คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ “แมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติประเภทสัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการอนุรักษ์สายพันธุ์แท้ 5 สายพันธุ์ พร้อมส่งเสริมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของและต่อยอดมูลค่าทางเศรษฐกิจของแมวไทยพันธุ์แท้ในระดับสากล

Pixelshot/แมววิเชียรมาศ
เมื่อวานนี้ (18 พฤศจิกายน 2568) “นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการกำหนดให้ “แมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง ตามที่คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ (กอช.) เสนอ โดยการตัดสินใจครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการอนุรักษ์สายพันธุ์แมวไทยแท้และรักษาสิทธิ์ความเป็นเจ้าของสายพันธุ์ ตลอดจนส่งเสริมการต่อยอดด้านเศรษฐกิจและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับแมวไทย

Getty Images/Bigandt_Photography: แมวโคราช
โฆษกรัฐบาลระบุต่อว่าผลการศึกษาทางประวัติศาสตร์และพันธุกรรมพบว่า “แมวไทย” มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งรูปลักษณ์และนิสัยแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น อีกทั้งอยู่คู่กับสังคมไทยมานาน ปัจจุบันแมวไทยพันธุ์แท้เหลือเพียง 5 สายพันธุ์ ได้แก่…
1. แมวศุภลักษณ์
2. แมวโคราช
3. แมววิเชียรมาศ
4. แมวโกญจา
5. แมวขาวมณี
การประกาศให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติจะช่วยให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันกำหนดมาตรฐานสายพันธุ์แมวไทยแท้ ส่งเสริมการเลี้ยงแมวไทยอย่างถูกต้อง และป้องกันการนำสายพันธุ์ไปจดทะเบียนโดยชาวต่างชาติ นอกจากนั้นยังเป็นการโอกาสในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการส่งออก การเลี้ยงสัตว์ และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้อง

Pixabay/nvd9612: ปลากัด
สำหรับบริบททางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 2507-2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติประกาศ “เอกลักษณ์ประจำชาติไทย” ในหลายมิติ เช่น “ช้างไทย” เป็นสัตว์ประจำชาติ, “ปลากัดไทย” เป็นสัตว์น้ำประจำชาติ, “นาค” เป็นสัตว์ในตำนาน และ “การไหว้” เป็นเอกลักษณ์ประเภทการทักทายและการแสดงความเคารพแบบไทย
ที่มาข้อมูล: ไทยรัฐออนไลน์
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: ทาสแมวเลิฟเลย! “น้องนวล” แมวกต. ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์โปรโมทการประชุม APEC 2022 ในไทย
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: รู้จัก 5 สายพันธุ์แมวมงคลสัญชาติไทยแท้ ๆ ที่คนนิยมเลี้ยงไว้เรียกทรัพย์!
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เผย 10 สายพันธุ์แมวที่ฉลาดที่สุดในโลก แถมยังน่ารักและน่าเลี้ยง!
