ไม่ปลื้ม! ไรเดอร์ “ฟู้ดแพนด้า” จังหวัดเชียงใหม่ ขู่หยุดวิ่งส่งอาหาร 25 สิงหาคมนี้ หลังถูกลดค่ารอบบริการ

“ฟู้ดแพนด้า” เจอวิกฤตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่จ่อสั่งปลดพนักงานเข้าร่วมม็อบเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา จนทำชาวเน็ตเดือดแห่แบนจนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ แม้จะออกมายืนยันว่า “ยังไม่ไล่ไรเดอร์” และขณะนี้เกิดปัญหาอีกรอบ เมื่อ “ไรเดอร์” หรือ “คนส่งอาหาร” ขู่จะหยุดส่งอาหารในวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เป็นการประท้วง หลังแอปพลิเคชันรายนี้ ลดค่ารอบบริการ

โดยกลุ่มไรเดอร์ของบริษัท “ฟู้ดแพนด้า (ไทยแลนด์) จำกัด” ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานฟู้ดแพนด้าเชียงใหม่ ภายในโครงการ เจเจ มาร์เก็ต ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับทางบริษัทและยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้บริหารเมื่อวานนี้ (23 สิงหาคม 2564) หลังได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทปรับลดค่ารอบบริการ ในทุกระดับของไรเดอร์ จากเดิมราคารอบละ 27 บาท เหลือเพียง 23 บาท

ในหนังสือร้องเรียนมีเนื้อหาระบุว่า “ตามที่ทางบริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงระบบค่ารอบของไรเดอร์จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 23 สิงหาคม 2564 นั้น ทางกลุ่มไรเดอร์จังหวัดเชียงใหม่ อยากทราบรายละเอียดการปรับค่ารอบในครั้งนี้ ดังนี้

1. ทางกลุ่มไรเดอร์จังหวัดเชียงใหม่ อยากทราบเรื่องผลตอบแทนว่า ทางบริษัทฯ คิดคำนวณผลตอบแทนแบบไหน อย่างไร โดยอ้างอิงจากสภาวะเศรษฐกิจ และค่าครองชีพ ณ ปัจจุบันหรือไม่

2. กลุ่มไรเดอร์จังหวัดเชียงใหม่ อยากให้บริษัทฯ ยึดผลตอบแทนแบบเก่า ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นค่าตอบแทนแบบใหม่ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ และค่าครองชีพที่สูงขึ้นโดยตลอด แต่ผลตอบแทนที่ทางบริษัทฯ ได้ปรับปรุงมานั้นไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน

ดังนั้น ทางกลุ่มไรเดอร์ฟู้ดแพนด้า จังหวัดเชียงใหม่ ขอทราบรายละเอียดตามที่แจ้ง ภายในเวลา 18:00 น. ของวันนี้ (24 สิงหาคม 2564) หากทางกลุ่มไรเดอร์ยังไม่ได้รับคำตอบตามช่วงเวลาดังกล่าว ทางกลุ่มฯ จะขอยุติการทำงานวิ่งรับงานออเดอร์ในวันพรุ่งนี้ หรือวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะได้รับทราบรายละเอียดดังกล่าว”

จากเหตุการณ์ดังกล่าว คงทำให้ใครหลายคนสงสัยว่า “แอปพลิเคชันส่งอาหารใด ให้ผลตอบแทนไรเดอร์ดีที่สุด?!”

จากการสำรวจรายได้ไรเดอร์แต่ละเจ้า โดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ พบว่า…

แกร็บ

คนขับจะได้รายได้จากค่าจัดส่งเริ่มต้นที่ 40 บาท และหากจัดส่งอาหารระยะทางมากกว่า 3 กิโลเมตร ก็จะได้รับค่าบริการต่อกิโลเมตรเพิ่มขึ้น และจะหักค่าคอมมิชชั่น 15 เปอร์เซ็นต์ จากค่าจัดส่งด้วย นอกจากนี้ ยังมีระบบที่เรียกว่า  “อินเซนทีฟ” หรือ รายได้เพิ่มเติม ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบการสะสมเพชร เพื่อรับเงินโบนัสเพิ่ม และโบนัสเงินสด ที่คนขับจะต้องขับตามเงื่อนไขที่แกร็บกำหนด เช่น หากขับในวันศุกร์-อาทิตย์ ครบ 10 รอบ จะได้เงินสดเพิ่ม 500 บาท เป็นต้น โดยระบบอินเซนทีฟจะคำนวณเป็นรายสัปดาห์ และจะโอนเข้ากระเป๋าเงินคนขับทุก ๆ วันพุธ

ฟู้ดแพนด้า

ส่วนฟู้ดแพนด้าที่ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทย ซึ่ง คนขับฟู้ดแพนด้า จะมีรายได้มาจากค่าจัดส่งเฉลี่ย 33 บาทต่อออเดอร์ โดยคนขับแต่ละคนจะได้รับไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับคะแนนการทำงานหรือแบช (งานที่มีมากกว่า 1 คำสั่งซื้ออยู่ในงานครั้งเดียวกัน)

สำหรับเกณฑ์การคำนวน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามเขตจังหวัด ได้แก่ กลุ่ม A วิ่งในช่วงเวลาพิเศษ จะได้คะแนน 30 เปอร์เซ็นต์ วิ่งครบตามชั่วโมงที่จองได้ 30 เปอร์เซ็นต์ ไม่ขาดงานในเวลาที่เลือกไว้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ และจำนวนออเดอร์ที่กดรับอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลุ่ม B วิ่งในช่วงเวลาพิเศษ จะได้คะแนน 30 เปอร์เซ็นต์ วิ่งครบตามชั่วโมงที่จอง 40 เปอร์เซ็นต์ ไม่ขาดงานในเวลาที่เลือกไว้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ และจำนวนออเดอร์ที่กดรับอีก 10 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับโบนัสเพิ่ม ต่อที่ 1 ทำครบ 80 ออเดอร์ ภายใน 7 วัน รับโบนัส 250 บาท, ต่อที่ 2 ทำครบ 340 ออเดอร์ ภายใน 30 วัน รับโบนัส 250 บาท, ต่อที่ 3 ทำครบ 500 ออเดอร์ ภายใน 45 วัน รับโบนัส 250 บาท และต่อที่ 4 รับโบนัสเพิ่ม 750 บาท

ไลน์แมน

ขณะที่ไลน์แมน การันตีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 26,000 บาทต่อเดือน โดยบริการส่งอาหารเริ่มต้นที่ 55 บาท บวกกับค่าจัดส่งเพิ่มเติม กิโลเมตรละ 9 บาท โดยจะมีการหักค่าคอมมิชชั่น 15% ด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา กลุ่มไรเดอร์ไลน์แมนได้นัดรวมตัว เพื่อแสดงความไม่พอใจที่แอปพลิเคชัน ไลน์แมน ได้ปรับอัตราค่ารอบใหม่ ที่มีการอัตรารับส่งอาหาร 3 กิโลเมตรแรก อยู่ที่ 50 บาท และเมื่อหักค่าบริหารจัดการ เหลือ 41 บาท จากเดิมอยู่ที่ 62 บาท และเมื่อหักค่าบริหารจัดการแล้ว ไรเดอร์จะได้รับ 51 บาท

ที่มาข้อมูล Tnews