จากกรณีแร็ปเปอร์ชื่อดังชาวอเมริกัน “พี ดิดดี้ (P. Diddy)” หรือ “ฌอน ดิดดี้ โคมส์ (Sean Diddy Combs)” ซึ่งเป็นตัวพ่อและผู้ทรงอิทธิพลของวงการเพลง ถูกจับกุมตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2024 ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกง, ค้ามนุษย์ทางเพศ และขนส่งเพื่อจุดประสงค์ในการค้าประเวณี หลังมีเหยื่อจำนวนมากทั้งชายและหญิงออกมาฟ้องร้องต่อศาลว่าตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศ, การใช้ความรุนแรง รวมถึงใช้อำนาจหน้าที่ในการกักขังหน่วงเหนี่ยวบังคับฝืนใจพวกเขาให้กระทำการที่มิชอบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของพวกเขาเป็นอย่างมาก
โดยศาลของรัฐบาลกลางในแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ได้ปฏิเสธการให้ประกันตัว “พี. ดิดดี้” แม้ว่าทนายจะขอวางเงินประกันตัวกว่าพันล้านบาท เพื่อแลกกับอิสรภาพชั่วคราวให้กับเขาในระหว่างการพิจารณาคดีที่แร็ปเปอร์ชื่อดังถูกฟ้องร้อง อย่างไรก็ตาม ศาลฯ ตัดสินใจไม่ให้เขาได้รับการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะวุ่นวายกับหลักฐานและข่มขู่คุกคามพยานได้ และหากศาลฯ พบว่า “พี. ดิดดี้” มีความผิดจริงตามคำฟ้องร้องของโจทก์ เขาอาจถูกจำคุกอย่างน้อย 15 ปี หรือต้องโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต นับเป็นจุดจบอันเลวร้ายของผู้ทรงอิทธิพลในวงการดนตรีอเมริกันรายนี้เลยก็ว่าได้
ขณะที่คนในวงการดนตรีสหรัฐฯ ต่างร้อน ๆ หนาว ๆ ไปตาม ๆ กัน เพราะอาจเข้าไปพัวพันกับการกระทำผิดกฎหมายหลายกระทง โดยเฉพาะผู้ที่เคยเข้าไปร่วมงานปาร์ตี้ที่มีชื่อว่า “Freak Off” ซึ่งมีการจัดกิจกรรมร่วมเพศอันดิบเถื่อน เช่น บังคับให้เหยื่อมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ร่วมงาน ในขณะที่มี “พี. ดิดดี้” นั่งชมและปฏิบัติกิจกามด้วยตัวเองไปพร้อมกันด้วย เป็นต้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มีดาราคนดังในวงการดนตรีและวงการฮอลลีวูดจำนวนไม่น้อยที่พยายามออกมาเปิดโปงความลับอันเลวร้ายของ “พี. ดิดดี้” นี้มานานหลายปีแล้ว ทั้งที่พูดแบบโผงผางหรือพูดให้คนฟังไปถอดรหัสเอาเอง ก่อนที่เรื่องราวอันดำมืดนี้จะแตกโพละออกมาถึงหูสาธารณชนในที่สุด ว่าแต่จะมีใครบ้าง? ถ้าอยากรู้ก็ตามไปดูกันเลย!
1. แคสซี เวนทูรา
“แคสซี เวนทูรา” นางแบบที่ผันตัวมาเป็นนักร้อง เธอเคยคบหาดูใจและแต่งงานเป็นสามีภรรยากับ “พี. ดิดดี้” ช่วงปี 2007 ถึง 2018 แต่สุดท้ายก็มีอันต้องเลิกรากันไป แม้จะมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกัน 2 คน โดยฝ่ายหญิงกล่าวหาฝ่ายชายว่าใช้ความรุนแรงในครอบครัว, ล่วงละเมิดทางเพศ และค้าประเวณี ซึ่งมีภาพหลักฐานขณะแร็ปเปอร์ดังลงไม้ลงมือกับอดีตภรรยา จนแร็ปเปอร์ดังยอมจำนนต่อหลักฐานและออกมากล่าวขอโทษ “แคสซี เวนทูรา” หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวในชั้นศาลของทั้งคู่ได้จบลง ก็เป็นจุดเริ่มต้นการล่มสลายของ “พี. ดิดดี้”
2. คานเย่ เวสต์
หากเพื่อน ๆ ได้ย้อนดูรายการเรียลลิตี้โชว์ “Keeping Up with the Kardashians” ในปี 2014 จะมีอยู่ตอนหนึ่งที่ “โคลอี้ คาร์ดาเชียน (Khloe Kardashian)” เล่าว่าได้ไปงานปาร์ตี้ของ “พี. ดิดดี้” และบรรยายว่าทุกคน “เปลือยก้น” กันหมด โดยอดีตพี่เขยอย่าง “คานเย่ เวสต์” ก็ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ “พี. ดิดดี้” และในปี 2022 เขาก็เรียกแร็ปเปอร์ชื่อดังคนนี้ด้วยถ้อยคำหยาบคายว่า “ไอ้เวร” ตอนกล่าวหาเพื่อนในวงการดนตรีคนนี้ว่าค้ามนุษย์ แต่เนื่องจาก “คานเย่ เวสต์” มีชื่อเสียงในด้านการตั้งข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลและมักไม่มีมูลความจริงขึ้นมาลอยกับคนนั้นคนนี้อยู่บ่อย ๆ จนหลายคนมองว่าเขาเพี้ยนไปแล้ว แต่เมื่อทุกคนได้เห็นข่าวของ “พี. ดิดดี้” ถูกจับกุมตัวในข้อหาค้ามนุษย์ทางเพศ ก็ทำให้หลายคนฉุกคิดขึ้นมาว่าบางที “คานเย่ เวสต์” อาจมีข้อมูลวงในของ “พี. ดิดดี้” ก็ได้ แล้วเขาก็พยายามบอกทุกคนมาตลอด
3. อัชเชอร์
ตอนที่ “อัชเชอร์” เริ่มเข้าวงการดนตรีครั้งแรก เขาเพิ่งอายุ 13 ปีเท่านั้น และอาศัยอยู่กับ “พี. ดิดดี้” นาน 1 ปี และเขาก็ได้เล่าประสบการณ์อยู่ใต้หลังคาเดียวกันกับแร็ปเปอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค 90 ว่าเป็นอย่างไรกับ “ฮาวเวิร์ด สเติร์น (Howard Stern)” ในปี 2016 และมีบางช่วงบางตอนที่ “อัชเชอร์” พูดถึงสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าในวัยเยาว์ ระบุว่า “ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่า (พี. ดิดดี้) กำลังมองดูอะไรผมอยู่” นอกจากนี้ เขายังบอกว่าไม่อยากให้ลูก ๆ ของตัวเองไปเข้าค่าย “Puffy” ของ “พี. ดิดดี้” เหมือนที่ตัวเองเคยเข้าร่วมมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้น เขากลับปล่อยให้ “จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber)” ซึ่งพ่อแม่ของเด็กหนุ่มเซ็นเอกสารยินยอมให้เขาดูแลแทนและมีอำนาจตัดสินใจแทนพ่อแม่ที่แท้จริงได้หมด ไปอยู่กับ “พี. ดิดดี้” นาน 2 วัน ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเล่าต่อว่า “จัสติน บีเบอร์” ได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ปลอมกับ “พี. ดิดดี้” และเมื่ออ่านหมายเลขนั้นอีกครั้งในตอนนี้ ดูเหมือนว่านักร้องหนุ่มชื่อดังในวัยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกำลังส่งข้อความขอความช่วยเหลือ
4. เมส
“เมสัน ดูเรลล์ เบทา (Mason Durell Betha)” หรือ “เมส” แร็ปเปอร์ชาวอเมริกันที่โด่งดังในฐานะคนสร้างกระแสให้กับ “พี. ดิดดี้” ช่วงยุค 90 และยังได้ออกอัลบั้มสตูดิโอถึง 3 อัลบั้ม ภายใต้ค่ายเพลง “Bad Boy Records” ของ “พี. ดิดดี้” ด้วย แต่สุดท้ายก็เจอปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เมื่อ “เมส” กล่าวหาว่าเจ้าของค่ายเพลงหรือ “พี. ดิดดี้” นั้นโกงค่าลิขสิทธิ์เพลงของเขาคิดเป็นเงินมูลค่าเกือบ 6.5 แสนบาท และไม่ยอมจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงที่เขาพึงได้รับนานหลายทศวรรษ ต่อมาในปี 2022 “พี. ดิดดี้” อ้างว่า “เมส” เป็นหนี้เขาถึง 97.5 ล้านบาท และในท้ายที่สุด การต่อสู้เรียกร้องค่าลิขสิทธิ์เพลงของ “เมส” ก็ประสบความสำเร็จ “พี. ดิดดี้” ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดให้กับเขา รวมถึงศิลปินในค่ายคนอื่น ๆ ด้วย แต่ถึงอย่างนั้น “พี. ดิดดี้” ก็ยังแอบโกงค่าลิขสิทธิ์เพลงคนในค่ายตัวเองอย่าง “ดอว์น ริชาร์ด (Dawn Richard)” ซึ่งได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อในปีนี้ว่า “พี. ดิดดี้” ค้างจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงกับเขา 162.5 ล้านบาท
5. แคตต์ วิลเลียมส์
นักแสดงตลกผิวดำชื่อดัง “แคตต์ วิลเลียมส์” ได้ออกมาพูดถึงปาร์ตี้ “Freak Off” ของ “พี. ดิดดี้” ทางรายการ “Club Shay Shay” เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเขาแนะนำให้ทุกคนพูดว่า “ไม่” หากถูกชักชวนให้ไปร่วมปาร์ตี้อันโด่งดังที่ว่านี้ โดยให้เหตุผลที่คลุมเครือ ใครฟังก็ต้องงงและเกิดคำถามต่อมาว่า “ทำไม?” แต่หลัง “พี. ดิดดี้” ถูกจับกุมตัวและทุกอย่างถูกเปิดเผย ทุกคนก็เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำพูดดังกล่าวที่ออกจากปากของดาราตลกคนนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมาอย่างแจ่มแจ้ง
6. ออเบรย์ โอเดย์
หากเพื่อน ๆ เป็นแฟนรายการ “The Celebrity Apprentice” ซีซัน 5 คงจะคุ้นหน้าคุ้นตาสาวเก่งอย่าง “ออเบรย์ โอเดย์” กันอย่างแน่นอน โดยมีตอนหนึ่งของรายการที่เธอต้องจับคู่ทำงานกับ “พี. ดิดดี้” ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี จนกระทั่ง ปี 2019 เธอต้องร่วมถ่ายทำรายการ “Making the Band” ซึ่งโปรดิวซ์โดย “พี. ดิดดี้” เธอเล่าให้นิตยสาร “Variety” ฟังว่า “ในทุก ๆ วันพวกเราทีมงานและผู้ร่วมงานต้องอยู่อย่างหวาดกลัวเขา… ฉันต้องฟังเขาพูดเหยียดเชื้อชาติไปจนถึงการเหยียดเพศ”
7. เวนดี้ วิลเลียมส์
เจ้าแม่กอสซิปอย่าง “เวนดี้ วิลเลียมส์” ใครจะไปคิดว่าเธอก็เคยมีประสบการณ์ตรงอันแสนเลวร้ายกับ “พี. ดิดดี้” มาตั้งแต่หลายสิบปีก่อน เธออ้างว่า “พี. ดิดดี้” ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกจากสถานีวิทยุ “Hot 97” ในปี 1998 และยังพูดย้ำว่าแร็ปเปอร์ดังเป็นเหมือนกับมาเฟียของวงการดนตรี อีกทั้ง เขายังทำให้เธอต้องประสบพบเจอกับความยากลำบากมากมายในชีวิตการทำงานราวกับตกนรกทั้งเป็นอีกด้วย
8. ฟิฟตีเซนต์
เขาเป็นอีกหนึ่งคนดังที่ทั้งต่อต้านและพยายามออกมาเปิดโปงวีรกรรมอันฉาวโฉ่ของ “พี. ดิดดี้” มานานหลายสิบปี โดยเรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากเพลง “The Bomb” ของ “ฟิฟตีเซนต์” ในปี 2006 ซึ่งเขากล่าวหาว่า “พี. ดิดดี้” มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมแร็ปเปอร์ชื่อว่า “Biggie Smalls” แต่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมเพียงน้อยนิดที่สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดดังกล่าวของเขาว่าเป็นความจริง จึงทำให้เอาผิด “พี. ดิดดี้” ไม่ได้ ต่อมาในปี 2023 “ฟิฟตีเซนต์” ได้ออกมาพูดเรื่องงานปาร์ตี้อันฉาวโฉ่ของ “พี. ดิดดี้” และล่าสุดแร็ปเปอร์ดังเจ้าของเพลงฮิต “In da Club” ก็ได้ขายสารคดีชุด “Diddy Do It?” ที่จะเปิดโปงความผิดของ “พี. ดิดดี้” ให้กับ “Netflix” แล้วด้วย
9. ทูพัค ชาเคอร์
“ทูพัค” แร็ปเปอร์ดังในตำนานแห่งยุค 90 จากฝั่งเวสต์โคสต์ของสหรัฐอเมริกา และยังเป็นอริกับแก๊งแร็ปเปอร์ทางฝั่งอีสต์โคสต์ของ “พี. ดิดดี้” ด้วย โดยเขาเชื่อว่าเหตุการณ์ที่มีคนแอบลอบสังหารเขา แต่ไม่สำเร็จ เป็นฝีมือของ “พี. ดิดดี้” ก่อนเขาจะถูกลอบสังหารอีกครั้ง และต้องโบกมือลาโลกใบนี้ไปตั้งแต่อายุเพียงแค่ 25 ปี และเกือบสามทศวรรษต่อมา ตำรวจก็สามารถจับกุมคนที่ลอบสังหาร “ทูพัค” ได้สำเร็จ ซึ่งเขาบอกกับสื่อว่า “พี. ดิดดี้” จะมอบเงิน 32.5 ล้านบาท ให้กับใครก็ตามที่สามารถปลิดชีวิต “ทูพัค” ได้ อย่างไรก็ตาม คำพูดนี้ของผู้ต้องหาไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ก็ทำให้ใครหลายคนได้รู้ว่า “พี. ดิดดี้” มีภาพลักษณ์ที่โหดเหี้ยมเป็นผู้ชายที่ชอบใช้ความรุนแรง
10. ร็อดนีย์ “ลิล ร็อด” โจนส์
“ร็อดนีย์ “ลิล ร็อด” โจนส์” เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับอัลบั้มเพลงของ “พี. ดิดดี้” ที่ชื่อว่า “The Love Album: Off the Grid” และเขาก็เป็นคนแรกที่ฟ้องร้องศาลให้ดำเนินคดีกับนักร้องที่ผลิตเพลงให้ ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ โดยเขาเล่าว่า “พี. ดิดดี้” มักจะลวนลามเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีกทั้ง ยังชอบชวนให้เขามีกิจกรรมทางเพศที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งรวมถึงการที่เขาต้องทำงานในห้องน้ำในระหว่างที่ “พี. ดิดดี้” กำลังเปลือยกายอาบน้ำ ที่เลวร้ายไปกว่านั้น เขายังเล่าด้วยว่าเคยถูกแร็ปเปอร์ดังวางยาจนเมาไม่รู้เรื่อง ตื่นมาอีกทีเขาก็นอนเปลือยอยู่บนเตียงกับ “พี. ดิดดี้” และหญิงขายบริการทางเพศอีกสองคน นอกจากนี้ โจนส์ยังอ้างว่าเขาตื่นขึ้นมาเปลือยกายบนเตียงกับคอมบ์สและโสเภณีอีกสองคนหลังจากถูกวางยา
11. เอ็มมิเน็ม
ส่วน “เอ็มมิเน็ม” แร็ปเปอร์ผิวขาวที่โด่งดังมากที่สุดในโลก แม้เขาไม่ได้ออกมาพูดให้สัมภาษณ์สื่อใดอย่างตรงไปตรงมาว่าเขากำลังแฉเรื่องผิดศีลธรรมและกฎหมายของ “พี. ดิดดี้” แต่ก็พยายามมาเปิดโปงเรื่องดังกล่าวผ่านเนื้อเพลงต่าง ๆ ของเขามานานกว่า 20 ปี ที่อยู่ในวงการดนตรีสหรัฐฯ เช่น เพลง “Antichrist” ที่มีเนื้อเพลง ระบุว่า “Next idiot ask me is getting his ass beat worse than Diddy did – But on the real, though, she probably ran out the room with his fucking dildo.” โดยเนื้อหาของเพลงท่อนนี้พยายามอธิบายรายละเอียดเหตุการณ์ที่ “พี. ดิดดี้” ถูกฟ้องในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อหลายคน และยังเหน็บแนบรสนิยมทางเพศแบบแปลก ๆ ของแร็ปเปอร์ผิวดำคนนี้ด้วย
12. เดรก
“เดรก” เคยพบปะและมีเรื่องชกต่อยกับ “พี. ดิดดี้” ที่ไนท์คลับ “LIV” ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ เมื่อปี 2014 ขณะที่ทั้งสองกำลังอยู่ในงานวันเกิดของ “ดีเจคาเล็ด (DJ Khaled)” ตามรายงานข่าวของ “Miami New Times” ระบุว่า ทั้งสองมีปากเสียงกัน ก่อนที่แร็ปเปอร์รุ่นใหญ่จะชก “เดรก” เข้าเต็มหน้า หลายคนลือว่าเป็นเพราะ “เดรก” แอบมองภรรยาคนสวยของ “พี. ดิดดี้” แต่วงในของทั้งสองศิลปินชื่อดัง คาดว่าเป็นเรื่องของค่าลิขสิทธิ์เพลงต่างหาก และเหตุการณ์นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความบาดหมางและไม่ค่อยจะชอบขี้หน้ากันระหว่างสองแร็ปเปอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค 90 และยุค 2000 ที่ยังคงถูกขุดขึ้นมาพูดอยู่เรื่อย ๆ
และนี่คือ 12 คนดังฮอลลีวูดที่พยายามออกมาเปิดโปงว่า “พี. ดิดดี้” นั้นเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหลายกระทง ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนและไม่มีใครคาดคิดว่า ผู้ทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมดนตรีสหรัฐฯ แถมมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่นับถือและชื่นชมของคนหมู่มาก จะเข้าไปพัวพันกับการฉ้อโกง, ค้ามนุษย์ทางเพศ และขนส่งเพื่อจุดประสงค์ในการค้าประเวณี ส่วนผลคำพิพากษาหลังกระบวนการพิจารณาคดีเสร็จสิ้นลงจะออกมาเป็นอย่างไร? The Joi จะรีบนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบโดยเร็วที่สุด!
ที่มาข้อมูล: WatchMojo และ YouTube/The 10 Beyond The Screen
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: พาส่อง 21 ดาราฮอลลีวูดที่กำลังเป็นดาวรุ่ง แต่อยู่ดี ๆ ก็หายหน้าไปจากวงการบันเทิงซะงั้น
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เปิดรายชื่อ 16 แร็ปเปอร์ที่ชอบอนิเมะ ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน!
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เผย 10 อันดับแร็ปเปอร์ที่รวยที่สุดในโลกประจำปี 2023 โดย HHGA