หลังคนบนเรือสปีดโบ๊ททั้ง 5 คน และกุนซือได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมกับผู้เสียหาย หรือ “แม่แตงโม” หรือ “จิ๋ม-ภนิดา ศิระยุทธโยธิน” โดยจะชดใช้ค่าเสียหายต่อหน้าศาลในส่วนคดีแพ่ง รวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท และทำสัญญาให้เงินคุณแม่รายเดือน เดือนละ 30,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี รวมเป็นเงินทั้งหมด 9.2 ล้านบาท ที่ศาลจังหวัดนนทบุรีเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565
ดูเหมือนอะไร ๆ จะลงตัวสำหรับคุณแม๊คนสวยของ “แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์” แล้ว แต่เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565 “แม่แตงโม” ได้ไปนั่งให้สัมภาษณ์ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ซึ่งออกอากาศทางช่องไทยรัฐทีวี ในประเด็น “ชีวิตนางเอกชื่อดังมีค่าแค่เงิน 9.2 ล้านหรือ?”
“แม่แตงโม” พูดถึงเรื่องเงินเยียวยา 9.2 ล้านบาทไว้ว่า อันที่จริงมีการเจรจาตกลงเรื่องเงินเยียวยาผู้เสียหายมาแล้ว 5 ครั้ง กับ “ปอ-ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์” และ “โรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์” และครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นศาล โดยหัวหน้าทีมทนายฝั่งคุณแม่ มีคำสั่งว่า ถ้าไม่ได้ 20 ล้านไม่ต้องกลับมา ตอนนั้น “ปอ” กับ “โรเบิร์ต” ถึงขั้นกินข้าวไม่ลง
ด้าน “ทนายชัยวัฒน์” เผยว่า “แม่แตงโม” ได้รับแค่ 9.2 ล้านเพียงพอแล้วเหรอ เป็นการผ่อนชำระระยะยาว 20 ปี และถามความเห็นของคุณแม่ว่า เจตนาจริง ๆ ต้องการลงโทษจำเลย, ต้องการเงิน หรือต้องการประนีประนอม ก็ต้องสอบข้อเท็จจริงตรงนี้ให้ได้ก่อน
แต่คุณแม่ได้พิจารณาจากหลายองค์ประกอบรวมทั้งหลักฐานที่ลูกสาว “แตงโม นิดา” ตกน้ำ ก็ไม่มีเลย ดูแล้วไม่เข้าท่าสักเรื่อง จึงเห็นว่า “ไม่ต้องการให้จำเลยโดนลงโทษยาวขนาดนี้ มันมากไป ลูกเมียเขาก็มี ลูกเราก็เสียไปแล้ว ลูกเราอยู่ในเรือด้วยกัน อาจจะประมาทตกท้ายเรือ ไม่มีใครเห็น ไปปัสสาวะท้ายเรือ เกาะขาแซน (วิศาพัช มโนมัยรัตน์) ก็แซนเห็นคนเดียว คนอื่นไม่มีใครเห็นนะ แม่มองว่าเจตนาฆ่ามันแรงไป และมันยากที่จะเจอหลักฐาน ลูกเราก็อาจประมาทด้วย เพราะเขาก็ดื่มสุรากันทั้งเรือ”
เมื่อ “แม่แตงโม” ไม่อยากให้ “ปอ” กับ “โรเบิร์ต” ติดคุก ก็เลยลดตัวเลขลงมา รวมทั้งให้อภัย มีการดูแลกันตั้งแต่ต้น ที่สำคัญทั้งสองยังได้อุปการะคุณแม่ตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้น คิดเป็นเงินมากกว่า 9.2 ล้านบาทอยู่แล้ว แต่ระยะเวลา 20 ปีนั้นนานเกินไปสำหรับ “แม่แตงโม” เพราะอายุอานามเธอก็ปาเข้าไป 67 ปีแล้ว ต่อไปจะเจรจาต่อรองกับลูกคนใหม่ทั้งสองคือ “ปอ-โรเบิร์ต” และจำเลยใน “คดีแตงโม” ที่เหลือ จากเดิมชำระเงินเยียวยาเดือนละ 30,000 เป็น 50,000 บาทแทน เพื่อให้ระยะเวลาลดลง
ส่วนเรื่องรถที่ “แม่แตงโม” ขอ “ปอ” เขาจะหาให้ใหม่ เพราะเขาขายรถอยู่แล้วและมีทุกยี่ห้อ ที่พิเศษสุดคือ เขาจะเชิญคุณแม่ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยเขาขายรถ และตอนนี้คุณแม่ก็วางแผนจะทำบุญให้ลูกสาว พร้อมกับตั้งมูลนิธิให้ “แตงโม” โดยมีคุณแม่เป็นประธาน “ปอ” เป็นรองประธาน
นอกจากนี้ “แม่แตงโม” ยังได้เผยความรู้สึกต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตที่ตั้งคำถามกับคุณแม่ว่า “ลูกสาวมีค่าแค่เงิน 9.2 ล้านเหรอ?” เธอก็ขอบอกว่า “ค่าชีวิตของใครก็ตาม ซื้อไม่ได้ด้วยเงินเท่าไหร่ ค่าชีวิตมันประเมินไม่ได้ ส่วนที่เป็นเงินเยียวยาเท่านั้น เพราะเขามีกำลังเท่านั้น ในขณะนั้น แล้วจะให้คุณแม่ไปบี้ ไปหามา 20-30 ล้านเดี๋ยวนี้ มันทำไม่ได้ เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราก็จ่ายเงินกันต่อหน้าศาล เซ็นเอกสาร รับเรียบร้อยต่อหน้าศาล”
“คุณแม่ไม่ได้ทิ้งในการตามหาความยุติธรรม ตราบใดคดีไม่ถึงที่สุด ศาลก็ไม่ได้พิพากษา การสืบหาพยานเพิ่มเติม ถ้ามีพลเมืองดี หรือมีข้อมูลใหม่ ๆ ว่า น้อง (แตงโม) โดนกระทำโดยเจตนาหรือฆาตกรรม ก็มีสิทธิ์หยิบยกคดีขึ้นฟ้องได้ ตอนนี้ศาลไม่ได้พิพากษาตามยอม ตามที่เราประนีประนอมกัน แต่เหมือนให้ชดใช้ไปก่อนในก้อนแรก” และย้ำว่า “แม่ไม่รักลูกไม่มี ไม่มีใครไม่รักลูกตัวเอง” ก่อนจบรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ”
ดูคลิปสัมภาษณ์ “แม่แตงโม” เต็ม ๆ ทางรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางช่องไทยรัฐทีวี ที่นี่เลย
ที่มาข้อมูล: YouTube/เปิดปากกับภาคภูมิ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “แม่แตงโม” เผยแผนรีโนเวทบ้านลูกสาว ก่อนขายทอดตลาดเก็งกำไร
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ทัวร์ลงผิดที่! หนุ่มเบรกรถทัวร์ชาวเน็ต “นี่แม่ผมเองใจเย็นก่อน” หลังคนเข้าใจผิดว่าเป็น “แม่แตงโม”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น! เผยภาพ “แม่แตงโม นิดา” อดีตนางเอกดังแถวหน้าของไทยยุคทีวีขาวดำ