ทุกกคนยังจำกันได้มั้ย? ว่าตอนเด็กคุณพ่อคุณแม่ หรือญาติผู้ใหญ่เคยเล่าเรื่องความเชื่อโบราณอะไรให้ฟังบ้าง หลายคนคงอาจจำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ถ้าเป็นยความเชื่อที่มีเอี่ยวกับผี The Joi เชื่อว่าทุกคนจำได้แม่นอย่างแน่นอน และบางคนเชื่อว่าเป็นจริงดังคำเขาเล่าว่านั้น แม้ว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม
แต่ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับผีใดเล่า ที่ชาวไทยนิยมเล่าปากต่อปากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน? ถ้าอยากรู้ก็ตาม The Joi ไปดูกันเลย!
1. ห้ามผิวปากตอนกลางคืน
เพราะเชื่อว่าผีจะมาบิดปาก หรือเป็นการเรียกผีมาหา ทั้งที่ความเชื่อนี้นำมาเล่าหลอกเด็ก ก็เพราะไม่ให้เด็กทำเสียงดังพร่ำเพรื่อนั่นเอง
2. ห้ามเล่นซ่อนแอบกลางคืน
เพราะผีจะมาบังให้คนหาไม่เจอ ความเชื่อโบราณนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ต้องการหลอกเด็กไม่ให้วิ่งเล่นตอนกลางคืนเสียงดัง และเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุหกล้มหัวแตก หรือเป็นแผลตามตัว
3. นอนต้องห่มผ้า ไม่เช่นนั้นผีจะมาดึงขา
ความเชื่อโบราณนี้ต้องการหลอกให้เด็กนอนให้เรียบร้อย เพราะการปล่อยให้เท้าเย็นจะทำให้เด็ก ๆ ป่วยได้ อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่ก็เป็นจ้า ดังนั้น เราจึงเห็นผู้ใหญ่บางคน โดยเฉพาะผู้สูงวัยสวมถุงเท้านอน
4. ห้ามส่องกระจกกลางคืน จะเห็นผีในกระจก
ความเชื่อโบราณนี้มีความเป็นไปได้ 50/50 แต่หลัก ๆ แล้ว การตื่นมาส่องกระจกตอนกลางคืน (แบบไม่เปิดไฟ) จะทำให้แสงจากไฟฉาย หรือมือถือสะท้อนเข้านัยน์ตาของเรา และนั่นเป็นการรบกวนประสาทสายตาทำให้นอนหลับยาก
5. ห้ามตากผ้าข้ามคืน เพราะผีกระสือจะเอาไปเช็ดปาก
เป็นความเชื่อโบราณนี้เอาไว้หลอกเด็กมักง่าย ที่คิดว่าจะซักผ้าเมื่อไหร่ก็ได้ ก็สะอาดเหมือนกันหมด ทั้งที่จริง ๆ แล้ว การซักผ้าตอนกลางคืนก็ไม่ไดผิดอะไร แต่มันจะผิดก็ตอนตากนี่แหละ เนื่องจากไม่มีแดด หรือความร้อน ทำให้ผ้าที่ตากนั้นแห้งยากและอาจมีกลิ่นเหม็นอับอีกต่างหาก
6. ห้ามเคาะช้อนเคาะจานเวลาทานข้าว เพราะเชื่อว่าเป็นการเรียกผีเรียกวิญญาณ
เป็นความเชื่อหลอกเด็กให้กลัว แล้วจะได้ไม่ทำกิริยาที่ไม่เหมาะสมบนโต๊ะอาหารต่างหาก เพราะเสียงเคาะจานมันก่อความรำคาญโสตประสาทหูไม่ใช่น้อย และบางรายเคาะแรง จานชามบิ่น หรือแตกเสียหาย งานนี้ผีไม่น่ามา แต่จะมีมือมาตบหัวแทนซะมากกว่า
7. คนเป็นแผลห้ามไปงานศพ เชื่อว่าจะแสลงทำให้แผลหายยาก หรือไม่หายยิ่งเป็นหนักกว่าเดิม
ความเชื่อโบราณนี้เป็นการหลอกให้เด็ก ๆ ที่ยังเจ็บป่วยไม่ว่าจะทางกาย หรือใจได้นอนพักผ่อนอยู่บ้านเต็มที่ จะได้หายไว ๆ การมาร่วมพิธีศพอาจทำให้เด็ก ๆ เพลียหนักกว่าเดิม หรือได้แผลเพิ่มมาอีกต่างหาก เพราะเดินโซซัดโซเซหกล้ม เดินชนนั่นนี่ด้วยความที่ไม่ระมัดระวังตามประสาเด็ก
8. ถ้ามีคนเรียกในตอนกลางคืน ห้ามขานรับ เพราะเป็นวิญญาณที่จะเอาเราไปอยู่ด้วย
เป็นอีกหนึ่งความเชื่อโบราณเหมือนกับการห้ามเด็กผิวปาก ที่ห้ามขานรับก็เพราะจะเป็นการรบกวนคนอื่นที่นอนด้วยกัน หรือนอนข้างห้อง หรือเพื่อนบ้านต่างหาก หรือเลวร้ายกว่า เสียงที่คุณอาจได้ยินอาจเป็นเสียงของหัวขโมยที่ขึ้นบ้าน การส่งเสียงดังอาจเป็นอันตรายแก่ตัวเอง
9. ห้ามนอนตรงกับเสาหรือคานห้อง เชื่อว่าจะโดนผีอำ
ทาง “หมอมาโนช ประภาษานนท์” ซินแสฮวงจุ้ยชื่อดังได้บอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปกติแล้วถ้าหากบ้านของคุณเป็นคานไม้จะเป็นแหล่งสะสมของขี้ฝุ่น หรือยักไย่ ซึ่งการนอนตรงกับคานจะทำให้เราสูดขี้ฝุ่นที่ตกลงมา ทำให้เราไม่สบาย
10. ห้ามเล่นน้ำในเวลากลางคืน เพราะจะโดนผีพรายลากลงไปในน้ำ
ความเชื่อโบราณนี้เป็นการหลอกไม่ให้เด็กเสี่ยงอันตราย เพราะการว่ายน้ำตอนกลางคืนอาจทำให้แขนขาของเด็กเป็นตะคริว ซึ่งเสี่ยงต่อการจมน้ำ เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำตอนกลางคืนจะเย็นกว่าตอนกลางวัน ที่สำคัญหากเกิดอุบัติเหตุในน้ำจะไม่มีใครสังเกตเห็นได้
รู้แบบนี้แล้วก็ไม่ต้องกลัวหัวหด ว่าถ้าเผลอทำแล้วจะเจอผี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนตัวของแต่ละบุคคล ใครที่เชื่อก็ไม่ต้องทำ ส่วนใครที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หรือไม่เชื่อเลย จะทำก็ไม่ผิด ส่วนใครจะนำความเชื่อโบราณนี้ไปเล่าต่อให้เด็ก ๆ ฟังก็ว่ากันจ้า
บทความที่เกี่ยวข้อง: ชี้เป้า 8 เพจเลี้ยงลูก และ Influencer สายแม่และเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรฟอลไว้!
บทความที่เกี่ยวข้อง: ส่อง 20 การบ้านเด็กกับคำตอบสุดตลกจนพ่อแม่ต้องหัวเราะทั้งน้ำตา
บทคความที่เกี่ยวข้อง: รวม 5 กระทู้เรื่องเล่าผี ที่หลายโรงเรียนมีเหมือนกัน
ที่มาข้อมูล Gang Beauty