ตั้งแต่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตคนเราในสังคมมากขึ้น ก่อให้เกิดกระแสต่าง ๆ ขึ้น และแชร์ต่อได้อย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ และหนึ่งอย่างที่เป็นกระแสฮิตติดลมบนก่อนเราจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็เห็นจะเป็น “ชาเลนจ์ (Challenge)” ต่าง ๆ ที่มีคนทำและถ่ายภาพ หรือวิดีโอโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียให้คนอื่น ๆ ทำตาม
มีทั้งสร้างสรรค์ และได้ความสนุกสนาน กับตรงกันข้ามคือ อันตรายและไม่ควรลอกเลียนแบบเด็ดขาด เพราะอาจบาดเจ็บ พิการ หรือถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งมีให้เห็นเป็นข่าวกันมาแล้ว ซึ่ง The Joi จะพานั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลา ไปดู “10 ชาเลนจ์อันตรายเคยฮิตเล่นทั่วโลก” ที่มีคนเล่นจริง เจ็บจริง และตายจริง ไปดูกันดีกว่าว่า มีชาเลนจ์พิเรนทร์อะไรกันบ้าง
1. Outlet Challenge หรือ Penny Challenge
ชาเลนจ์ฮิตบนแพลตฟอร์มติ๊กต็อก โดยคนที่ดูคลิป หรือเพื่อนที่ถูกแท็กชื่อ “เอาเต้าปลั๊กที่ชาร์จโทรศัพท์เสียบกับเต้ารับที่ผนังแบบหลวม ๆ แล้วเอาเหรียญไปสัมผัสกับขาที่ชาร์จ เพื่อดันเต้าปลั๊กออกมา” สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไฟช็อต บางคนทำบ้านไฟดับทั้งหลังก็มี หรือโชคร้ายมากหน่อยก็เกิดไฟไหม้
2. Fire Challenge
เป็นการท้าให้ราดของเหลวไวไฟบนร่างกาย แล้วจุดไฟ จากนั้นให้รีบดับไฟให้เร็วที่สุด แน่นอนว่า ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไหม้…”ก็เกรียมเป็นตอตะโก”
3. Salt and Ice Challenge
ชาเลนจ์นี้ท้าให้ผู้เล่น “ทาเกลือลงบนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยเฉพาะแขน แล้วค่อยใส่น้ำแข็งลงบนเกลือ” เพื่อดูว่าใครสามารถเก็บน้ำแข็งไว้บนผิวหนังได้นานที่สุด และยาวนานแค่ไหน อันที่จริงชาเลนจ์นี้ฮิตเล่นมาตั้งแต่ปี 2000 บนเฟซบุ๊กและมายเสปซ แต่กลับมาฮิตเล่นทั่วโลก เมื่อมีแพลตฟอร์มอย่างติ๊กต็อก
ฟังแล้วดูจะเป็นชาเลนจ์ที่ไม่มีอะไร แต่หารู้ไม่ว่า การเก็บน้ำแข็งไว้บนผิวหนังเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดการไหม้อย่างรุนแรงบนผิวหนังของคุณ โดยผู้ที่เคยทำชาเลนจ์นี้บอกว่า แผลที่คุณจะได้รับจะรุนแรงถึงระดับ 2 และ 3 เลยทีเดียว หรืออาจเกิดความเสียหายของเส้นประสาทระหว่างการเล่น เนื่องจากความรู้สึกชา
4. Tide-pod Challenge
ฮิตเล่นมากในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยการ “กัดแคปซูลน้ำยาซักผ้าเข้าปาก” บางคนถึงขั้นดื่มเหล้าตามเข้าไปด้วย ซึ่งนั่นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ด้วยหน้าตาน้ำยาซักผ้าแบบแคปซูล หรือแบบใหม่ที่มีหน้าตาดึงดูดใจ สีสันสดใส แถมยังมีขนาดพอดีคำจนคล้ายขนมหวาน ทำให้มีหลายคนหยิบเข้าปากโดยไม่รู้ว่านี่คือ น้ำยาซักผ้า จุดประกายให้คนชอบเล่นพิเรนทร์ท้ากัดแคปซูลน้ำยาซักผ้านี้อย่างแพร่หลายบนโซเชียล
กรณีนี้กลายเป็นเรื่องขำขันในอินเทอร์เน็ต มีมีมจำนวนมากที่ตัดต่อ Tide Pods เข้าไปอยู่ในขนมและอาหารต่างๆ จนในที่สุดก็ลามไปถึง Tide Pods Challenge ที่เริ่มจากการทำเพื่อล้อเลียนเสียดสี แต่แล้วอิทธิฤทธิ์ของไวรัลก็ทำให้เริ่มแยกยากว่าอันไหนจริง อันไหนเล่น ด้วยเหตุนี้ทำให้มีการรณรงค์จากภาครัฐ ให้เด็ก ๆ คำนึงถึงอันตรายของการบริโภคน้ำยาซักผ้า
5. The Pass-out Challenge หรือ the Choking Game
มีชื่อชาเลนจ์ภาษาไทยว่า “ฝันหวานกดหลับ” และมีอีกหลายชื่อ เช่น fainting game และ space cowboy เป็นต้น เป็นการเล่นของวัยรุ่นที่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งอันตรายอาจถึงแก่ชีวิตได้ สำหรับวิธีการเล่น คือ “ให้เพื่อนหายใจเข้าออกลึก ๆ ช้า ๆ และยืนเบ่งท้อง แล้วให้เพื่อนอีกคนไปกดหน้าอก” การกระทำเช่นนี้ จะทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนเข้าหัวใจได้ และทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองลดลงจนเกิดอาการหมดสติ และชาเลนจ์นี้ก็ได้สังเวยชีวิตเด็กแล้วด้วย
6. Coronavirus Challenge
ชาเลนจ์นี้เกิดขึ้นช่วงต้นของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อปี 2020 นิยมท้าเล่นกันในหมู่เด็ก ๆ ผู้เล่นจะต้องเลียวัตถุอะไรก็ได้ในสถานที่สาธารณะ ที่ไหนก็ได้ เป็นการพิสูจน์ว่า “วัตถุที่เลียนั้น สะอาดไร้ไวรัส” เช่น ฝาโทส้วม เก้าอี้ เสาไฟ เป็นต้น และแน่นอนว่า มีบางคนที่เล่นแล้วก็ติดโควิดจริง ๆ ทำเอาชาวเน็ตเห็นแล้ว ไม่รู้จะสงสาร หรือสมน้ำหน้าดี?
7. Neck Nominate
“เป็นการเล่นเกมแข่งขันกันดื่มแอลกอฮอล์ออนไลน์” โดยแต่ละคนจะทำการถ่ายคลิปวีดิโอของตัวเองในขณะที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ๆ โดยการกระทำแบบนี้มีการใช้คำเรียกในภาษาอังกฤษว่า “Necking” แล้วจึงนำคลิปวีดีโอนั้นไปโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต โดยติดแฮชแท็ก #neknominate เพื่อท้าให้คนอื่นที่ชมคลิปนี้ต้องดื่มแอลกอฮอล์ให้ได้ในปริมาณที่มากกว่าตัวเอง และจะต้องสรรหาวิธีการดื่มที่พิสดารด้วย เช่น ดื่มผสมกับเครื่องดื่มอื่น ดื่มไปกระโดดไปบนโซฟา เป็นต้น) และกระแสเพี้ยนนี้ ทำให้มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 3 คนแล้วในอังกฤษ
8. Kylie Jenner lip challenge
การทำปากหนา อวบอิ่มให้เหมือนกับคนดังอย่าง “Kylie Jenner” ทั้งที่ริมฝีปากที่อวบอิ่มของเธอ เป็นผลมาจากการศัลยกรรมความงาม และผู้ที่เล่นชาเลนจ์นี้ส่วนใหญ่ก็เป็นแฟนคลับของสาว Kylie เกือบทั้งหมด วิธีเล่นคือ วางแก้วช็อตขวดเล็กหรือขวดไว้รอบริมฝีปาก จากนั้นดูดอากาศออกเพื่อสร้างสุญญากาศ หลังจากใช้เวลาหลายนาทีในการจับริมฝีปากของพวกเขาในแก้วช็อต ที่มีอากาศถ่ายเท ริมฝีปากของพวกเขาก็จะพองขึ้น
แน่นอนว่าทำให้เกิดริมฝีปากบวมและดูอิ่มจริง แต่ยังสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวด บวม ช้ำ รอยแผลเป็น หรือแม้แต่ทำให้เสียโฉมได้
9. Skull breaker challenge หรือ Tripping jump challenge
มีลักษณะการเล่นคือ “เด็ก 2 คนจะหลอกให้เพื่อนคนที่ 3 ยืนตรงกลางกระโดดขึ้นพร้อม ๆ กัน แล้วสองคนด้านข้างจะเตะตัดขาคนกลางให้ล้มลงหงายหลังลงกับพื้น” ซึ่งเสี่ยงสูงมากที่อาจจะเกิดอันตรายจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือกระดูกสันหลังส่วนต้นคอ ทำให้เกิดอันตราย ถึงกับอัมพาต หมดสติและเสียชีวิตได้ และยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ มีเด็กเล่นกันทั่วโลก รวมถึงเด็กไทย จนเป็นชาเลนจ์ที่เก็บครบความอันตราย ทั้งเล่นแล้วเจ็บ พิการ และเสียชีวิตได้
10. Momo Challenge
ชาเลนจ์สุดสยองที่ชักนำผู้เล่นไปสู่ความตาย ระบาดอย่างหนักในหลายประเทศของอเมริกาใต้ และก็ลามไปทั่วโลกในที่สุด เพราะอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก ทั้งในอินเดีย, สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส และเยอรมนี ผู้ปกครองต้องช่วยดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว เกิดจากแอคเคาท์ที่ใช้ชื่อว่า “Momo” และจะทำการติดต่อกับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-16 ปี ผ่านแอปพลิเคชัน Whats App ซึ่งผู้เล่นเกมจะถูกท้าทายให้ทักไปยังบัญชีผู้ใช้ที่ชื่อ Momo เมื่อทักไปแล้วทางแอคเคาท์ดังกล่าว ก็จะส่งรูปภาพหญิงสาวที่น่าสยอดสยอง พร้อมข้อความข่มขู่ผู้เล่นเกมให้ทำตามชาเลนจ์ของ Momo จนครบทุกข้อ โดยข้อสุดท้ายคือ การฆ่าตัวตาย ซึ่งมีรูปแบบคล้ายกับ Blue Whale Challenge ที่เคยระบาดในโลกอินเทอร์เน็ตของรัสเซียก่อนหน้านี้
รู้จักชาเลนจ์อันตรายทั้ง 10 ได้เห็นทั้งวิธีการเล่น และผลลัพธ์ของการเล่นดังกล่าวไปแล้ว The Joi หวังว่าทุกคนจะเก็บไว้เป็นอุทาหรณ์ ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง “เด็ดขาด” และหวังว่าจะไม่มีใครขุดขึ้นมาเล่น แล้วปั่นจนฮิตบนโซเชียลอีก
ที่มาข้อมูล CNBC