ข่าวสดรายงานว่า วันนี้ (30 กรกฎาคม 2564) วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดสที่สหรัฐอเมริกาบริจาคให้ไทย ได้เดินทางมาถึงและส่งเข้าเก็บคลังจัดเก็บวัคซีนแล้ว โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว. สาธารณสุข เป็นคนไปรับวัคซีนด้วยตนเองเอง
ทั้งนี้วัคซีนไฟเซอร์ต้องผสมการฉีดร่วมกับน้ำเกลือ เนื่องจากเป็นวัคซีนชนิดเข้มข้น 1 ขวด ฉีดได้ 6 คน และเมื่อกระจายไปจุดฉีดจะเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้วัคซีนมีอายุสั้นลง จึงต้องเร่งฉีดภายใน 4 สัปดาห์
คำถามต่อมาคือ ใครจะได้ฉีดบ้าง? สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส มีกลุ่มเป้าหมาย คือ
- บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน) จำนวน 700,000 โดส
- ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่มีสัญชาติไทย จำนวน 645,000 โดส
- ผู้สูงอายุ
- ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค อายุ 12 ปีขึ้นไป
- หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
- ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้เดินทางไปต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องรับวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักการทูต นักศึกษา จำนวน 150,000 โดส
- ทำการศึกษาวิจัย (ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) จำนวน 5,000 โดส
- สำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ จำนวน 40,000 โดส
โดยอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ระบุว่า สหรัฐจะส่งวัคซีนมาให้ไทยอีก 1 ล้านโดส และย้ำว่า สหรัฐจะยังคงอยู่เคียงข้างประเทศไทยต่อสู้กับโควิด-19
ที่มาข้อมูล ข่าวสด, ประชาชาติธุจกิจ