วงการตำรวจยังคงมีประเด็นร้อนให้ประชาชนได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ต่อจากคดีของ “อดีตผู้กำกับโจ้” ก็มี “แพทย์ตำรวจ” ขับปอร์เช่ชนรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ บนถนนราชพฤกษ์ ใต้สถานีบีทีเอสบางหว้า ทำให้ผู้ที่นั่งมาในรถยนต์ซิตี้ เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย
อุบัติเหตุไม่คาดฝันนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา เมื่อ “ร.ต.ท. ภาณุรักษ์ รัตนไพศร” นายแพทย์ (สบ. 1) กลุ่มงานศัลยกรรมของโรงพยาบาลตำรวจ ขับรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ รุ่น Cayenne สีขาว ป้ายแดง ชนท้ายรถฮอนด้า รุ่น city สีดำ คู่กรณี จนกระเด็นไปไกลกว่า 50 เมตร ส่งผลให้รถคู่กรณีฟาดซ้ำเข้ากับราวเหล็กกั้นขอบทางด้านขวาสุดจนพังยับทั้งคัน ทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย ในที่เกิดเหตุทันที เนื่องจากคอหัก ประกอบด้วย “น.ส. พรยมล แซ่ลิ่ม” อายุ 29 ปี และ “นายชาคริต สิริอิสสระนันท์” อายุ 75 ปี ส่วนผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส “น.ส.ผ่องเพชร สิริอิสสระนันท์” อายุ 44 ปี กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างออกจากซากรถนำส่งไปโรงพยาบาลศิริราช ให้แพทย์รักษาอย่างเร่งด่วน
ขณะที่แพทย์ตำรวจถูกนำตัวไปตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดในเวลาประมาณ 06:00 น. ซึ่งใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุมากที่สุด ตรวจวัดค่าได้ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่กฎหมายกำหนดในการขับขี่ หลังจากนั้น ในเวลา 11:00 น. ผู้ขับขี่ได้ขอให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อีกครั้งนึง ตรวจวัดได้ประมาณ 44 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
แม้ว่าการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดครั้งที่ 2 จะต่ำกว่าเกณฑ์เมาแล้วขับ แต่ “พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย” รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ (31 สิงหาคม 2564) ว่า ในการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา “จะต้องยึดค่าที่ตรวจวัดได้ครั้งแรก เพราะวัดในเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุมากที่สุด” ส่วนค่าแอลกอฮอล์ที่ลดลงภายหลัง จะถูกนำมาใช้ประกอบการสอบสวนเท่านั้น
และขณะนี้ “พ.ต.อ. สุรเวช การวัฒนาศิริกุล” ผู้กำกับสถานีตำรวจภาษีเจริญ เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ข้อหา กับว่าที่ “ร.ต.อ. ภาณุรักษ์ รัตนไพศร” ได้แก่ เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต, เมาแล้วขับเป็นเหตุทำให้เสียทรัพย์ และขับขี่ยานพาหนะเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดไว้
โดยแพทย์ตำรวจผู้ก่อเหตุเองรับทราบทันที และได้ขอใช้เงินสดจำนวน 2 แสนบาท เพื่อขอประกันตัว โดยอ้างว่าเพื่อไปช่วยเหลือและดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยจะดูแลอย่างดีที่สุด ส่วนเรื่องที่เป็นประเด็นดราม่าก่อนหน้านี้ เรื่องที่ฝ่ายผู้สูญเสียเกรงว่าตำรวจจะช่วยเหลือกัน โดยไม่แจ้งข้อหาเมา ตนเชื่อว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาด ขอให้มั่นใจว่าคดีนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน
ขณะที่ “นายกานต์พงศ์ สิริอิสสระนันท์” ลูกชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุน้องสาวของตนเป็นผู้ขับขี่ มีพ่อและลูกศิษย์ที่เรียนวิ่งมาราธอนกับพ่อนั่งด้านหลัง กำลังจะไปวิ่งที่พุทธมณฑล แต่มาเกิดเหตุก่อน เมื่อวานมีโอกาสเจอคนขับรถปอร์เช่ เห็นว่ามีท่าทีโศกเศร้าเสียใจ พร้อมกับกล่าวขอโทษและบอกว่ายินดีจะรับผิดชอบทุกอย่าง ซึ่งตนเองส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเห็นว่ามีท่าทีสำนึกผิด ก่อนนำร่างของผู้เสียชีวิต กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทันที
ที่มาข้อมูล ข่าวสดออนไลน์และ PPTV