะ การ์เดี้ยน (The Guardian)” ระบุว่า “ปูติน” ผู้นำรัสเซีย เล่าถึงเบื้องหลังชีวิตช่วงหนึ่งที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนว่า เคยเป็นคนขับรถแท็กซี่เพื่อเลี้ยงชีพช่วงที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย เมื่อปี 1991 แต่ไม่ได้ทำประจำหรอกนะ แค่พาร์ทไทม์จ้า
7. รักสัตว์
“ปูติน” กับสัตว์เลี้ยงของเขา “เจ้ายูเม” และ “เจ้าบัฟฟี่”
แม้ภาพลักษณ์ของ “ปูติน” จะเป็นชายที่แข็งกร้าว น่าเกรงขาม ดุดัน มาดแมนสุด ๆ แต่เขาก็มีด้านที่อ่อนโยนจนเหล่าคนรักสัตว์ต้องยอมใจเลยก็คือ เขาเป็นคนรักสัตว์ รักแบบจริงจัง หากเพื่อน ๆ ติดตามข่าวต่างประเทศก็มักจะได้เห็นคนนำสัตว์เลี้ยงมาให้เขาเป็นของขวัญ หรือทุกครั้งที่เขาได้เจอสัตว์ต่าง ๆ ก็จะแสดงท่าทางเอ็นดูตะมุตะมิแบบไม่เขินอายเสมอ สำหรับรูปด้านบนที่เพื่อน ๆ เห็นเป็นสุนัขพันธุ์บัลแกเรียน เชฟเพิร์ด ชื่อ “บัฟฟี่” (ซ้าย) ส่วนอีกตัว คือ “ยูเม” เป็นสุนัขสายพันธุ์อกิโตะ-อินุ ซึ่งได้รับมาจากประเทศญี่ปุ่น
8. The Beatles คือวงดนตรีที่โปรดปราน
เห็น “ปูติน” รักชาติ รักรัสเซีย ชาตินิยมจ๋าขนาดไหน แต่สุดท้ายเขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเสียงดนตรีและเนื้อเพลงสุดกินใจของวงร็อคคลาสสิกระดับโลกที่ขึ้นหิ้งระดับตำนานอย่าง “เดอะ บีเทิ้ลส์ (The Beatles)” หรือเมืองไทยเรียกว่า “วงสี่เต่าทอง” และไม่ได้แค่ชอบธรรมดา แต่ชอบมากถึงมากที่สุด เพลงโปรด “ปูติน” คือ “Yesterday”
โดยผู้ที่ค้นพบว่า “ปูติน” ชายผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลกชอบวงสี่เต่าทอง ก็คือ “พลาตัน (Platon)” ช่างภาพผู้ถ่าย “ปูติน” ขึ้นปกนิตยสาร TIME เมื่อปี 2007 นั่นเอง และภาพที่เขาถ่ายผู้นำรัสเซียผู้นี้ก็กลายเป็นภาพทรงพลัง และเป็นรูป “ปูติน” ที่ถูกนำไปใช้เพื่อกิจกรรมต่าง ๆ แต่ที่เห็นจะทำให้พี่หมีขาว “ปูติน” จะไม่ปลื้มมากที่สุดก็คือ ภาพดังกล่าวถูกนำไปใช้เพื่อต่อต้านเขาเสมอ
9. มีพระราชวังส่วนตัวในป่า
“ปูติน” มีบ้านหลังใหญ่ หรือที่หลายคนเรียกว่า “พระราชวังปูติน” เป็นบ้านอันหรูหราหมาเห่าตกแต่งในสไตล์อิตาลี ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลดำในครัสโนดาร์ไกร ประเทศรัสเซีย มีพื้นที่เกือบ 18,000 ตร.ม. ประกอบด้วย สวนรุกขชาติ, เรือนกระจก, ลานจอดเฮลิคอปเตอร์, โบสถ์, อัฒจันทร์, เกสต์เฮาส์, ปั๊มน้ำมัน, สะพานความยาว 80 เมตร และอุโมงค์พิเศษภายในภูเขา เป็นต้น
10. มีลูกสาว 2 คน
หลายคนเชื่อว่า “ปูติน” มีลูกอย่างน้อย 2 คน แต่สองคนที่เป็นลูกของผู้นำรัสเซียคนนี้อย่างแน่นอนคือ “มาเรีย (มาช่า)” และ “แคทเธอริน่า (แคทย่า)” โดย “มาเรีย” เกิดในเมืองเลนินกราด (เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปัจจุบัน) ในปี 1985 ส่วน “แคทเธอรีนา” เกิดในเยอรมนี เมื่อปี 1985 ซึ่งตรงกับปีที่ “ปูติน” ยังเป็นสายลับ KGB
ครอบครัวของ “ปูติน” กับภรรยาคนแรก
โดยลูกสาวคนสวยทั้งสองเกิดจากภรรยาคนแรกชื่อว่า “ลิรูดมิลา ชเครฟเนว่า” อย่างไรก็ตามทั้งคู่ได้หย่าร้างกันอย่างเป็นทางการในปี 2014 เหตุผลส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ “ปูติน” ให้ความสำคัญกับการทำงานมากกว่าให้เวลากับครอบครัว
และหลังจากการหย่าร้าง “ปูติน” มีข่าวลือว่าคบหากับสาวมากหน้าหลายตา หนึ่งในจำนวนนั้นคือ “อลินา คาบาเยว่า” อดีตนักยิมนาสติกลีลา ดีกรีเหรียญทองจากการแข่งขันเอเธนส์เกมส์ เมื่อปี 2004 นอกจากนี้ สื่อทั้งในรัสเซียและต่างประเทศยังลือหึ่งอีกว่า ทั้งสองมีลูกด้วยกันอย่างน้อย 1 คนด้วย แต่ “ปูติน” ก็ออกมาปฏิเสธว่า ข่าวดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง
11. เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
“ปูติน” รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ปี 2022
เห็น “ปูติน” ประกาศสงครามกับยูเครนตอนนี้ (2565) คงไม่มีใครเชื่อว่า “ปูติน” เอง ก็เป็นผู้นำโลกอีกคนหนึ่งที่เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพกับเขาด้วยเมื่อปี 2021 และล่าสุดเมื่อ 1 มีนาคม 2565 ที่สวิตเซอร์แลนด์ คณะกรรมการรางวัลโนเบลได้ตัดสินใจมอบรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ให้กับประธานาธิบดี “ปูติน” ของรัสเซีย สำหรับการยุติการระบาดของโควิด-19 ได้ในชั่วข้ามคืน
12. นิตยสาร Times ยกให้เป็นบุคคลแห่งปี 2007
ปกนิตยสาร TIME ฉบับวันที่ 31 ธันวาคม 2007
นิตยสาร TIME ของสหรัฐฯ ได้ยกย่องให้ “ปูติน” เป็นบุคคลแห่งปี 2007 โดยทางบรรณาธิการเชื่อว่า ผู้นำรัสเซียคนนี้มีอิทธิพลต่อเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ในปีดังกล่าว ทั้งด้านดีและแย่ เบียดเอาชนะคู่แข่งตัวเก็งอย่าง “อัล กอร์” อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ, “เจ.เค. โรว์ลิ่ง” ผู้เขียนหนังสือ “แฮร์รี่ พ็อตเตอร์”, “หู จิ่นเทา” ประธานาธิบดีจีน และ “พลเอก ดาเวิด เพทราอุส” ผู้บัญชาการกองทัพอเมริกาในอิรัก
13. คนสายมู
“ปูติน” ก็เหมือนเด็กหนุ่มทั่วไปที่ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ผีสางนางไม้ แต่หลังจากเขาประสบอุบัติเหตุถึงสองครั้งซ้อน ก็เริ่มหันมาเพิ่งทางธรรมในฐานะคริสเตียนนิกายออร์โธด็อกซ์ และไม่ได้แค่เชื่อธรรมดา แต่ “ปูติน” นั้นศรัทธาในศาสนาอย่างมาก เรียกว่ามีพิธีกรรมทางศาสนาประจำปีเมื่อใด เขาจะไปเข้าร่วมเสมอ
14. ฉีดโบท็อกซ์มากเกินไป
“เจค สโลน” แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ได้โพสต์รูปเปรียบเทียบ “ปูติน” ก่อนและหลังลงไอจีตัวเอง
“เจค สโลน (Jake Sloane)” ศัลยแพทย์ตกแต่งชาวออสเตรเลีย ได้โพสต์รูปเปรียบเทียบหน้า “ปูติน” (รูปบน) ลงบนไอจีของตัวเอง @drjakesloane เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ระบุข้อความว่า “นี่เป็นการละเมิดจริยธรรมว่าด้วยเรื่องการโพสต์รูปของใครบางคนที่หน้าตาดูตลกขบขันหลังถูกฉีดสารบางอย่างเข้าหน้า #catface #pillowface #toomuchfiller” ทันทีที่โพสต์นี้ถูกแชร์ก็เป็นเรื่องซุบซิบของชาวเน็ตทั่วโลกทันที
ก่อนหน้านี้ “ปูติน” ก็เคยตกเป็นข่าวว่า เคยเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าและฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงาม ซ้ำร้ายยังมีสื่อบางสำนักรายงานว่าเขาได้นำเงินหลวงที่เบิกเกิน โดยสร้างเรื่องว่าเบิกงบเพื่อจ่ายอะไรบางอย่างของราชการ แต่สุดท้ายก็คือ เอาเงินดังกล่าวมาฉีดโบท็อกซ์
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ทางเครมลินหรือรัสเซียก็ยังนั่งยันนอนยันว่า “ปูติน” ผู้นำรัสเซีย ไม่เคยผ่านมีดหมอหรือฉีดฟิลเลอร์โบท็อกซ์อะไรเลยจริง ๆ
15. ชื่นชอบนวนิยายสืบสวนสอบสวน
ปูตินอ่านหนังสือโบราณ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2007
อีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้คือ “ปูติน” เป็นคนรักการอ่าน และประเภทหนังสือที่เขาชอบคือ แนวสืบสวนสอบสวน หรือสายลับนั่นเอง
16. ผู้ปกป้องเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน
“เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน” ถูกถ่ายรูปไว้เมื่อ 9 ตุลาคม 2013
นี่เป็นเพียงเรื่องน่ารู้สุดว้าวส่วนหนึ่งของประธานาธิบดี “ปูติน” แห่งรัสเซีย ยังมีเรื่องห่าม ๆ มัน ๆ ของเขามาบอกเล่าต่ออีกมาก ซึ่ง The Joi จะนำมารายงานในบทความต่อ ๆ ไป ถ้าไม่อยากพลาดเรื่องสนุก ใต้เตียงผู้นำคนนี้และคนอื่น ก็อย่าลืม Subscribe รับข่าวสารจากเว็บไซต์ The Joi ได้เลย หรือจะติดตามทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อย่าง เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, ติ๊กต็อก และ ยูทูบ
ที่มาข้อมูล: Insider, CNN, US News, New York Time, History Colored, History Hit, NG News 247, News, Daily Express และ MSN
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: 9 เรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ที่หลายคนหวั่นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: 10 เรื่องจริงที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ “โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ผู้นำยูเครน ที่ใคร ๆ ก็ว่าเขาคือ “ตัวตลก”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “ลียองเอ” นางเอกซีรีส์ “แดจังกึม” บริจาคเงิน 2.7 ล้านบาท ช่วยชาวยูเครนในสงคราม
