เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในแต่ละประเทศทั่วโลก ทำให้ต้องมีการจัดสรรพื้นที่กักตัวให้เพียงพอต่อความต้องการของทุกคน ทั้งที่กักตัวเพื่อสังเกตอาการ บ้างก็เพราะไปในพื้นที่เสี่ยงหรือคนใกล้ตัวติดโควิด หรือบ้างก็เพราะเป็นผู้ติดเชื้อเสียเอง แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีเตียงในโรงพยาบาลหรือโรงแรม ๆ ดี ๆ สักหลักไว้ซุกหัวนอนกักตัวซะเมื่อไหร่ ดังนั้น จึงต้องใช้สถานที่เหนือความคาดหมาย ที่พอจะมีคุณสมบัติใช้กักตัวเองได้อย่างปลอดภัยช่วงระยะหนึ่ง บางแห่งแปลกเกินจนต้องอุทานว่า “อยู่ในนี้ก็ได้เหรอ!?”
หากพร้อมเปลี่ยนบรรยากาศกักตัวกันแล้ว ไปดู 13 ที่กักตัวสุดพิลึกที่ The Joi รวบรวมมาฝากกันเลย!
1. อดีตโรงพิมพ์ของสหภาพโซเวียต (ประเทศเอสโตเนีย)
โรงพิมพ์ของสหภาพโซเวียต ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเอสโตเนีย ถูกใช้เป็นที่กักตัวสุดแปลก เมื่อ “อเล็กซานดรา นิมา (Alexandra Nima)” เจ้าของบริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็ก ชื่อว่า “Tallinn Business Walks” ให้บริการทัวร์ชมเมืองทาลลินน์ของเอสโตเนีย หลังจากที่เธอต้องรีบเดินทางกลับจากทริปพักผ่อนในประเทศออสเตรียเป็นการด่วน เพราะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2563 และด้วยงบประมาณอันจำกัด จะอยู่หรู 14 วัน ก็ใช้เงินไม่ใช่น้อย “นิมา” จึงขอให้เพื่อนช่วยเฟ้นหาที่พักสำหรับกักตัวราคาถูก ในงบประมาณที่เขามีให้ ปรากฎว่า ที่พักแห่งนั้นคือ โรงพิมพ์ของสหภาพโซเวียต ที่สร้างด้วยคอนกรีตทั้งหมด มีท่อเหล็กเป็นของตกแต่งภายใน นอกจากนี้ ยังมีหน้าต่างเล็ก ๆ ที่อยู่ในเรือดำน้ำ ซึ่งจะช่วยไม่ให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้อง รับรองว่าหลับสบายแน่นอน นอกจากนี้ ในโรงพิมพ์ดังกล่าว ยังมีเวทีเดี่ยวไมโครโฟนอีกด้วย
ความรู้สึกที่ได้กักตัวใน โรงพิมพ์ของสหภาพโซเวียต แห่งนี้ นิมาเผยว่า ตอนแรกที่รู้ว่าเพื่อนจองที่กักตัวที่นี่ให้ก็หัวเสียมาก เพราะมันทั้งหนาว เงียบเหงา และยังมีเชื้อราอีก และจากเข้ากักตัวที่นี่ นิมาก็ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ จากการติดเชื้อจากเชื้อรา แน่นอนว่าเชื้อราที่ว่า ก็สูดดมเข้ามาเต็มปอด ตอนกักตัวที่ โรงพิมพ์ของสหภาพโซเวียต นั่นเอง หลังจากรักษาตัวจนหายดี เธอก็ได้รับเงินชดเชย และมองที่พักนี้ในแง่บวกว่า ทำให้ได้ย้อนวันวานเหมือนตอนเป็นลูกเสือเนตรนารี
2. เมืองร้าง (รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา)
เบรนท์ อันเดอร์วูด (Brent Underwood) เผยกับหนังสือพิมพ์ New York Times เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2563 ว่า เขาต้องติดอยู่ใน เซอร์โร กอร์โด (Cerro Gordo) เมืองร้างในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ นี้ “คนเดียว” นานกว่า 6 เดือน ช่วงฤดูหนาว ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังกำเงินที่อดออมมาทั้งชีวิตมาซื้อเมืองแห่งนี้ ในปี 2018 เป็นเงินกว่า 43 ล้านบาท หวังเปลี่ยนเหมืองที่เวิ้งว้าง มาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดคึกคัก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในเวลาต่อมา
อันเดอร์วูด เผยว่า ระหว่างที่เขาอาศัยอยู่ในเมืองร้าง ก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง ที่เป็นอดีตมนุษย์ แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อเรื่องผีสางก็ตาม และหลายครั้งก็ต้องพบกับเหตุการณ์ประหลาด ที่หาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ แต่ที่ตราตรึงเขามากที่สุด คือ อยู่ดีๆ ก็เกิดเพลิงไหม้ อาคาร 3 หลังของเขาจากทั้งหมด 20 หลัง ในจำนวนนี้ เป็นโรงแรมเก่าอีกด้วย
3. เกาะนอกชายฝั่ง (รัฐบริติช โคลอมเบียของแคนาดา)
ในฐานะบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว “ฟิลิป ไวส์ (Philip Weiss)” แน่นอนว่าขณะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เขากำลังท่องเที่ยวอยู่ที่กัมพูชา ก่อนเดินทางกลับไปสหรัฐอเมริกา แต่แล้วก็เปลี่ยนแผนไปเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลอมเบียของแคนาดาแทน เมื่อเพื่อนเก่าของเขาติดต่อมาและได้จองที่พักไว้บน “เกาะซอลท์สปริง” ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่ง รัฐบริติชโคลัมเบีย ไว้ให้ เพราะรู้จริตเพื่อนตัวเองดีว่าท่องเที่ยวทั้งที ต้องอยู่ที่แปลก ไวส์ก็จองห้องพักในโรงแรมท้องถิ่นแห่งหนึ่ง
ประสบการณ์ที่ได้รับจากการกักตัวที่นี่ เหมือนกับการพักผ่อนซะมากกว่า เพราะเขาได้เดินเล่นรอบเกาะ แต่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคมก็เท่านั้น บรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงาม
4. เรือหาปลาในมหาสมุทรอินเดีย
ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2563 ลูกเรือประมงชาวนิวซีแลนด์และชาวฟิลิปปินส์เริ่มทริปหาปลาเชิงพาณิชย์เป็นเวลา 2 เดือน ให้กับบริษัทอาหารทะเลแห่งหนึ่ง พวกเขาคิดว่ามันเหมือนกับงานประจำอื่น ๆ แต่หลังจากเกิดโรคระบาดโควิด-19 เรือลำดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับฐานทัพเรือในนิวซีแลนด์ ส่งผลให้ลูกเรือทั้งหมด 42 คน ต้องติดอยู่บนเรือในมหาสมุทรอินเดีย กลายเป็นต้องกักตัวจากโรคระบาดแบบหมู่คณะ บนเรือที่โคลงเคลง แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
และจากข้อมูลของ Stuff เว็บไซต์ข่าวในนิวซีแลนด์ บริษัทอาหารทะเลใช้เงินกว่า 6.7 ล้านบาท เพื่อเช่าเครื่องบินส่วนตัว 2 ลำ ไปรับลูกเรือประมงเหล่านี้กลับบ้านในปลายเดือนสิงหาคมของปี 2563
5. ปราสาท (ที่อาจ) มีผีสิง (ประเทศเยอรมนี)
ในเดือนมีนาคมปี 2563 สมาชิกวง แพนฟลู๊ต ออร์เคสตรา จำนวน 20 คนจากประเทศโบลิเวีย เริ่มเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศเยอรมนี เป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่เมื่อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด จนพวกเขาต้องหยุดการเดินสายแสดงคอนเสิร์ต นักดนตรีเหล่านี้ ก็ไม่สามารถกลับบ้านได้ และพวกเขาทั้งหมดต้องพักอาศัยในปราสาทอายุเกือบ 600 ปี จนถึงเดือนมิถุนายนปี 2563
ปราสาทแห่งนี้ถูกกล่าวขานว่า มีตำนานผีที่คอยหลอกหลอน หนึ่งในอดีตผู้อยู่อาศัยในปราสาทแห่งนี้เมื่ออดีตกาล คือ “พระเจ้าเฟรเดอริคมหาราช” และยังมีฝูงหมาป่า 23 ฝูง อยู่รายล้อมด้วย
นักดนตรีในวงคนหนึ่ง บอกว่าว่า “ปกติฉันไม่ค่อยเชื่อเรื่องผี แต่ก็รู้สึกราวกับว่ามีผีอยู่”
6. รายการเรียลลิตี้ทีวีโชว์
ใครจะไปคิดว่าการมาร่วมแข่งขันในรายการเรียลลิตี้โชว์ The Big Brother ของเยอรมนี ช่วงเดือนมีนาคมปี 2563 จะกลายเป็นการกักตัวในบ้าน แบบมีคนคอยสอดส่องดูตลอดเวลาซะงั้น! เพราะช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ในบ้าน Big Brother ด้วยกันทั้งหมด โดยไม่สามารถออกไปไหน หรือใช้อุปกรณ์สื่อสารใด ๆ ได้เลย ก็กลายเป็นการกักตัวจากโควิดแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ขณะที่โลกภายนอก หลายประเทศในยุโรปและส่วนอื่น ๆ ของโลก กำลังควบคุมเชื้อไวรัสนี้อยู่
สุดท้ายแล้วรายการดังกล่าวก็ต้องสิ้นสุดการถ่ายทำลงในกลางเดือนพฤษภาคมของปี 2563 และผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด เมื่อออกมาสู่โลกภายนอกก็ถึงพบว่ากำลังเผชิญกับโลกระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ และทุกคนปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19
7. บ้านหลังน้อยในสวนหลังบ้านของคนแปลกหน้า
“คอรี คาร์ล (Cori Carl)” บล็อกเกอร์และคนเลี้ยงสัตว์ชื่อดัง ได้เดินทางไปทำงานในเมืองคัลการี รัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา แต่เมื่อเดินทางไปถึง กลับต้องถูกส่งตัวกลับประเทศฉุกเฉิน แต่คาร์ลไม่อยากบินมาเสียเที่ยว และมีเวลาเหลือก่อนถูกส่งกลับประเทศ 36 ชั่วโมง จึงหาที่พักใหม่ แม้จะไม่ทราบระยะเวลาที่ต้องเข้าพักที่แน่นอนก็ตาม และแม้ว่าลูกค้าที่เลี้ยงสัตว์ จะเชิญชวนให้พักอยู่ที่บ้านของพวกเขาก่อน แต่เขาก็ปฏิเสธไป เพราะอพาร์ทเมนท์แบบหนึ่งห้องนอน ไม่เหมาะสำหรับการกักกันตัว
คาร์ลจึงค้นหาที่กักตัวผ่าน “Airbnb” เพื่อหาที่พักชั่วคราว ในที่สุด เธอพบรายชื่อบ้านหลังเล็ก ๆ แต่เมื่อไปอยู่จริง กลับพบว่า มันเป็นบ้านเล็กในสวนหลังบ้านของใครไม่ทราบ ในตัวเมืองคาลการี ขณะที่เจ้าของบ้านเอง ก็คิดว่า บ้านหลังน้อยหลังดังกล่าวได้ถูกรื้อทิ้งไปแล้วอีก นั่นหมายความว่า เขามาพักอย่างผิดกฎหมาย คาร์ลจึงรีบโทรแจ้งอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “Airbnb” และออกจากบ้านหลังน้อยนั้นทันที โดยเขาได้รับที่พักใหม่ เป็นสตูดิโอเขียนหนังสือ มีห้องรับแขก และได้สิทธิ์จ่ายค่าเช่าเพียงครึ่งราคาเท่านั้น
แม้ว่าจะต้องอยู่อย่างเถื่อนช่วงหนึ่งในแคนาดา คาร์ลก็บอกว่าประสบการณ์ “การล็อกดาวน์” ในบ้านหลังเล็กนั้น ทำให้รู้สึกเหมือนได้ผจญภัยอีกครั้ง
8. โรงพยาบาลร้าง (ประเทศเวียดนาม)
หากต้องกักตัวในโรงพยาบาลย่อมดีที่สุด แต่คงไม่ใช่ใน “โรงพยาบาลร้าง” อย่างแน่นอน หญิงชาวอังกฤษ 3 คน ในวัย 20 ปี ไล่เลี่ยกัน ได้ไปเที่ยวพักผ่อนในเวียดนาม และต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วัน ตามลำพังในโรงพยาบาลร้าง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนิญบิ่ญ (Ninh Bình) แม้ว่าโรงพยาบาลร้างนี้ จะไม่สะดวกสบายนัก แต่ก็มีห้องส้วมที่ใช้งานได้ และสามารถอาบน้ำจากถังน้ำได้ และยังมีพยาบาลคอยติดตามสุขภาพของพวกเขาเรื่อย ๆ และนำอาหารมาให้
9. เรือดำน้ำ (ประเทศรัสเซีย)
การกักตัวในเรือดำน้ำ เกิดขึ้นโดยบังเอิญ หรือว่าซวยก็ไม่รู้ เมื่อมีผู้รับเหมาพลเรือนคนหนึ่ง ซึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เดินทางมาเยี่ยมชม 1 ใน 8 เรือดำน้ำซึ่งเป็นเรือดำน้ำโอเรล (Orel) เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ออสการ์-ทู (Oscar-II) เรือดำน้ำยุคโซเวียตที่ยังเหลืออยู่ โดยมีกองทัพเรือรัสเซียเป็นเจ้าของ และยังคงใช้งานจริงอยู่ ของกองทัพเรือรัสเซีย
การเดินทางมาเยี่ยมชมของพลเรือนคนนั้น เป็นผลให้เจ้าหน้าที่กองทัพเรือรัสเซียมีคำสั่งให้ลูกเรือดำน้ำทั้งหมดกว่า 100 คน ต้องกักตัวอยู่ในเรือดำน้ำจนถึงต้นเดือนสิงหาคมปี 2563
การทำงานใต้ท้องมหาสมุทร ลูกเรือดำน้ำจำนวนมากไม่ทราบว่า มีโรคระบาดกำลังเกิดขึ้นด้วยซ้ำ ข่าวร้ายดังกล่าวมักถูกปิด เพื่อให้พวกเขามีขวัญกำลังใจในการทำงานบนเรือดำน้ำ
10. สวนสนุกดิสนีย์เวิลด์ (รัฐแอลาบามาของสหรัฐอเมริกา)
สวนสนุกดิสนีย์เวิลด์ (Disney World) เหมาะที่จะไปเที่ยว มากกว่าจะไปกักตัว แต่ก็มีชายชาวอเมริกันคนหนึ่ง ได้เข้าไปตั้งแคมป์ผิดกฎหมาย แล้วกักตัวเองจากโควิดในอาคารเก่าที่ถูกทิ้งร้างไว้ บนเกาะดิสคัฟเวอรี (Discovery) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดิสนีย์เวิลด์ ในรัฐแอลาบามาของสหรัฐฯ ที่ถูกปิดไปตั้งแต่ปี 1999 เป็นเวลาหลายวันในเดือนพฤษภาคมปี 2563 แต่พอมีเจ้าหน้าที่ดิสนีย์แจ้งว่า มีผู้บุกรุก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและหน่วยงานตำรวจได้จับกุมเขาในข้อหาบุกรุก และสั่งห้ามมิให้เขานำทรัพย์สินต่าง ๆ ออกนอกดิสนีย์เวิลด์ เด็ดขาด
11. สวนสัตว์ (สหราชอาณาจักร)
การกักตัวในสวนสัตว์นี้เกิดขึ้นกับ พนักงานสวนสัตว์ 4 คน ของสวนสัตว์พาราไดซ์ ปาร์ค (Paradise Park) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองคอร์นวอลล์ของสหราชอาณาจักร แต่การกักตัวของพวกเขาเหล่านี้ ไม่ได้นั่ง นอน กิน แต่มาพร้อมกับหน้าที่ที่ต้องดูแลให้อาหารและดูแลสุขภาพสัตว์ทั้งหมดในสวนสัตว์ พร้อมทั้งถ่ายภาพนิ่งและเคลื่อนไหวความเป็นอยู่ของบรรดาสัตว์ลงโซเชียลให้ทุกคนได้หายคิดถึงด้วย หลังจากปิดไม่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมปี 2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า พนักงานสวนสัตว์ทั้ง 4 ต้องกักตัวและดูแลสัตว์ทั้งหมด ไม่ได้ออกมาโลกภายนอก เป็นระยะเวลาทั้งหมด 3 เดือนเต็ม ก่อนสวนสัตว์ดังกล่าว จะกลับมาเปิดให้เข้าชมตามปกติอีกครั้งในต้นเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
12. เรือวิจัยทวีปน้ำแข็ง
ภารกิจ “MOSAiC” สำรวจวิจัยในทวีปอาร์กติกที่ห้อมล้อมไปด้วยน้ำแข็ง ของนักวิจัย จำนวน 20 คน ต้องหยุดลงตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2019 เนื่องจากสมาชิกในทีมของโครงการสำรวจ มีผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก และทั้งหมดถูกกักตัวอยู่บน “เรือวิจัยทวีปน้ำแข็ง” เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในพื้นที่อันคับแคบ และอากาศเย็นติดลบ 12.4 องศาเซลเซียส ก่อนจะได้รับอนุญาตให้บินไปเมืองสฟาลบาร์ (Svalbard) ประเทศนอร์เวย์
13. เรือสำราญ
ผู้ที่ต้องกักตัวบนเรือสำราญกลุ่มแรก คือ ผู้โดยสารรือสำราญ “ไดมอนด์ พรินเซส (Diamond Princess)” ซึ่งจอดเทียบท่าที่จังหวัดโยโกฮามาของญี่ปุ่น เมื่อต้นกุมภาพันธ์ปี 2563 เหมือนจะฝันดี แต่กลับเป็นฝันร้ายของการกักตัว เพราะว่า มีผู้โดยสารติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และด้วยสภาพแวดล้อมบนเรือสำราญที่มีอากาศไม่ถ่ายเท และเป็นที่ปิด ทำให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หลายประเทศปฏิเสธที่จะให้เรือสำราญลำอื่น ๆ ไม่ให้เข้าเทียบท่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม เช่น เรือสำราญเวิลด์ ดรีม (World Dream), เรือสำราญเดอะ แกรนด์พรินซส (Grand Princess) และเรือสำราญเอ็มเอส ซานดัม (MS Zaandam)
ที่มาข้อมูล: rd.com, IFLS
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “Karen’s Diner” ร้านอาหารคนเหวี่ยงในออสเตรเลีย ลูกค้าใจไม่แข็ง หน้าไม่มั่น กินไม่ได้!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เมืองไทยก็มี! “AV Izakaya” ร้านอาหารอิซากายะคอนเซ็ปต์ JAV ที่หนุ่ม ๆ ใฝ่ฝัน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: อวสานอาหารทุกมื้อ! ส่องสินค้าส่งออกสู่ปากชาวบ้านโดยลัทธิแปลกของ “พระบิดาโจเซฟ”